“Vivo” แบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก ประกาศเปิดตัวรุ่นเรือธง “Vivo V7+” ภายใต้สโลแกน 24MP Clearer Selfie Perfect Shot ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำ ทั้งความโดดเด่นของกล้องหน้า ที่ให้ความคมชัดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล – กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล และตอบโจทย์ “ชีวิตไร้ขีดจำกัด” ด้วยหน้าจอแบบ FullViewTM Display ที่ทำให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในมุมมองที่กว้างขึ้น และคมชัดขึ้น ทั้งยังจัดเต็มกับสมรรถนะเครื่องแรง-เร็ว ด้วยเทคโนโลยี Qualcomm octa-core CPU 4GB RAM, 64 GB ROM และระบบการปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด Funtouch OS 3.2 ตั้งอยู่บนพื้นฐาน Android 7.1 ทำให้การทำงานของเครื่องลื่นไหล ไม่สะดุด เต็มประสิทธิภาพ
ในฐานะที่ Vivo เป็นแบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก บนความเข้าใจ ความต้องการของผู้บริโภค จึงมุ่งมั่นพัฒนา “สมาร์ทโฟน” ที่สามารถตอบสนองไลฟสไตล์ของผู้คนอย่างแท้จริง เพื่อช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคสะดวกขึ้น จากการใช้งานสมาร์ทโฟนของ Vivo ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในราคาเหมาะสม และวันนี้ Vivo มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการแนะนำสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง “Vivo V7+” ที่โดดเด่นและแตกต่างจากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ
“Vivo V7+” มีความโดดเด่น ใน 4 จุดขายหลัก ได้แก่
1. ระบบการถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับสมาร์ทโฟน ที่ให้ความละเอียดสูง ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ทำให้ผู้ใช้ได้ภาพถ่ายที่ดีที่สุดในทุกโอกาส ไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ และแสงจะน้อยแค่ไหนก็ตาม เพื่อเก็บภาพแห่งความประทับใจได้ตลอดไป
– กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 ตอกย้ำการเป็นสมาร์ทโฟนเซลฟี่ตัวจริง ที่ปฏิวัติทุกการถ่ายภาพเซลฟี่ และไม่เพียงแต่ความละเอียดสูงสุดเท่านั้น “V7+” ยังได้ยกระดับการถ่ายภาพกล้องหน้า ที่ทำให้ผู้ใช้ดูสวยใส เป็นธรรมชาติในทุกเวลา ไม่ว่าจะแสงมากหรือแสงน้อย ด้วยโหมดใบหน้าสวยเวอร์ชั่น 7.0 (Face Beauty 7.0)
นอกจากนี้ยังมีโหมดภาพถ่ายบุคคล ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลได้ดูดี โดดเด่นยิ่งกว่าที่เคย เพราะสร้างเอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพที่มีใบหน้าคมชัด ขณะที่ฉากหลังจะเบลออย่างสวยงาม เป็นธรรมชาติ ยกระดับจากการถ่ายภาพธรรมดาๆ สู่ระดับมืออาชีพ
– กล้องหลัง ความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 และเสริมประสิทธิภาพกล้องให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยโหมดถ่ายภาพ Ultra HD 64 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพความละเอียดสูง คมชัด เก็บได้ทุกรายละเอียด
2. ตอบโจทย์ “ชีวิตไร้ขีดจำกัด” ด้วยหน้าจอ “FullViewTM Display” ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ใน มุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกม หรืออ่านไฟล์เอกสาร ด้วยขนาดหน้าจอกว้างถึง 5.99 นิ้ว ความละเอียดจอ 1440 x 720 พิกเซล และความแคบของกรอบเพียง 2.15 มิลลิเมตร แต่จับถนัดมือ นี่เป็นจุดเด่นดีไซน์ล้ำสมัยที่ทำให้สมาร์ทโฟน V7+ โดดเด่นเหนือใคร
3. ความแข็งแกร่งของสมรรถนะเครื่องที่โดดเด่นด้วยการประมวลผลที่แรงและเร็ว Qualcomm octa-core CPU 4GB RAM, 64 GB ROM และระบบการจัดการ Smart Engine พร้อมด้วยระบบการปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด Funtouch OS 3.2 ตั้งอยู่บนพื้นฐาน Android 7.1 ที่ช่วยให้การทำงานของเครื่องลื่นไหล เต็มที่ทุกความเร็ว อัดแน่นเต็มทุกประสิทธิภาพ และสามารถเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำภายนอกได้สูงสุดถึง 256GB
นอกจากนี้ Vivo ได้จับมือกับบริษัทผู้ผลิตชิปเซ็ตเสียงชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อติดตั้งชิปเสียงรุ่นพิเศษ “Hi-Fi AK4376A” ทำให้ได้อรรถรสการฟังเพลงที่ชัดเจน มีคุณภาพ และไพเราะมากยิ่งขึ้น
4. เทคโนโลยีอัจฉริยะ Smart Split 3.0, App Clone และ ระบบจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ Vivo ทุ่มเทการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง จนได้ออกมาเป็น 3 เทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่มาเติมเต็มให้ “V7+” สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
– Smart Split 3.0 ฟังก์ชั่นที่ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถใช้แอพพลิเคชั่นได้หลายแอพฯ เช่น Facebook, WhatsApp, LINE, WeChat, YouTube ได้พร้อมกันในหน้าจอเดียว เพียงใช้ 3 นิ้ว ลากลงมาที่หน้าจอ ก็สามารถแบ่งการใช้งานออกเป็น 2 ส่วน ให้ผู้ใช้งานได้สนุกทั้งความบันเทิง และการแชทได้อย่างอิสระ
– App Clone ฟังก์ชั่นใหม่ที่ช่วยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยสามารถเข้าใช้งานแอปพลิเคชันด้วยบัญชี 2 บัญชีพร้อมกันอย่างง่ายดาย
– ระบบจดจำใบหน้าเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ ยกระดับระบบความปลอดภัยของสมาร์ทโฟนให้ดียิ่งขึ้น เพียงแค่ยกโทรศัพท์ของขึ้นคล้ายกับกำลังถ่ายเซลฟี่ ก็สามารถปลดล็อกโทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของ ทุกคนง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องเจอกับปัญหาการจดจำรหัสผ่านอีกต่อไป
นอกจากจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แล้ว Vivo ยังใช้กลยุทธ์การสื่อสารผ่านแบรนด์แอมบาสเดอร์ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ซุปเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของเมืองไทย ด้วยภาพลักษณ์ของสาวที่มีความโดดเด่น ทันสมัยและมั่นใจ ที่จะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เด่นชัดขึ้น และสามารถสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี
V7+ วางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ 28 กันยายน 2560 ในราคาเพียง 11,990 บาท มีด้วยกัน 2 สี Matte Black และ Champagne Gold (สำหรับผู้ที่สนใจสั่งจอง Vivo V7+ ล่วงหน้าได้ที่ Vivo Shop ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ – 27 กันยายน 2560)