iPhone SE ถูกแกะชิ้นส่วนอีกครั้ง โดยครั้งนี้เป็นการแกะชิ้นส่วนโดย IHS iSuppli ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการสำรวจชิ้นส่วนประกอบภายในของ iPhone SE พร้อมทั้งประเมินค่าต้นทุนวัสดุและชิ้นส่วนประกอบในส่วนของฮาร์ดแวร์ตัวเครื่อง โดยจากการแยกชิ้นส่วนและประเมินราคาต้นทุนชิ้นส่วนประกอบแต่ละชิ้นนั้น IHS iSuppli พบว่า iPhone SE มีต้นทุนเฉพาะในส่วนของชิ้นส่วนประกอบอยู่ที่ประมาณ $156.20 โดยหากทำการรวมค่าต้นทุนในการประกอบคาดว่าอยู่ที่ราว $160 หรือประมาณ 5,650 บาท จะเห็นได้ว่าต้นทุนมีมูลค่าไม่ค่อยสูงนักเนื่องจากมีการใช้การออกแบบ ดีไซน์ตัวเครื่องและชิ้นส่วนประกอบที่ผสมผสานกันระหว่าง iPhone 5s , iPhone 6 และ iPhone 6s โดยราคาในการวางจำหน่ายของ iPhone SE นั้นอยู่ที่เริ่มต้น $399 หรือประมาณ 14,000 บาท
หากเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่าในการเปิดตัว iPhone 5s เมื่อปี 2013 นั้นมีต้นทุนชิ้นส่วนประกอบที่ประมาณ $199 หรือประมาณ 7,000 บาท ซึ่งในขณะนั้นราคาต้นทุนชิ้นส่วนประกอบบางอย่างยังมีราคาที่สูงอยู่ แต่ในปัจจุบันต้นทุนช้ินส่วนประกอบที่ใช้บน iPhone SE นั้นมีราคาที่ลดลงกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่นกระจกหน้าจอ Gorilla Glass ที่ตอนนี้มีต้นทุนอยู่ที่ $20 หรือประมาณ 700 บาท ในขณะที่เมื่อปี 2013 นั้นตัวกระจกดังกล่าวมีราคาต้นทุนสูงกว่านี้ถึงสองเท่าเลยทีเดียว ส่วนทางด้านของต้นทุนของชิ้นส่วนประกอบ iPhone 6s Plus นั้นมีการประเมินอยู่ที่เริ่มต้น 8,300 บาท
สำหรับ iPhone SE รุ่น 64GB นั้นจะมีการเพิ่มราคาต้นทุนในส่วนของหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นจาก 16GB ขึ้นไปอีกราวเครื่องละ $89 หรือประมาณ 3,150 บาท ทำให้ราคาต้นทุนชิ้นส่วนของ iPhone SE รุ่น 64GB จะอยู่ที่ประมาณ 8,800 บาท อย่างไรก็ตามราคาที่ปรากฎดังกล่าวนี้ เป็นเพียงราคาจากการประเมินชิ้นส่วนประกอบแต่ละชิ้นที่อยู่ใน iPhone SE เท่านั้น ยังไม่ได้เป็นราคาต้นทุนที่รวมไปถึงกระบวนการในการพัฒนา , การผลิต , การจัดการทางด้านการตลาดและกระบวนการขนส่งของแต่ละประเทศ แต่อย่างใด
ที่มา – macrumors
http://www.flashfly.net/wp/?p=142981