แคสเปอร์สกี้ แลป เปิดเผยรายงานภัยคุกคามทางไซเบอร์ประจำไตรมาส 2 “IT threat evolution in Q2 2015” ระบุเหตุการณ์สำคัญในโลกซิเคียวริตี้พร้อมประเมินระดับภัยคุกคาม จากข้อมูลการตรวจจับโดยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแคสเปอร์สกี้ แลป พบว่าการโจมตีผ่านเว็บไซต์จำนวน 51% มีต้นกำเนิดจากรัสเซีย สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ฝรั่งเศส หมู่เกาะเวอร์จิ้นไอซ์แลนด์ ยูเครน สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร และจีน
ภัยคุกคามโมบาย
พบโมบายมัลแวร์เกิดใหม่ในไตรมาส 2 จำนวน 291,800 รายการ ซึ่งมากกว่าไตรมาสแรกถึง 2.8 เท่า
พบการติดตั้งโมบายมัลแวร์แพ็กเกจในไตรมาส 2 กว่า 1 ล้านครั้ง ซึ่งมากกว่าไตรมาสแรกถึง 7 เท่า
การใช้บริการธนาคารออนไลน์หรือ “โมบายแบ้งกิ้ง” ยังเป็นเป้าหมายหลักสำหรับภัยคุกคามโมบาย ในรายงานไตรมาส 1 ของแคสเปอร์สกี้ แลป ระบุว่า โทรจัน Trojan-SMS.AndroidOS.OpFake.cc เป็นโทรจันที่โจมตีแอพพลิเคชั่นของธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลกมากกว่า 29 รายการ ในไตรมาส 2 โทรจันนี้ได้ออกเวอร์ชั่นล่าสุด และโจมตีมากกว่า 114 รายการ คิดเป็นจำนวนมากกว่าไตรมาสแรกถึง 4 เท่า เป้าหมายหลักของโทรจันนี้ คือการขโมยข้อมูลการล็อกอินของผู้ใช้บริการ และโจมตีแอพพลิเคชั่นอีเมล
การโจมตีเว็บไซต์ – ภัยคุกคามทางการเงิน
พบการแจ้งเตือนมากกว่า 5,900,000 รายการที่ระบุการพยายามโจมตีของมัลแวร์เพื่อขโมยเงินผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซึ่งน้อยกว่าไตรมาสแรก 800,000 รายการ
ในไตรมาส 2 นี้ สิงคโปร์กลายเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่ถูกโทรจันแบ้งกิ้งโจมตีผ่านเว็บไซต์ คิดเป็น 5.3% ของจำนวนผู้ใช้ออนไลน์ทั้งหมดในประเทศ ตามด้วยสวิตเซอร์แลนด์ (4.2%) บราซิล (4%) ออสเตรเลีย (4%) และฮ่องกง (3.7%) ทั้งนี้ ประเทศที่ติด 10 อันดับแรก เป็นประเทศที่มีระบบธนาคารที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ซึ่งเป็นที่หมายตาของอาชญากรไซเบอร์
ภัยคุกคามทางการเงินไม่ได้จำกัดแค่มัลแวร์แบ้งกิ้งที่โจมตีลูกค้าที่ใช้งานระบบออนไลน์เท่านั้น นอกจากมัลแวร์แบ้งกิ้ง (ที่มีสัดส่วน 83%) แล้วยังมีภัยคุกคามที่เกิดจากบิทคอย (9%) บิทคอยวอลเล็ท (6%) และการล็อกคีย์บอร์ด (2%)