วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับ Surface รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Microsoft กับ Surface Pro 4 สุดยอดแท็บเล็ตที่จะมาแทนที่แล็ปท็อปที่ต่อยอดความสำเร็จจาก Surface Pro 3 ที่วางจำหน่ายในปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีกับผู้ใช้งานทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยราคา Surface Pro 4 ในประเทศไทยนั้นเริ่มต้นที่ 33,900 บาทมีให้เลือกตั้งแต่ ชิปประมวลผลเจเนอเรชั่นที่ 6 ของ Intel ตั้งแต่ Core M จนถึง Core i7 มีแรมให้เลือกถึง 16GB และหน่วยความจำมีให้เลือกสูงสึดถึง 512GB เลยทีเดียว แถมสเปคโดยรวมแรงกว่าเดิมถึง 30% โดยรุ่นที่ทีมงาน @flashfly ได้นำมาทดสอบนั้นเป็นรุ่น Core i5 แรม 4GB ความจุ 128GB ซึ่งเราก็จะมาทำการแกะกล่องพร้อมทดสอบใช้งานจริงกันดูว่า Surface Pro 4 นั้นมีอะไรที่น่าสนใจกว่าบ้าง
มาเริ่มที่ตัวกล่องยังคงออกแบบคล้ายกับ Surface Pro รุ่นก่อนหน้าพื้นสีขาวตัดด้วยภาพด้านหลัง Surface Pro 4 โชว์ขาตั้งสวยงาม
ด้านข้างจะเขียนบอกชัดว่านี่คือ Microsoft Surface Pro 4
ด้านหลังกล่องจะบอกสเปคของตัวเครื่องว่าใช้ซีพียูอะไร แรมและความจุเท่าไร
เมื่อปิดกล่องออกมาแล้วก็จะพบกับ Surface Pro 4 อยู่ในห่อพลาสติกที่บอกตำแหน่งต่างๆในตัวเครื่องว่าคืออะไรบ้างทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบนี้
แกะห่อพลาสติกออกเอามาถือดูรอบๆตัวเครื่องบาง 8.4 มม. หนัก 786 กรัม มีความบางและเบากว่า Surface Pro 3
เมื่อนำตัวเครื่องออกมาก็จะพบกับเอกสารและปากกา Surface Pen ที่แถมมาในชุดจำหน่าย ทางขวาสุดจะเป็นกล่องใส่ที่ชาร์จพกพา
ปากกา Surface Pen รุ่นใหม่ออกแบบให้มีแม่เหล็กให้ดูดติดไว้ด้านข้างเครื่อง Surface Pro 4 เลยทำให้หมดปัญหาเรื่องลืมปากกาอีกต่อไป ตรงด้ามยังมีปุ่มคลิกขวาอยู่เช่นเดิม
ปลายปากกาสามารถถอดเปลี่ยนหัวตัวลักษณะการใช้งานได้หลายแบบ ตามลักษณะการวาด ส่วนที่หัวปากกาเป็นยางลบที่สามารถลบได้ทันทีโดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรแถมยังสามารถใช้งานได้ทุกหน้าจออีกด้วย
คู่มือเริ่มต้นใช้งานฉบับย่อ เอกสารความปลอดภัยและการรับประกัน มีภาษาไทยด้วยทำความเข้าใจได้ง่ายๆ
สุดท้ายกับสายชาร์จแบตเตอรี่แบบพกพา พร้อมหัวปลั๊กที่ใช้งานกับปลั๊กไฟในประเทศไทย
โดยที่ชาร์จในรุ่น Surface Pro 4 ยังคงมีพอร์ต USB สำหรับใช้ในการชาร์จสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นได้พร้อมๆกับตัวเครื่องช่วยให้ไม่ต้องพกหัวชาร์จของอุปกรณ์อื่นให้หนักกระเป๋า
จอแสดงผล PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว ความละเอียด 2736 x 1824 (267 PPI) อัตราส่วน 3:2 ไม่ใช่ 16:9 แบบเดิมทำให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น
หน้าจอคมชัดถึง 5 ล้านพิกเซล เรียกได้ว่าคมชัดมากที่สุดในบรรดา Surface ทุกรุ่นเลยทีเดียว
ด้านหน้ามีเซ็นเซอร์สแกนใบหน้าในการปลดล็อคหน้าจอ และกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
นอกจากนี้ยังมีลำโพงสเตอริโอพร้อมเสียง Dolby Audio Premium คุณภาพสูงให้เสียงดังฟังชัดอย่างไม่น่าเชื่อ ดังกว่า Surface Pro 3 ถึง 40% เลยทีเดียว
ด้านหลังและด้านข้างใช้วัสดุเป็นแมกนีเซียมสีเทาสวยงาม พร้อมโลโก้ Windows ที่ขาตั้งด้านหลังเงางาม ดูหรูหราสไตล์ Microsoft
ที่ด้านหลังยังมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบบออโต้โฟกัส ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด Full HD พร้อม ไมโครโฟนสเตอริโอ
ขาตั้งปรับได้หลายระดับตามลักษณะการใช้งานเช่นเดียวกับ Surface Pro 3 ซึ่งยังคงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้
ด้านบนมีปุ่มปิดเปิดเครื่อง และปุ่มเพิ่มลดเสียง โดยบริเวณขอบรอบตัวเครื่องจะมีช่องระบายความร้อนที่ทำงานเงียบกว่าเดิมมาก
ด้านข้างซ้ายบนมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
โดยแทบด้านข้างนี้สามารถนำปากกา Surface Pen มาติดได้อีกด้วย สะดวกในการพกพาอย่างมาก ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยให้มีมาใน Surface Pro กันพอสมควร
ทางด้านขาวจะเป็นแหล่งรวมพอร์ตต่างๆไม่ว่าจะเป็น Mini Display Port,USB 3.0 แบบเต็มขนาดสำหรับเชื่อมต่อแฟลชไดร์ฟ ฮาร์ดดิสก์พกพา หรือเม้าส์ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้พอร์ต USB ได้แบบแล็ปท็อป
ถัดมาเป็นพอร์ตชาร์จแบตเตอรี่ตัวเครื่องแบบแม่เหล็กที่แน่นหนาดี
เมื่อเปิดขาตั้งขึ้นมาก็จะพบกับช่องใส่ Micro SD สามารถนำเอาข้อมูลต่างๆของเมมจากสมาร์ทโฟนมาเชื่อมต่อข้อมูลได้ หรือจะหาเมมความจุเยอะๆมาใส่เพื่อเพิ่มหน่วยความจำในการใช้งานตัวเครื่องได้อีกด้วย
ด้านล่างจะมีช่องแม่เหล็กสำหรับเชื่อมต่อกับแป้นพิมพ์ Type Cover เพื่อเพิ่มความสามารถด้านการใช้งานให้ไม่แตกต่างจากแล็ปท็อปทั่วไป
และนี่คือ Surface Pro 4 ที่มาพร้อมปากกา Surface Pen ใหม่ ที่เหมาะในการใช้งานในรูปแบบแท็บเล็ตอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนการใช้งานแป้นพิมพ์นั้นก็สามารถพิมพ์ได้บนหน้าจอเหมือนกับแท็บเล็ตทั่วไป ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมถึงใช้ปากกาเขียนลงไปบนหน้าจอก็ได้ (รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ) แน่นอนว่าคีย์บอร์ด Bluetooth ก็สามารถนำมาใช้งานได้ หรือจะนำเอาคีย์บอร์ด USB ที่บ้านมาเสียบใช้งานก็สามารถทำได้อีกเช่นกัน
แต่เพื่อความสะดวกถ้าอยากให้ใช้งานได้เหมือนคอมพิวเตอร์แล็บท็อปทั่วไป ขาดไม่ได้เลยกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Type Cover รุ่นใหม่ของ Surface Pro 4 ที่จะพลิกโฉมแท็บแล็ตให้กลายเป็นแล็ปท็อปได้ในพริบตา
โดย Type Cover รุ่นใหม่ของ Surface Pro 4 วางจำหน่ายแยกในราคา 5,190 บาท อาจจะดูแพงไปสักนิดทีแต่คุ้มค่าในการใช้งานอย่างมาก มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยมาครบถ้วนทุกตัวอักษร แถมยังมีขนาดบางเบากว่าเดิม
ใช้เป็น Cover ปกป้องหน้าจอตัวเครื่องในตัวอีกด้วย
ตัวแป้นพิมพ์มีการออกแบบใหม่หมด ให้พิมพ์ได้ง่ายกว่าเดิมให้ความรู้สึกไม่แตกต่างจากแล็ปท็อปทั่วไป และยังมีไฟสามารถใช้
งานพิมพ์ในที่แสงน้อยได้ทุกที่
ด้วยคีย์บอร์ดระบบกลไกดีไซน์ใหม่ที่บางขึ้น เบาขึ้นสามารถใช้งานได้ทุกที่ทั้งบนตัก หรือขณะเดินทาง
ปรับปรุงประสิทธิภาพการดูดของแม่เหล็กที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนั้น Trackpad แบบใหม่ล่าสุด ยังถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิมถึง 40% ทำให้สามารถควบคุมความแตกต่างในการใช้งานบน Type Cover ระหว่างการสัมผัสแบบไม่ได้ตั้งใจและการคลิกแบบตั้งใจได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่า Type Cover ใหม่นี้ยังสามารถปรับได้ 2 ระดับการเอียงเพิ่มความคล่องตัวในการพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว แถม Type Cover รุ่นนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Surface Pro 3 อีกด้วย
เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วก็ทำให้ Surface Pro 4 กลายเป็นแท็บเล็ตที่จะมาแทนที่แล็ปท็อปในอนาคตสมอย่างสโลว์แกนที่ Microsoft ตั้งฉายาให้ หลังจากที่ทำความรู้ตัวเครื่องกันมาพอสมควรแล้วก็มีถึงการทดสอบใช้งานจริงกันบ้าง
Surface Pro 4 นั้นมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Windows 10 Pro เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมระบบล็อกอินด้วยการจดจำใบหน้าหรือ Windows Hello ที่ใช้งานได้ง่ายและมีความปลอดภัยสูง ถ้าไม่ใช่เจ้าของเครื่องยังไงก็ใช้งานไม่ได้ และมีระบบรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรในแพลทฟอร์ม Windows ก็จะช่วยรักษาข้อมูลให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เบราเซอร์ล่าสุดอย่าง Microsoft Edge ที่ขีดเขียนบนหน้าจอและแชร์ให้เพื่อนหรือส่งไปยัง One Note ได้เลย
และ Cortana ซึ่งเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่คุ้นเคยกันดีบน Windows Phone ก็พร้อมใช้งานบน Surface Pro 4 แล้ว
นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งได้ทั้งโปรแกรมวินโดว์เดสท็อปทั่วไปและแอพพลิเคชั่นหรือเกมจาก Microsoft Store ทำให้หมดปัญหาว่าจะไม่สามารถใช้งานโปรแกรมบนเดสท็อปได้ ด้วยสมรรถนะจากชิปประมวลผล Intel เจเนอเรชั่นที่ 6 ทำให้ตัวเครื่อง Surface Pro 4 มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่า Surface Pro 3 ถึง 30%
เท่านั้นยังไม่พอ Surface Pro 4 ยังมีหน้าจอแสดงผลอันยอดเยี่ยมที่สุดด้วยหน้าจอสัมผัส PixelSense ขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมอัตราส่วนภาพ 3:2 เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในการมอง หน้าจอแสดงผลของ Surface Pro 4 ถูกพัฒนามาจากนวัตกรรมการออกแบบของ Surface Pro 3
โดยจอแสดงผลของ Surface Pro 4 คือหน้าจอแสดงผลที่คมชัดและแม่นยำที่สุดตั้งแต่เคยมีมา ด้วยความละเอียดสูงถึง 267 ppi ในอัตราส่วนคอนทราสต์ 1300:1 พร้อมรองรับสี sRGB ได้เต็มที่ 100% ความละเอียด 5 ล้านเมกะพิกเซล
ทำให้ไม่มีปัญหาในด้านการใช้งานแบบคอมพิวเตอร์ทั่วไป อาทิ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ PC สำหรับเดสก์ท็อป การใช้งานโปรแกรมกราฟฟิคยอดนิยมอย่าง Adobe Photoshop ตัดต่อวิดีโอ HD แบบมืออาชีพด้วย Adobe Premier Pro ใช้แอปพลิเคชันระดับมืออาชีพ Visual Studio ออกแบบและสร้างโมเดลสามมิติด้วย AutoCAD แน่นอนว่าการสร้างและแก้ไขข้อมูลหรือเอกสารขนาดใหญ่ใน Microsoft Office ก็ทำได้สมบูรณ์แบบสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นและโปรแกรมบนหน้าเดสก์ท็อปได้ในเวลาเดียวกัน
แถมยังทำงานได้เงียบกว่าด้วยระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในขณะนี้ เล่นวิดีโอต่อเนื่องนานสูงสุด 9 ชั่วโมงหรือดูหนังเรื่องโปรดได้ประมาณ 4-5 เรื่องเลยทีเดียวในการ ถ้าใครใช้งานกราฟฟิคหรือเล่นเกมหนักๆจะอยู่ได้ราว 4 ชั่วโมง
ทดสอบใช้งาน Surface Pen ด้วยโปรแกรมวาดภาพยอดนิยมอย่าง Fresh Paint ที่มีในตัวเครื่องพร้อมใช้งาน รวมถึงการจดโน้ตด้วย One Note ที่แยกแยะน้ำหนักของปากกาได้เป็นอย่างดี เหมือนใช้ปากกาจริง โดยปากกา Surface Pen ใหม่รองรับแรงกดได้ถึง 1,024 ระดับสามารถใช้เขียนโน้ต วาดภาพ และตกแต่งภาพรูปแบบดิจิทัลได้อย่างแม่นยำ ตอบสนองต่อการเขียนได้อย่างรวดเร็ว
แต่ที่พิเศษสุดๆไม่เหมือนใครนั่นก็คือสามารถใช้หัวปากกาเป็นยางลบได้ทันที เวลาวาดหรือจะแก้ไขขณะจดโน้ตก็สะดวกในการใช้งานอย่างมาก และน่าประทับใจสุดๆ สามารถเก็บได้อย่างง่ายดายด้วยระบบแม่เหล็กดูดติดไว้ด้านข้างเครื่อง Surface ทำให้ไม่มีวันลืมปากกาอีกต่อไป
นอกจากนี้ Surface Pen ยังมีความสามารถในการใช้งานที่เพิ่มความสะดวกสบายในการจดโน้ต ด้วยการกดที่หัวปากกาหรือตำแหน่งยางลบนั่นเอง ถ้ากดหนึ่งครั้งจะเป็นเปิด One Note ขึ้นมาพร้อมจดทันที ถ้ากด 2 ครั้งจะเป็นการจับภาพหน้าจอเพื่อไปเก็บไว้ที่ One Note และถ้ากดค้างไว้จะเป็นการเรียกใช้งานเลขาส่วนตัว Cortana ได้อีกด้วย
สำหรับใครที่ต้องมีประชุมทางไกลผ่านทาง Skype หรือชื่นชอบถ่ายภาพเซลฟี่กล้องหน้าของ Surface Pro 4 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด HD ถือว่าถ่ายออกมาได้ประทับใจอย่างมาก
ส่วนกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซลแบบออโต้โฟกัส ก็ให้ภาพถ่ายที่มีความคมชัดไม่แพ้สมาร์ทโฟนแถมยังมีการปรับค่าต่างๆได้แบบ Lumia Camera บน Windows Phone อีกด้วย
โดยรวม Surface Pro 4 เหมาะสำหรับคนที่มองหาอุปกรณ์พกพาที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งคนทำงานที่ไม่อยู่นิ่งกับที่ ผู้ที่ทำงานสายกราฟฟิคสมัยใหม่หรือเหล่านักธุรกิจที่จำเป็นต้องมีการเข้าถึงข้อมูลองค์กร ความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการ แถมยังเป็นแท็บเล็ตที่บางเบาที่สุดและทรงพลังที่สุดในบรรดา Surface Pro ทุกรุ่นในเวลานี้พกแค่เครื่องเดียวก็มีความสามารถในการใช้งานได้ไม่แตกต่างจากแล็บท็อปเลยก็ว่าได้ ใช้งานได้ยาวนาน มีปากกาแถมมาให้ในชุดจำหน่ายไม่ต้องไปซื้อเพิ่มแถมแบตเตอรี่อยู่ได้นานถึง 1 ปีทีเดียว
Surface Pro 4 มีราคาเริ่มต้นที่ 33,900 บาทอาจจะดูแพงไปสักนิดแต่ถ้าเทียบกับคุณสมบัติทั้งหมดที่ได้แนะนำมาถือว่าคุ้มค่าในการใช้งานเกินราคาอย่างมาก สามารถไปสัมผัสตัวเป็นๆและเป็นเจ้าของ ได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ได้แก่ ไอที ซีตี้, บานาน่า ไอที และพาวเวอร์ บายทุกสาขาทั่วประเทศ
บทความโดย – www.flashfly.net
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ – https://www.microsoft.com/surface/th-th/devices/surface-pro-4