หลังจากที่ได้ติดตามการแกะกล่อง Nokia X2 กันไปแล้วก็ถึงการทดสอบใช้งานจริงกันดูบ้างว่าจะแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าอย่างไรบ้าง โดยมาเริ่มหน้าตาของตัวเครื่องที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ด้วยนวัตกรรมผิวแบบสองชั้นสีสันสุดจี๊ดพร้อมกรอบชั้นนอกแบบใส ช่วยเพิ่มความคงทนและความสวยงามที่โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม
โดยมีสีส้ม เขียว และดำคล้ายกับ Asha 503 ที่วางจำหน่ายก่อนหน้าเชื่อว่าใครเห็นแล้วต้องบอกว่าสวยมากๆกันแบทุกคน
ในรุ่นนี้ได้ขยายหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็นขนาด 4.3 นิ้วแบบ ClearBlack Display ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล (217 ppi) แสดงสีสันได้คมชัดกว่าเดิมมากและใช้งานได้แม้อยู่กลางแจ้ง แถมยังใช้งาน Nokia Glance และ เคาะบนหน้าจอสองครั้งเพื่อให้หน้าจอติดได้แบบ Lumia อีกด้วย เท่านี้ยังไม่พอ Nokia X2 ยังมีกล้องหน้าความละเอียด 640 x 480 พิกเซลสำหรับใช้งาน VDO Call อีกด้วย
ทางด้านปุ่มกดที่ด้านหน้าจากเดิมที่มีเพียงปุ่ม Back เพียงปุ่มเดียว ตอนนี้ Nokia ก็ได้เพิ่มปุ่ม Home มาอีกปุ่มทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม
ซึ่งถ้ากดปุ่ม Back ค้างไว้จะเป็นสลับแอพไปมาในสไตล์ Windows Phone หรือที่เรียกว่า Visual Multitasking สามารถปิดแอพที่ไม่ใช้งานได้ทันที ต่างจากเดิมที่กดค้างแล้วจะเป็นการกลับหน้า Home
มาดูที่ด้านข้างตัวเครื่องกันบ้างด้านบนจะมีช่อเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่อง Micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์
ทางด้านขวาจะมี 3 ปุ่มหลักคือ ปุ่มเพิ่มลดเสียงและเปิด Power หรือปุ่มปิดเปิดหน้าจอและไม่มีปุ่มถ่ายภาพ ทางด้านซ้ายและด้านล่างไม่ปุ่มใดๆ
มาดูด้านหลังตัวเครื่อง Nokia X2 จะเห็นว่าเป็นแบบ 2 ชั้นสวยงามมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแบบออโต้โฟกัสและแฟลช LED อยู่ด้านบน ด้านล่างจะมีช่องสปีกเกอร์ให้เสียงดังดีในระดับหนึ่ง
ทางด้านสเปค Nokia X2 ก็ได้เพิ่มแรมตัวเครื่องมาเป็น 1GB ทำงานได้อย่างไม่มีหน่วงอีกต่อไป ส่วนหน่วยความจำภายในยังเป็น 4GB ที่ไม่แยกเป็น 2 ไดร์ฟแล้ว รองรับ MicroSD สูงสุด 32GB หน่วยประมวลผล Dual Core 1.2Ghz (Qualcomm Snapdragon 200) รองรับ 2 SIM และใช้งาน 3G แบตเตอรี่ความจุ 1800 mAh และหนัก 150 กรัม
รู้จักกับตัวเครื่องกันไปแล้วมาดูทางด้านระบบปฎิบัติการ Nokia X เวอร์ชั่น 2.0 ใหม่ล่าสุดกันบ้างที่มีให้งานเฉพาะ Nokia X2 เท่านั้นโดยที่สามารถงานได้ถึง 3 หน้าจอ
ได้แก่หน้าจอหลัก Home ที่มากับ App Tiles ที่ปรับเปลี่ยนขนาดและสีพื้นหลังของตัวเองได้ โดยหน้าจอนี้ในแต่ละแถวสามารถแสดงไทล์สูงสุดถึง 5 ไทล์จากเดิมที่มีเพียง 3 ไทล์เท่านั้น โดยถ้ามีการอัพเดทอีเมล ข้อความหรือแอพเวอร์ชั่นใหม่ ก็จะแสดงจำนวนตัวเลขไว้ข้างใต้ไอคอน นอกจากนี้ยังสามารถตกแต่งด้วย Widget ต่างๆได้
ขาดไม่ได้กับหน้าจอ Fastlane เข้าถึงแอพที่ใช้ล่าสุดสลับสับเปลี่ยนระหว่างแอพได้อย่างง่ายดาย และกิจกรรมในปฏิทินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
และหน้าจอ App List ใหม่ที่เรียงแอพต่างๆ ตามตัวอักษรสามารถเลือกแอพโปรดเพื่อวางไว้บนหน้าจอ Home ได้แบบ Windows Phone เลยทีเดียว
แต่ต่างตรงที่สามารถนำแอพไปใส่ Folder เพื่อความเป็นระเบียบได้ตามต้องการ จากนั้นนำไปวางไว้ที่หน้า Home ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีแถบแจ้งเตือนแบบใหม่ที่สามารถดึงลงมาเพื่อดูรายการการแจ้งเตือนต่างๆ อีกแทบจะเป็นเมนูลัดในการปรับแต่งการใช้งานตัวเครื่อง เช่นปิดเปิด WIFI ,Bluetooth หรือ Mobile Data ปรับความสว่างหน้าจอและเข้าไปสู่เมนูการตั้งค่าต่างๆของตัวเครื่อง
ที่หน้าสนใจมากเป็นพิเศษของ Nokia X2 อีกอย่างหนึ่งคือตัวกล้องดิจิตอลที่นอกจากจะมาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแบบ ออโต้โฟกัสแล้วยังมีฟีเจอร์การถ่ายภาพ Selfie อัจฉริยะที่สามารถสนุกกับการถ่ายรูปตัวเองได้ทั้งกล้องด้านหน้าและกล้องด้านหลังที่จะมีเสียงแจ้งเตือนให้เราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและแตะที่หน้าจอเพื่อถ่ายได้ทันที แถมยังสามารถ Backup รูปภาพทั้งหมดไปยัง OneDrive ได้แบบอัตโนมัติไม่ต้องกลัวรูปหายอีกต่อไป
ด้านการถ่ายวิดีโอก็รองรับที่ความละเอียด 720p(HD, 1280 x 720 พิกเซล) ซูมได้ 4 เท่าอีกด้วย ส่วนกล้องด้านหน้าสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 480p (VGA, 640 x 480 พิกเซล)
นอกจากนี้ Nokia X2 ยังคงรองรับแอพ Android ชื่อดังหลายแสนแอพผ่านทาง Nokia Store ไม่ว่าจะเป็น Instagram, WeChat, Skype, Facebook, LINE Rangers, และ Temple Run 2 ถ้าแอพหรือเกมไหนหาไม่เจออย่างเช่นเกม LINE ใหม่ๆก็สามารถไปติดตั้งเพิ่มเติมได้จากร้านค้าแอพอื่นๆเช่น 1Mobile Market, Aptoide, SlideME, Mobango และ Yandex โดย Nokia X2 สามารถย้ายเกมจากหน่วยความจำตัวเครื่องไปยัง MicroSD ได้แล้ว ช่วยแก้ปัญหาหน่วยความไม่พออันแสนน่าเบื่อได้ง่ายๆอีกด้วย
Nokia X2 ได้ตัดเอา Nokia Browser ที่มาใน Nokia X รุ่นแรกออกไปแล้วใช้ Opera Browser แทนแต่ถ้าใครไม่ชอบสามารถติดตั้ง Nokia Browser ได้ที่ Nokia Store เพิ่มเติมได้
แน่นอนว่าบริการจาก Nokia อย่าง Here Maps ที่แสดงแผนที่แบบ 3 มิติของกรุมเทพได้อย่างครบถ้วนและใช้นำทางได้อีกด้วยหรือ Mix Radio ยังคงมีให้ใช้งานฟรี สามารถดาวน์เพลงฮิตมาฟังแบบ Offlineได้ชิลๆโดยไม่ต้องเสียเวลาลงทะเบียนใดๆ ส่วนบริการจาก Microsoft ก็มาครบถ้วนเช่นเคยไม่ว่าจะเป็นโทรทั้งในและต่างประเทศฟรี 1 เดือนด้วย Skype และพื้นที่จัดข้อมูลบน OneDrive ก็ได้ฟรีถึง 15 GB
โดย Microsoft ประเทศไทยได้วางจำหน่าย Nokia X2 แล้วในราคาเพียง 4,690 บาทเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ดีกว่ารุ่นแรกอย่างมากแทบจะไม่มีการอาการหน่วงให้หงุดหงิดขณะใช้งานหลายๆแอพอีกต่อไป แถมหน้าจอที่คมชัดสีสด กล้องดิจิตอลพร้อมลูกเล่นการถ่ายภาพ Selfie ตามสมัยนิยมก็มีมาพร้อมคุ้มค่าเกินราคาจริงๆ
ชมรีวิวแกะกล่อง Nokia X2 ได้ที่นี่
ชมบรรยากาศงาน Workshop Nokia X2 ได้ที่นี่
บทความโดย – www.flashfly.net
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ – www.nokia.co.th/nokiax2