Huawei เปิดศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ยใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยกระดับบริการหลังการขายระดับพรีเมียม

มร.วัง อี้ฝาน (Wang Yifan) กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สืบเนื่องจากผลการสำรวจเมื่อสิ่นเดือนพฤษภาคม 2559 โดยบริษัทวิจัย GfK เผยให้เห็นว่า หัวเว่ยมีส่วนแบ่งการตลาดในระดับโลกสูงถึง 11.4% ทำให้กลายมาเป็นอันดับ 3 ท่ามกลางภาวะการแข่งขันกันอย่างดุเดือดของเหล่าบรรดาแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำมากมาย ซึ่งส่งผลให้ผลประกอบการของหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 เพิ่มสูงขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 77.4 พันล้านหยวน  (11.59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)  และมีตัวเลขการจัดส่งสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 60.56 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 25% ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดหากเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟน ระดับไฮเอ็นในโซนยุโรป และที่ปรากฏในภูมิภาคอื่นๆ อาทิ อเมริกาเหนือ เอเชียกลาง และลาตินอเมริกา และเนื่องด้วยกระแสการตอบรับที่ดีมากจากแฟนหัวเว่ยในประเทศไทย และนับวันยังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายหัวเว่ย พีเก้า ซึ่งมีราคาอยู่ในช่วง 15,000 – 20,000 บาท ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 อย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอีกขั้นของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยในประเทศไทย จึงเป็นแรงผลักดันให้หัวเว่ยยิ่งต้องพัฒนาและเน้นเรื่องการให้บริการลูกค้าเป็นสำคัญ รวมทั้งการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปัจจุบันหัวเว่ยให้บริการ 2 ช่องทางหลัก ได้แก่ ศูนย์บริการ (Onsite Service) และช่องทางออนไลน์ (Online Service) รวมถึงการบริการที่เรียกว่า Diamond Service เป็นบริการที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ลูกค้าหากไม่สามารถซ่อมเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง อีกทั้งอำนวยความสะดวกด้วยช่องทางฮอตไลน์ที่สามารถโทรสอบถามการใช้งานโทรศัพท์มือถือหัวเว่ยได้ทุกรุ่นอีกด้วย ก็เพื่อต้องการที่จะส่งมอบประสบการณ์ของการรับบริการที่อบอุ่น พร้อมความประทับใจสู่ลูกค้าคนไทยทุกคน

            ปัจจุบัน หัวเว่ยมีเครือข่ายในการจัดจำหน่าย และรับ-ส่งเครื่องซ่อม ถึง 500 แห่ง ทั่วประเทศ ซึ่งในปีนี้หัวเว่ยตั้งเป้าจะขยายการบริการไปให้มากขึ้นจนถึง 1,000 แห่ง ทั้งนี้ นอกจากศูนย์บริการลูกค้าที่รับซ่อมให้กับจำนวน 24 แห่งแล้ว ยังมีศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย อีก 13 แห่ง ซึ่งเตรียมความพร้อมที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น โดยในขณะนี้เปิดไปแล้ว 3 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และล่าสุดคือใน กรุงเทพมหานคร

การเปิดตัวศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย เอ็ม บี เคเซ็นเตอร์ในวันนี้ถือเป็นศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ด้วยพื้นที่ขนาด 97.26 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์บริการแบบครบวงจร ที่มีการให้บริการประเภท Diamond Service ซึ่งลูกค้าสามารถรับเครื่องซ่อมได้ภายใน 1 ชม. พร้อมทั้งพื้นที่สำหรับจำหน่าย ให้คำแนะนำ และนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ ของหัวเว่ย เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัส และทดลองใช้  ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสะดวกสบายทั้งในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟน และรับคำแนะนำเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าหัวเว่ยที่จะมีมากขึ้นอีกด้วย สำหรับการตกแต่งภายในศูนย์ใช้สีขาวและแดงเป็นหลัก ด้วยคอนเซ็ปต์ของหัวเว่ยที่ผสมผสานความหรูหรากับความทันสมัยของเทคโนโลยีไว้อย่างลงตัว เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ทันสมัย ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นหลัก” มร.วัง กล่าวสรุป

            คุณสุธิดา มงคลสุธี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางซินเน็ครู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดตัว ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย ณ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เพื่ออำนวยความสะดวก และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของหัวเว่ยที่ได้ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลักอีกทั้งยังเป็นการยกระดับการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนพิเศษ นอกจากนี้ซินเน็คฯ กับพันธมิตรหลักหัวเว่ยยังมีแผนจับมือร่วมกันพัฒนาคุณภาพ และการบริการที่ดีที่สุด พร้อมขยายตลาดให้เติบโตควบคู่กันไป”

            สำหรับศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย ชั้น 5 ณ ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่เวลา 10.30 – 19.30 น. สอบถามเพิ่มเติมโทร.      02-064-4000