Apple ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญในการถอดแจ็คเสียบหูฟังออกไปใน iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus รวมทั้งปุ่มโฮมแบบเดิมด้วย แล้วแทนที่ด้วยปุ่มโฮมระบบสัมผัส Capacitive ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อมีการกด ปุ่มโฮมจะไม่ได้ยุบตัวลงไปเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่จะมีระบบตอบกลับเพื่อให้รับรู้ว่าได้กดลงไป โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Taptic Engine มันช่วยให้เจ้าของ iPhone รับรู้ว่าการกดถูกตอบสนองแล้ว และสามารถปรับการสั่นได้ 3 ระดับ แต่มันก็ไม่สามารถให้ความรู้ได้เหมือนกับการกดปุ่มแบบ Physical ที่พบใน iPhone รุ่นก่อนหน้านี้
เว็บไซต์ Phonearena ตั้งคำถามว่าทำไม Apple ถึงต้องเปลี่ยนปุ่มโฮมเป็นระบบสัมผัส ทั้งที่ปุ่มโฮมแบบเดิมให้ความรู้สึกที่ดีกว่า แต่แล้วก็พบว่ามีเจ้าของ iPhone จำนวนนับล้านคน ไม่เคยใช้หรือไม่ค่อยได้ใช้ปุ่มโฮมแบบ Physical โดยเฉพาะในบราซิลและเอเชีย มีผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ฟีเจอร์ AssistiveTouch ซึ่งจะแสดงปุ่มโฮมลอยขึ้นมาบนจอแสดงผล และยังมีปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้ด้วย
AssistiveTouch
สาเหตุที่คนเหล่านั้นใช้ฟีเจอร์ AssistiveTouch ก็เพื่อต้องการถนอมปุ่มโฮมให้ได้มากที่สุด โดยมีความเชื่อว่าปุ่มโฮมของ iPhone มันพังง่ายมาก แต่ที่มาของความเชื่อ ก็เกิดมาจากข้อเท็จจริง เคยมีรายงานว่าปุ่มโฮมแบบ Physical ของ iPhone นั้นพังง่ายจริง แต่มันเกิดมานานมากแล้ว และได้รับการแก้ไขมานานแล้วด้วย ก่อนที่ Apple จะพัฒนาให้ปุ่มโฮมรองรับ Touch ID แต่ความเชื่อที่ว่าปุ่มโฮมแบบ Physical นั้นพังง่ายก็ยังคงอยู่
จากความเข้าใจผิด อาจเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ iPhone รุ่นใหม่ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างทางการในวันที่ 16 กันยายนนี้ ดังนั้น เรายังไม่สามารถบอกได้ว่าปุ่มโฮมแบบใหม่ ตอบสนองการทำงานได้ดีแค่ไหน และทำงานได้ดีกว่าปุ่มโฮมแบบเก่า ตามที่ Apple ได้คุยไว้หรือไม่
ที่มา – Phonearena
http://www.flashfly.net/wp/?p=158683