เอชทีซี ผู้นำด้านนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน เผยแคมเปญการตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างสรรค์มา โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบบครบวงจรในระยะยาว เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลา 17 ปีเต็มของการสร้างสรรค์นวัตกรรมในวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แคมเปญ “Change” ชุดนี้บอกชัดว่า แรงบันดาลใจในการสรรค์สร้างนวัตกรรมของเอชทีซีนั้น ล้วนเกิดจากความมุ่งมั่นในการยืนหยัดต่อ “สิ่งที่คุณต้องการให้เป็น” (Anything you want it to) แคมเปญนี้ จะสื่อสารผ่านทั้งสื่อดิจิตอล โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค การประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมทางการตลาด ทั้งนี้โดยเริ่มต้นจากซีรี่ส์ภาพยนตร์โฆษณาที่ได้ “โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์” นักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ของโลกมาแสดงนำ โดยภาพยนตร์โฆษณาชุดแรกจะถูกปล่อยออกไปในวงกว้างตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมเป็นต้นไป
ภาพยนตร์โฆษณาสุดสร้างสรรค์ชุดใหม่ที่ได้โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์มาเป็นผู้ก่อความเปลี่ยนแปลงชุดนี้ จะเผยโลกแห่งจินตนาการอันมีคำว่า “เอชทีซี” เกี่ยวข้องอยู่ในทุกรายละเอียด ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นความสนใจและก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้บริโภค ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้บอกเล่าเรื่องราวของนักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังคนหนึ่งที่เริ่มต้นสร้างความเปลี่ยนแปลงชุดใหญ่อันเกิดผลสำเร็จขึ้นมาได้ก็ด้วยความช่วยเหลือของเอชทีซี ในภาพยนตร์ชุดนี้จะเผยให้เห็นตัวอย่างของการทำหน้าที่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงของเอชทีซี โดยการเล่นกับตัวอักษรย่อ H, T และ C ที่อาจหมายความถึงอะไรได้อย่างหลากหลายไม่จำกัด เช่นอาจหมายถึงเรือใบลำใหญ่ยักษ์ห่อแผ่นอลูมิเนียม (Humongous Tinfoil Catamaran) หรือร้านล้างรถสำหรับคนคูล ๆ (Hipster Troll Carwash) ก็ได้ โดยนอกเหนือจากภาพยนตร์โฆษณาแล้ว แคมเปญนี้ยังมีกิจกรรมอื่นอีกมากมาย ทั้งทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค และกิจกรรมอื่นๆ ที่จะเชิญชวนผู้บริโภคมาร่วมรับประสบการณ์ตรงกับเอชทีซี
มร.เบน โฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด เอชทีซี คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “นวัตกรรม ความมีเอกลักษณ์ และความกล้าของเอชทีซี คือส่วนสำคัญที่ทำให้เราเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในวงการสมาร์ทโฟน และนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราสามารถสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่าเป็นโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง “HTC One” ขึ้นมาได้สำเร็จ แคมเปญ “Change” ที่ทั้งเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และความสนุกสนาน เป็นแคมเปญที่มีความแตกต่างไปจากทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมีมา ทว่าก็เป็นแคมเปญที่ช่วยตอกย้ำให้แบรนด์เอชทีซีมีความเด่นชัดมากขึ้นในเรื่องของคุณภาพ ซึ่งนั่นคือเหตุผลเดียวกันกับที่สมาร์ทโฟนรุ่นต่าง ๆ ของเราเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก กับการเปิดตัวแคมเปญนี้ เรากำลังเน้นย้ำว่า เอชทีซีมีบทบาทหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในวงการสมาร์ทโฟนนั่นคือการเป็นผู้กำหนดความเปลี่ยนแปลงและก้าวนำทั้งอุตสาหกรรมไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทั้งใหม่และก้าวหน้าถึงขีดสุด”
สำหรับภาพยนตร์โฆษณาที่สร้างสรรค์ขึ้นในแคมเปญนี้ ถ่ายทำในโลเคชั่นที่ไมอามี สหรัฐอเมริกา กำกับภาพยนตร์โดย ไบรอัน บัคลี่ย์ (Bryan Buckley) จากบริษัท Hungry Man ซึ่งเป็นบริษัทโปรดัคชั่นชื่อดังระดับโลก เพลงประกอบที่ใช้ในภาพยนตร์ชุดนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยบีคอน สตรีท สตูดิโอ (Beacon Street Studios) ในลอสแองเจลิส สำหรับการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ เอชทีซีจะเปิดตัวพร้อมไปกับการสื่อสารผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างครบวงจร ทั้งทางโซเชี่ยลมีเดีย โทรทัศน์ รวมไปถึงสื่อสิ่งพิมพ์ บิลบอร์ด และสื่อโฆษณาภายในร้านค้า ตามด้วยกิจกรรมที่ผู้บริโภคสามารถเข้ามามีส่วนร่วม โดยมุ่งเน้นไปที่สุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฟนตระกูล One ที่ได้รับรางวัลมาแล้วทั่วโลก
โฉมหน้าเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลง
โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ ผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักแสดงระดับซูเปอร์สตาร์ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุดคนหนึ่งในโลก เซ็นสัญญากับเอชทีซีเป็นเวลา 2 ปีเต็ม โดยนอกเหนือจากการร่วมแสดงนำในภาพยนตร์โฆษณาแล้ว โรเบิร์ตยังนำสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเขาเองใส่ลงไปในการทำงานครั้งนี้ด้วย โดยเขาทำงามร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับบริษัท วัน เซเว่น วัน เวิลด์ไวด์ (171 Worldwide ในเครือ WWP Group) เอเจนซี่โฆษณาระดับโลกที่ผลิตผลงานให้กับเอชทีซี ทั้งในเรื่องการนำเสนอทิศทางของการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงการร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับแบรนด์เอชทีซี โดยเฉพาะการร่วมตีความความหมายของอักษรย่อ H, T และ C ให้เกิดเป็นความหมายที่หลากหลายและเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์
เฉลิมฉลองความเป็นผู้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง
แคมเปญชุด “Change” จะเผยโฉมหน้าออกมาเป็น 3 เฟส เริ่มจากเฟสแรก ซึ่งเป็นการนำเสนอแคมเปญโฆษณาที่ขับเน้นจุดเด่นของแบรนด์เอชทีซีผ่านรูปแบบการนำเสนอที่สนุกสนานเพื่อสื่อความหมายที่แตกต่างสำหรับผู้คนที่มีความแตกต่างกัน ในเฟสที่ 2 นำเสนอจุดเด่นเรื่องนวัตกรรมของเอชทีซี อาทิ ฟังก์ชั่น BlinkFeed, Video Highlights และ BoomSound ที่ได้พลิกโฉมหน้าของวงการสมาร์ทโฟนมาแล้ว ส่วนในเฟสสุดท้าย จะเป็นการสื่อสารที่มุ่งเน้นการบอกเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์จากเอชทีซีที่ได้ช่วยสร้างพลังให้กับผู้ใช้แต่ละบุคคลในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของพวกเขาจนเกิดผลสำเร็จ
พลิกโฉมหน้าการเลือกช่องทางการสื่อสาร
เพื่อให้แคมเปญนี้เข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายของเอชทีซีได้อย่างดีที่สุด การสื่อสารแคมเปญออกไปยังผู้บริโภคจะเน้นหนักไปที่การนำเสนอผ่านโรงภาพยนตร์ สื่อออนไลน์ และสื่อดิจิตอล พร้อมไปกับการทำกิจกรรมการตลาดแบบสร้างประสบการณ์ตรงให้ผู้บริโภคในตลาดหลักของเอชทีซี ทั้งในอังกฤษ สหรัฐอเมริกา และไต้หวัน เพื่อสื่อสารแนวความคิดของแบรนด์เอชทีซีไปยังผู้บริโภคที่จะเข้ามารับประสบการณ์ตรงจากแคมเปญสุดสร้างสรรค์นี้ของเอชทีซีด้วยตัวเอง นอกจากนี้เอชทีซียังจะแพร่กระจายการสื่อความหมายที่หลากหลายไม่สิ้นสุดของการตีความอักษรย่อ H, T และ C และการสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งผ่านการใช้แอพพลิเคชั่น “word randomiser” ที่เว็บไซต์ HTC.com และการทำงานผ่านช่องทางของโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คอื่น ๆ อาทิ เฟซบุ๊ค กูเกิล พลัส และทวิตเตอร์ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมแปลและตีความหมายอักษรย่อ H, T และ C ได้อย่างหลากหลายไม่มีข้อจำกัดในแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
แคมเปญ “Change” ถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยบริษัท 171 Worldwide เอเจนซี่โฆษณาระดับโลกที่ผลิตผลงานให้กับเอชทีซีและสำหรับเรื่องสื่อต่างๆโดยบริษัท Omnicom Group’s M2M Media และกิจกรรมประชาสัมพันธ์โดยบริษัท Nelson Bostock Group ในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา และบริษัท Waggener Edstrom ในอเมริกาเหนือ