วันนี้ทีมงาน @flashfly มีบทความที่น่าสนใจกับการถ่ายภาพแบบมืออาชีพด้วยสมาร์ทโฟน Nokia Lumia รุ่นที่เน้นการถ่ายภาพอย่าง Lumia 920 ,Lumia 925 และที่เทพสุดๆกับ Lumia 1020 ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปสดๆร้อนๆในเมืองไทย
ซึ่งแอพที่จะมาแนะนำใช้งานในครั้งนี้ก็คือ Nokia Pro Camera ที่มาพร้อมบน Lumia 1020 ส่วน Lumia 925 สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ที่ Windows Phone Store ส่วน Lumia 920 ต้องอัพเดทเป็น Amber เสียก่อนถึงจะสามารถติดตั้งได้ แน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นหลังตัวกล้องนั้นมีความสามารถไม่เทียบเท่ากับ Lumia 1020 แต่สามารถปรับค่าต่างๆได้เช่นเดียวกัน
หลังจากที่ติดตั้งแล้วให้เปิด Nokia Pro Camera ขึ้นมาก็จะเห็นหน้าตาการใช้งานดังนี้ สังเกตุได้ว่าทุกอย่างจะถูกตั้งค่าในโหมด Auto ซึ่งเราสามารถตั้งแต่ได้เอง เพียงแค่สัมผัสที่ไอคอนแต่ละอันทั้ง 5 ไอคอนซึ่งมีดังต่อไปนี้
- Flash เป็นการตั้งค่าใช้งานปิดหรือเปิด Flash มีให้เลือกแบบ Auto ,On, Focus light Only ,No focus light และ Off
- WB หรือ White Balance สามารถเลือกสภาวะแสงแบบต่างๆด้วยตัวที่วงแหวนทางขวาให้เลื่อนปุ่ม WB ขึ้นตามวงกลมมีให้เลือก Auto,Cloudy,Daylight,Fluorescent และ Incandescent
- Focus สามารถเลือกปรับความคมชัดของระยะวัตถุ ได้ทั้งแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือเลือกชัดเฉพาะฉากหลังเป็นต้น สามารถเลือกได้ตั้ง Auto ,Manual และ Infinity สำหรับการใช้งาน Focus แบบ Auto นั้นจะสามารถแตะตรงไหนของหน้าจอก็ได้ เพื่อทำการ Focus เฉพาะจุ แต่สำหรับใครที่เบื่อว่าตั้ง Auto แล้วภาพตก Focus บ่อยๆแนะนำให้ปรับค่าตรงนี้
- ISO เป็นการปรับค่าความไวแสง สามารถเลือกปรับได้ตั้งแต่ Auto หรือปรับเองได้ตั้งแต่ ISO 100 ไปจนถึง ISO 4000
- ความไวชัตเตอร์ สามารถเลือกปรับได้อย่างกล้องโปรทีเดียวจากที่ตั้งไว้แบบ Auto สามารถปรับได้ความเร็วที่ 1/16000 วินาทีไปจนถึงเปิดค้างนานสุด 4 วินาทีสำหรับถ่ายภาพ Paint Lighting (ควรใช้ขาตั้งหรือถือให้มือนิ่งที่สุด)
- สุดท้ายกับการปรับค่าชดเชยแสง สามารถปรับค่าได้จาก +3.0 ถึง -3.0
ซึ่งการปรับทั้งหมดนี้สามารถปรับพร้อมกันได้ในครั้งเดียวด้วยการ ดันปุ่มถ่ายภาพทางขวามือไปทางซ้ายเท่านั้น
สำหรับใครกลัวมือไม่นิ่งเวลากดปุ่มชัตเตอร์หรือตั้งขาตั้งเวลาถ่ายที่แสงน้อยมากๆ ก็สามารถตั้งค่าให้ตัวกล้องถ่ายเองได้ด้วยการเลือก Shutter Delay แล้วกดปุ่มถ่ายภาพตัวระบบจะทำการนับถอยหลังประมาณ 4 วินาทีชัตเตอร์ถึงจะทำงาน
เมื่อถ่ายภาพด้วย Nokia Pro Camera แล้วเรายังสามารถนำมาแก้ไขหรือที่เรียกการ Reframe ด้วยการเลือกกดที่ปุ่มที่ 2 ตามภาพ ซึ่งเมื่อกดแล้วจะเห็นว่ามีตารางขึ้นมา เราสามารถเลื่อนหรือขยายภาพตามจุดต่างๆได้อย่างอิสระ สามารถหมุนภาพปรับแต่งองศาได้ตามใจอีกด้วย หรือจะปรับสัดส่วนของภาพให้เป็นแบบ 16:9,4:3 ,3:2 หรือ 1:1 เพื่อแชร์ลง 6Tag (Instagram) ก็สามารถปรับได้ และเมื่อกดเซฟที่ไอคอนบนสุดแล้ว หากไม่ชอบใจก็สามารถแก้ไขใหม่เมื่อไรก็ได้ เพียงกดปุ่ม Reframe เช่นเดิมเท่านั้น (ตรงส่วนนี้ Lumia 925 และ Lumia 920 จะไม่สามารถขยายภาพได้เท่า Lumia 1020 )
สำหรับการถ่ายภาพด้วย Nokia Pro Camera บน Lumia 1020 นั้นจะสามารถซูมถ่ายได้ 3 เท่า (ซูมวิดีโอได้ 6 เท่า)โดยภาพไม่แตก สามารถทำได้ในมือด้วยด้วยการใช้นิ้วแตะที่ขอบล่างของหน้าจอในแนวนอนแล้วลากขึ้นไปด้านบนเท่านั้น
เมื่อถ่ายภาพแล้วสามารถ Reframe ดูภาพเต็มๆก่อนซูมได้อีกด้วย ถือว่าเป็นความสุดยอดที่ Nokia พัฒนาขึ้นมา ยังไม่มีใครทำได้ ซึ่งภาพที่ได้นั้นจะมี 2 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลและ 34 ล้านพิกเซล (สำหรับ Lumia 1020) โดยภาพที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลนั้นจะมีขนาดประมาณ 2MB สำหรับแชร์ไปยังสังคมออนไลน์ ส่วนภาพความละเอียดสูง 34 ล้านพิกเซล (Hi-res) จะมีขนาดใหญ่ถึง 10MB ไว้สำหรับงานพิมพ์และไว้สำหรับแก้ไขภาพตอน Reframe นั่นเอง
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia Pro Camera บน Lumia 1020 ที่ไม่ได้มีการปรับแต่ง (คลิกเพื่อชมภาพใหญ่)
นอกจากนี้ Nokia Pro Camera ยังรองรับการถ่าย VDO แบบ Full HD 1080p ที่สามารถซูมได้ไกลถึง 6 เท่าโดยคุณภาพยังคมชัด พร้อมการบันทึกเสียง Nokia HD Recording ที่ให้เสียงคมชัดมากเป็นพิเศษ และยังสามารถปรับค่าได้ดังต่อไปนี้
- Light เลือกปิดหรือเปิดไฟขณะถ่าย VDO
- WB หรือ White Balance สามารถเลือกสภาวะแสงแบบต่างๆ มีให้เลือก Auto,Cloudy,Daylight,Fluorescent และ Incandescent
- Focus สามารถเลือกปรับความคมชัดของระยะวัตถุ ได้ทั้งแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือเลือกชัดเฉพาะฉากหลังเป็นต้น สามารถเลือกได้ตั้ง Auto ,Manual และ Infinity
ชมตัวอย่างคลิป VDO ที่ถ่ายด้วย Lumia 1020
จากการใช้งาน Nokia Pro Camera บนสมาร์ทโฟน Lumia 1020 หรือ Lumia 925 และ Lumia 920 ทำให้เปลี่ยนจากกล้องสมาร์ทโฟนทั่วไปกลายเป็นกล้องถ่ายภาพระดับมืออาชีพเลยทีเดียว
บางครั้งสามารถใช้แทนกล้องโปรได้เลยด้วยซ้ำเพราะนอกจากจะมีแอพที่ดีแล้ว ยังมีเทคโนโลยีอย่าง PureView ความละเอียด 41 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ Carl Zeiss ถึง 6 ชิ้นที่ช่วยภาพที่ได้สว่าง สวยงาม ความชัดแม้ในที่แสงน้อยก็ตาม ถือเป็นความโดดเด่นที่ Nokia มอบให้ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนตัวจริง
บทความโดย – www.flashfly.net