เชื่อว่าเวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสมาร์ทโฟน Zenfone จากทาง ASUS อย่างแน่นอนโดยตั้งแต่เปิดตัวมาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในบ้านเราและในต่างประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็ได้เปิดตัว Zenfone 3 ซีรีย์ใหม่ล่าสุดออกมาตกย้ำกระแสความแรงและในปีช่วงต้นปี 2017 นี้ ASUS ได้สานต่อความสำเร็จ

เปิดตัว Zenfone 3 Max 5.5 รุ่นใหม่ล่าสุดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการชูจุดเด่นที่แบตเตอรี่ความจุถึง 4100 mAh ใช้งานได้ยาวนานอยู่ได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องชาร์จแถมยังมีกล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถ่ายภาพได้แบบมืออาชีพ ดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงาม หน้าจอขนาดใหญ่ในราคาไม่ถึง 8,000 บาทมาดูกันว่าจะคุ้มค่าขนาดไหน

ZenFone 3 Max มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด Full HD มีความสว่างหน้าจอถึง 450 units ที่ทำให้สามารมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้ในสภาวะแสงจ้า ไม่ว่าจะนอกหรือในอาคาร และด้วยขอบหน้าจอที่แคบเพียง 2.25 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่ใช้งานถึง 73% ของตัวเครื่อง

ทางด้านการออกแบบตัวเครื่องนั้นใช้กระจกหน้าจอโค้งมนแบบ 2.5D ที่มีความสวยงามเข้ากับส่วนโค้งของตัวเครื่องด้านหลัง

ปุ่มกดเพิ่มลดเสียงและปุ่ม Power ยังคงมีดีไซน์สไตล์ Zenfone แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นโลหะบาง 8.3 มิลลิเมตร หนัก 175 กรัม

ทางด้านสเปคนั้น ZenFone 3 Max 5.5 ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon Octa-Core 430 1.4GHz จีพียู Adreno 505 แรม 3GB LPDDR3 หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้อีก 128GB กล้องด้านหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลพร้อม PixelMaster กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh ใช้งานได้ยาวนาน ระบบปฎิบัติการ Android 6.0 และ ZenUI 3.0 ใหม่ล่าสุด

มาดูกันที่ฟีเจอร์ของแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh ของ ZenFone 3 Max 5.5 ที่เป็นจุดขายของรุ่นนี้ที่สามารถอยู่ได้นานถึง 38 วันในโหมดสแตนด์บาย เหมาะสำหรับใครที่เดินทางไกล หรือเข้าไปในพื้นที่ไม่ไฟฟ้าใช้ เช่นพื้นที่ชนบท เดินทางเข้าป่าขึ้นเขา

แต่สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วไป ZenFone 3 Max 5.5 ก็ตอบสนองการใช้งานในไลฟ์สไตล์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดีในการใช้งานสมาร์ทโฟนท่องโลกสังคมออนไลน์ เล่นเนท 4G แบบเต็มที่โดยแบตเตอรี่อยู่ได้นานๆตลอดทั้งวันโดยโดยไม่ต้องชาร์จ เลิกพก Power Bank ที่หนักกระเป๋าไปได้เลย

นอกจากจะไม่ต้องพก Power Bank ที่หนักกระเป๋าแล้ว ZenFone 3 Max 5.5 ยังสามารถใช้งานเป็นแบตเตอรี่สำรองสำหรับอุปกรณ์อื่นได้อีกด้วย หรือพูดง่ายๆคือสามารถใช้งานเป็น Power Bank เพื่อชาร์จมือถือเครื่องอื่นได้ทันที ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างมากเพียงเสียบสาย OTG Cable ที่แถมมากับตัวเครื่องเท่านั้น

เห็นความสามารถของแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh ของ ZenFone 3 Max 5.5 กันไปแล้ว ยังไม่พอเพราะ ASUS ยังได้ใส่ Super Saving Mode เพื่อให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้แบบสุดความสามารถ โดยเมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ตอนแบตเตอรี่เหลือเพียง 10% สุดท้ายก็จะสามารถขยายการใช้งานโหมดสแตนด์บายของ ZenFone 3 Max 5.5 ไปได้อีก 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกได้พกเครื่องเดียวอยู่ไม่ต้องหาปลั๊กไฟเสียบชาร์จตัวเครื่องบ่อยๆ หรือต้องค่อยพก Power Bank หลายก้อนไว้ติดตัว

มาถึงอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นไม่แพ้ความสามารถของแบตเตอรี่ 4100 mAh ของ ZenFone 3 Max 5.5 นั่นก็คือกล้องดิจิตอลความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.0 ไฟแฟลช LED สองสีทูโทน รองรับโหมด Real-time HDR สมจริง เปิดรับแสงได้นานถึง 32 วินาที พร้อมกับ PixelMaster 3.0 ที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงได้แบบกล้องมือโปรที่ประกอบไปด้วยโหมดต่างๆ ของกล้องมากมายอาทิ

โหมดยอดนิยมอย่าง HDR Pro ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้ชัดเจนแม้ในช่วงที่มีเงาแดด โดยจะไปขยายช่วงกว้างของไดนามิคถึง 4 เท่าเร่งความสว่างได้ถึง 400% โหมด Super Resolution จับภาพต่อเนื่องที่มีความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซลในแต่ละภาพ และในโหมด Low Light ของ ZenFone 3 Max 5.5 จะทำให้ถ่ายภาพได้คมชัดและสว่างแม้ในสภาวะแสงน้อยก็ตาม

มีให้เลือกใช้ 12 โหมดดังนี้ Auto (default) ,Manual,HDR Pro,Beautification,Super Resolution,Low Light,QR code,Night,Effect,Selfie,Panorama และ Time Lapse

กล้องหลังของ ZenFone 3 Max 5.5 ยังใช้เทคโนโลยีโฟกัสแบบใหม่ที่มีชื่อว่า TriTech AF หรือ TriTech auto-focus ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกที่ทีมวิศวกรของ ASUS ได้ผสมผสานเทคโนโลยีการโฟกัสสามแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน คือ การโฟกัสด้วยเลเซอร์, phase detection และออโต้โฟกัสต่อเนื่อง ทำให้สามารถโฟกัสได้ในเวลาเพียง 0.03 วินาทีเท่านั้น แม้ในสภาวะแสงที่แตกต่างกัน รวดเร็วกว่าการกระพริบตาถึง 10 เท่า

สำหรับการถ่ายวิดีโอนั้น ZenFone 3 Max 5.5 รองรับสูงสุดที่ Full HD 1080p ความละเอียด 30 fps พร้อมระบบกันสั่น EIS (electronic image stabilization) ถึง 3 แกน ช่วยได้วิดิโอที่นิ่ง ไม่สั่นไหว แถมยังสามารถถ่ายภาพนิ่งไปพร้อมกับการบันทึกวิดีโอได้

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 เลนส์มุมกว้าง 84 องศา สามารถใช้โหมดถ่ายภาพของเทคโนโลยี PixelMaster 3.0 ได้ทั้ง 7 โหมดดังนี้ Beautification (default) ,Auto,Night,HDR Pro,Effect,Low Light และ Time Lapse ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD 1080p

ด้านความปลอดภัย ZenFone 3 Max 5.5 ก็มาพร้อมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องที่สามารถปลดล็อคเข้าใข้งาน ZenFone 3 Max ได้ภายใน 0.3 วินาทีเท่านั้นรองรับทั้งหมด 5 ลายนิ้วมือสามารถสแกนได้แบบ 360 องศาไม่ว่าจะวางนิ้วมุมไหนก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้งานกล้องหน้าไว้เซลฟี่ แล้วแตะเบาๆ เพื่อถ่ายรูปได้เลย

นอกจากแบตเตอรี่อึด กล้องถ่ายรูปที่คมชัดแล้ว ด้านการเล่นเกม ZenFone 3 Max 5.5 ก็ตอบสนองเหล่าเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดีด้วย Game Genie ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ ZenUI 3.0 ที่สามารถเรียกเรียกหน้าต่างการค้นหาแบบ pop-up เพื่อค้นหาเคล็ดลับการเล่นในขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่ได้ จะใช้ตัวบูสเตอร์ (booster) เพื่อเร่งความเร็วตัวเครื่องให้เลื่อนไหลยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถบรอดแคสท์ (broadcast) การเล่นเกมผ่านทาง Youtube หรือ Twitch ได้ทันทีอีกด้วย

โดยรวมแล้วถือว่า ZenFone 3 Max 5.5 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ทั้งรองรับการใช้งาน 4G ใส่ได้ 2 ซิมหน้าจอขนาดใหญ่ใช้งานกลางแจ้งสบาย ดีไซน์สวย กล้องถ่ายูปคุณภาพสูง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ทั้งโทร แชต โซเชียล เล่นเกม โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องไปหาปลั๊กไฟระหว่างทางเพื่อที่ชาร์จแบตเตอรี่ตัวเครื่องให้ใช้งานได้ต่อ หรือต้องพก Power Bank หลายๆอันให้วุ่นวายอีกต่อไป แถมยังใช้เป็น Power Bank ให้กับเครื่องอื่นได้อีกด้วย

ZenFone 3 Max 5.5 วางจำหน่ายแล้วในราคา 7,990 บาทในและ 5,990 บาทในรุ่นหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ – http://www.asus.com/th/Phone/ZenFone-3-Max-ZC553KL/
บทความโดย – www.flashfly.net