หลังจากที่บทความที่แล้วได้แนะนำให้รู้จักกับ Lumia 1520 กันไปแล้วทั้งรูปลักษณ์และข้อดีของการใช้งานหน้าจอใหญ่ขนาด 6 นิ้ว Full HD กันไปแล้ว ในบทความนี้ก็จะมาเน้นพูดถึงเรื่องกล้องถ่ายรูปของ Lumia 1520 กันบ้างเพราะนอกจากจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี PureView ความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซลแล้ว เมื่อใช้งานควบคู่ไปกับแอพกล้องถ่ายรูปขั้นเทพ Nokia Camera ที่รวมระหว่างแอพ Nokia Smart Camera กับ Nokia Pro Camera มาไว้ด้วยกันทำให้ไม่ต้องสลับแอพไปมาระหว่างใช้งานให้เสียเวลา
โดยเมื่อเปิดการใช้งาน Nokia Camera ขึ้นมาก็พบหน้าที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่มุมซ้ายบนจะเป็นการเปิดดูรูปในเครื่อง
ถัดมาตรงกลางก็จะเป็นการเลือกโหมดการถ่ายภาพแบบง่ายมีแบบ Auto ,Night และ Sports โดยสามารถเลือกปิดเปิดแฟลชจากตรงนี้ได้อีกด้วย และเมื่อแตะที่ลูกศรก็จะเป็นการปรับค่าแบบเดียว Pro Camera นั่นเองไม่ว่าจะเป็น ISO,ความเร็วชัตเตอร์ หรือการชดเชยแสง
ถัดมาที่มุมขวาบนจะเห็นจุด 3 จุดหรือการตั้งค่านั่นเอง สามารถเลือกตั้งเวลาการถ่ายอัตโนมัติ เปิดใช้กล้องหน้า หรือการปรับค่าของรูปภาพและวิดีโอได้ที่นี่
ถัดลงมาจะเห็นไอคอนวงกลม 3 อันประกอบไปด้วยการถ่ายวีดิโอ ถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายภาพแบบ Smart นั่นเอง สำหรับการถ่ายวีดิโอนั้นจะเป็นการถ่ายที่ความละเอียด Full HD ซูมได้ 3 เท่า พร้อมการอัดเสียงขั้นเทพ Nokia Rich Recording ด้วยไมโครโฟน 4 ตัว
การถ่ายภาพนิ่งนั้นสามารถใช้งานได้เหมือนกับ Pro Camera ที่สามารถปรับค่าต่างๆได้ดังต่อไปนี้
- Flash เป็นการตั้งค่าใช้งานปิดหรือเปิด Flash มีให้เลือกแบบ Auto ,On, Focus light Only ,No focus light และ Off
- WB หรือ White Balance สามารถเลือกสภาวะแสงแบบต่างๆด้วยตัวที่วงแหวนทางขวาให้เลื่อนปุ่ม WB ขึ้นตามวงกลมมีให้เลือก Auto,Cloudy,Daylight,Fluorescent และ Incandescent
- Focus สามารถเลือกปรับความคมชัดของระยะวัตถุ ได้ทั้งแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือเลือกชัดเฉพาะฉากหลังเป็นต้น สามารถเลือกได้ตั้ง Auto ,Manual และ Infinity สำหรับการใช้งาน Focus แบบ Auto นั้นจะสามารถแตะตรงไหนของหน้าจอก็ได้ เพื่อทำการ Focus เฉพาะจุ แต่สำหรับใครที่เบื่อว่าตั้ง Auto แล้วภาพตก Focus บ่อยๆแนะนำให้ปรับค่าตรงนี้
- ISO เป็นการปรับค่าความไวแสง สามารถเลือกปรับได้ตั้งแต่ Auto หรือปรับเองได้ตั้งแต่ ISO 100 ไปจนถึง ISO 4000
- ความไวชัตเตอร์ สามารถเลือกปรับได้อย่างกล้องโปรทีเดียวจากที่ตั้งไว้แบบ Auto สามารถปรับได้ความเร็วที่ 1/16000 วินาทีไปจนถึงเปิดค้างนานสุด 4 วินาทีสำหรับถ่ายภาพ Paint Lighting (ควรใช้ขาตั้งหรือถือให้มือนิ่งที่สุด)
- การปรับค่าชดเชยแสง สามารถปรับค่าได้จาก +3.0 ถึง -3.0
ส่วนการซูมภาพนั้นทำง่ายโดยการสัมผัสที่หน้าจอแล้วลากนิ้วจากขอบล่างขึ้นไปขอบด้านบนเท่านั้น โดย Lumia 1520 ซูมภาพแบบไม่แตกได้ 2 เท่า และ 3 เท่าสำหรับการซูมขณะถ่ายวิดีโอ
สุดท้ายกับโหมด Smart ที่ Nokia ยกเอาความสามารถมาจาก Smart Camera มาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ถึงช็อตแล้วนำมาปรับแต่งด้วย ActionShot,Motion Focus ,Best Shot ,Remove Moving Objects และ Change Faces ได้ตามต้องการ รับรองว่าภาพถ่ายที่ได้นั้นไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน และเพิ่มความสนุกในการใช้งานเป็นอย่างมาก
และด้วยที่ Lumia 1520 มาพร้อม Lumia Black ซอฟแวร์เวอร์ชั่นล่าสุดจาก Nokia ทำให้สามารถถ่ายภาพแบบ RAW File ในรูปแบบ Adobe Digital Negative ( .DNG ) ที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยคุณภาพของภาพที่ได้จะไม่สูญเสียรายละเอียดต่างๆในภาพไป สามารถนำไปตกแต่งด้วยโปรแกรม Adobe Lightroom ต่อได้ด้วยแล้ว ทำให้ภาพที่ได้ไม่เหมือนใคร และสวยงามเทียบชั้นกล้องโปรเลยทีเดียว
อ่านข้อมูลเรื่องไฟล์ Adobe Digital Negative (.DNG) คืออะไรได้ที่นี่
บทความโดย – www.flashfly.net