อย่างที่ทราบกันดีว่า Google ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Pixel 2 และ Pixel 2 XL อย่างทางการแล้ว และมาพร้อมคำชมในเรื่องคุณภาพกล้อง แต่ไม่มีสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ใดที่จะมีความสมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน และเว็บไซต์ The Verge ได้พบจุดเด่นที่ดีที่สุด รวมถึงข้อด้อยของ Pixel รุ่นใหม่ หลังจากได้นำสมาร์ทโฟนมารีวิว
ข้อดีของ Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL
Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL มีกล้องเป็นจุดเด่นเหมือนกัน
ความจริงแล้วกล้องดิจิตอลของ Pixel 2 ไม่ได้มีสเปกที่โดดเด่นไปกว่า Pixel รุ่นแรกเท่าไรนัก ในขณะที่คู่แข่งนำกล้องคู่มาใช้ Google ยังเลือกใช้กล้องเลนส์เดียว แต่พัฒนาซอฟต์แวร์ให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้เหมือนกัน โดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มโมดูลกล้องที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ราคาขายปลีกก็ถูกลง
ฟีเจอร์ใหม่ Google Lens, AR stickers และ Assistant squeeze
Google เน้นพัฒนาด้านซอฟต์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์ นอกเหนือจากระบบปฏิบัติการแบบ Stock Android ยังนำเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ AR (Augmented Reality) มาแข่งขันกับ ARKit ของ Apple ด้วย รวมถึงท้าทาย Bixby จาก Samsung
Pixel 2 มาพร้อม Google Lens ช่วยให้กล้องของสมาร์ทโฟน รู้จักและเข้าใจในสิ่งที่คุณเห็น ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ, โปสเตอร์ภาพยนตร์, นามบัตร และสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ
AR stickers มีแนวคิดคล้ายกับ ARKit ของ Apple แต่ Google เรียกแพลตฟอร์มนี้ว่า ARCore ซึ่งตอนนี้การพัฒนายังไม่สมบูรณ์ขึ้นอยู่กับพาร์ทเนอร์ที่นำ ARCore ไปใช้ โดยมีพาร์ทเนอร์ทีน่าสนใจอย่างเช่น Saturday Night Live, YouTube, NBA, Stranger Things และ Star Wars เป็นต้น อีกไม่นานสมาร์ทโฟน Pixel 2 จะช่วยให้คุณถ่ายภาพได้สนุกขึ้นกับ AR stickers และยังประยุกต์ใช้กับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อเลโก้จากตัวต่อเสมือนจริง หรือชมเกมเพลย์ League of Legends บนแผนที่ AR
Assistant squeeze พร้อมใช้งานทันเป็น ช่วยให้เจ้าของ Pixel 2 เข้าถึงผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant ได้ง่ายๆ เพียงบีบขอบตัวเครื่อง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เคยเห็นใน HTC U11
Always-on Display และ Microphone
หลายคนคงรู้จักฟีเจอร์ Always-on Display กันมาบ้างแล้ว คือ การแสดงข้อมูลบางอย่างตลอดเวลา เพื่อสามารถมองเห็นได้ทันที อย่าง วันที่-เวลา หรือการแจ้งเตือนต่างๆ ซึ่งสมาร์ทโฟน Pixel 2 ก็ได้นำมาใช้เล่นกัน พร้อมนำเทคโนโลยี AI มาทำงานร่วมกันด้วย
ไม่เพียงแค่นั้น ไมโครโฟนของ Pixel 2 ก็ยังทำงานแบบ Always-on โดยจะพร้อมรับคำสั่งเสียงอยู่ตลอดเวลา เพื่อรอให้เจ้าของอุปกรณ์พูดว่า Ok Google ด้วยคุณสมบัติพร้อมทำงานอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณสามารถค้นหาเพลงที่กำลังได้ยินได้ทันที สำหรับคนที่ชอบบริการของ Shazam โดยเฉพาะ
ข้อด้อยของ Google Pixel 2 และ Pixel 2 XL
Pixel 2 และ Pixel 2 XL ใช้กล้องตัวเดียวกัน
นี่เป็นข้อเสียเปรียบสำหรับคนที่เลือก Pixel 2 XL ที่มีราคาแพงกว่า 200 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่จะได้รับกล้องตัวเดียวกับ Pixel 2 ตรงกันข้ามกับ Apple ที่นำเสนอ iPhone 8 Plus ในราคาสูงกว่า 100 ดอลล่าร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ iPhone 8 แต่คุณจะได้รับกล้องคู่ พร้อมฟีเจอร์กล้องที่เหนือกว่า
การจ่ายเพิ่ม 200 ดอลล่าร์สหรัฐ เพื่อเลือกเป็นเจ้าของ Pixel 2 XL แทนที่ Pixel 2 คุณจะได้จอแสดงผลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกับดีไซน์ขอบจอบาง
Pixel 2 และ Pixel 2 XL ไม่มีช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
Google ได้ตัดช่องเสียบแจ๊คหูฟังทิ้งไปใน Pixel รุ่นใหม่ นั่นหมายถึง ผู้ใช้งานจะไม่สามารถฟังเพลงด้วยหูฟังแบบมีสาย ไปพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ เหมือนที่เคยทำได้ใน Pixel รุ่นแรก ถึงแม้สมาร์ทโฟน Android ระดับเรือธงในบางรุ่นก็เลือกที่จะทำอย่างเดียวกันนี้ แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้น Pixel 2 ไม่ได้แถมหูฟังที่ใช้พอร์ต USB-C มาให้ แต่แถม Adapter สำหรับแปลงช่องเสียบหูฟัง 3.5mm-to-USB-C มาให้ในกล่อง
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณทำ Adapter ตัวนี้หาย ต้องเสียเงินซื้อใหม่ในราคา 20 ดอลล่าร์สหรัฐ ขณะที่ Apple ขาย 3.5mm-to-Lightning Adapter ในราคาเพียง 9 ดอลล่าร์สรัฐ นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เจ้าของ Pixel 2 ฟังเพลงพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ในเวลาเดียวจาก จากผู้ผลิต Moshi ยังขายแพงกว่าที่ Belkin ทำให้กับ iPhone
จอแสดงผล Pixel 2 XL ยังเรียก edge-to-edge ได้ไม่เต็มปาก
ถึงแม้ Pixel 2 XL จะมีจอแสดงผลที่ใหญ่กว่า Pixel 2 และดูเหมือนจะมีขอบจอที่บางกว่า แต่เมื่อเทียบกับเรือธงของคู่แข่ง อย่าง Galaxy S8 และ Galaxy Note 8 จะเห็นว่าขอบจอของ Pixel 2 XL หนากว่าอย่างชัดเจน แต่อย่างน้อยก็ไม่มีรอยบากที่ขอบบนเหมือนกับ iPhone X
ที่มา – The Verge
http://www.flashfly.net/wp/?p=196060