อะโดบี (Nasdaq:ADBE) แนะนำ Adobe Photoshop® CC โดยเป็นส่วนหนึ่งของอัพเดตสำคัญสำหรับ Adobe Creative Cloud ทั้งนี้ Photoshop CC จะขยายขอบเขตความเป็นไปได้ พร้อมทั้งนำเสนอกระบวนการใหม่ๆ สำหรับงานครีเอทีฟ เทคโนโลยีภาพถ่ายที่น่าทึ่ง รวมไปถึงเครื่องมือใหม่ๆ และเวิร์กโฟลว์ที่จะช่วยเพิ่มอิสระในการสร้างสรรค์งานศิลป์
โปรแกรมเดสก์ท็อปของอะโดบี รวมถึง Photoshop ซึ่งเดิมใช้ชื่อว่า Creative Suite (CS) ตอนนี้ได้ถูกนำเสนอภายใต้แบรนด์ CC (CC ย่อมาจาก Creative Cloud) เพื่อแสดงให้เห็นว่าโปรแกรมเหล่านี้เป็นส่วนประกอบหลักใน Creative Cloud และได้ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานแนวใหม่ภายใต้การเชื่อมต่อ Photoshop CC ประกอบด้วยการปรับปรุงมากมาย รวมไปถึงการแก้ไขภาพเบลอ และการปรับภาพให้คมชัด พร้อมทั้งปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ในการออกแบบ และความสามารถใหม่ๆ สำหรับ Camera Raw อัพเดตชุดใหม่นี้ผสานรวมฟีเจอร์มาตรฐานของ Photoshop และฟีเจอร์เสริม เพื่อรองรับการเข้าใช้เครื่องมือ 3D และการวิเคราะห์ภาพ และหากผนวกรวมเข้ากับระบบ Creative Cloud ก็จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการแชร์และการทำงานร่วมกัน
นาย วินสตัน เฮนดริกสัน รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นครีเอทีฟมีเดียของอะโดบี กล่าวว่า “ด้วยความสามารถในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว เราช่วยเสริมศักยภาพให้แก่ช่างภาพและครีเอทีฟในการสร้างสรรค์ภาพดิจิตอลและงานดีไซน์อย่างไร้ขีดจำกัด ลูกค้าของเราไม่ต้องรอ 18-24 เดือนอีกต่อไปเพื่อที่จะเข้าใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในซอฟต์แวร์ Photoshop เมื่อฟีเจอร์ใหม่ของ Photoshop พร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Healing Brush แบบใหม่ หรือสุดยอดฟีเจอร์อย่างเช่น Content Aware Fill เราก็จะนำเสนอฟีเจอร์ดังกล่าวผ่านทาง Creative Cloud และใช้ได้ในทันที”
ฟีเจอร์ใหม่ๆ ใน Photoshop CC
Photoshop CC นำเสนอฟีเจอร์และส่วนปรับปรุงที่หลากหลาย ซึ่งได้รับการออกแบบเป็นพิเศษเพื่อปลดปล่อยพลังแห่งการสร้างสรรค์ พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายให้สมบูรณ์แบบ การออกแบบสื่อออนไลน์และออฟไลน์ การสร้างอาร์ตเวิร์ก 3D หรือการถ่ายทำวิดีโอ
– เครื่องมือใหม่ๆ นำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำที่สุดสำหรับการแก้ไขภาพเบลอและการปรับภาพให้คมชัด เครื่องมือใหม่ Camera Shake Reduction ทำหน้าที่วิเคราะห์และแก้ไขภาพเบลอที่เกิดจากการสั่นไหวของกล้องเพื่อให้ได้ภาพที่ดีขึ้น ส่วนเครื่องมือ Smart Sharpen จะใช้อัลกอริธึมการปรับภาพให้คมชัด เพื่อลดสัญญาณรบกวนและภาพเงาแฝง และทำให้ภาพที่ได้มีคุณภาพสูง ด้วยการเพิ่มอัตราสุ่ม (Upsampling) แบบอัจฉริยะ ผู้ใช้จะสามารถเพิ่มขนาดของภาพให้ใหญ่พอสำหรับป้ายบิลบอร์ด โดยไม่ทำให้ภาพแตก
– Adobe Camera Raw 8 มอบความสามารถใหม่ 3 อย่างในการแก้ไขภาพถ่ายให้กับ Photoshop CC นั่นคือ Advanced Healing Brush ซึ่งช่วยให้ช่างภาพสามารถ “ตกแต่ง” หรือ “แก้ไข” รูปภาพโดยใช้ฝีแปรง แทนการใช้พื้นที่รูปวงกลม นอกจากนี้ ยังมี Radial Gradient ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการวาดโดยโฟกัสที่รูปภาพ และไม่ต้องใช้ Vignette มาตรฐาน ขณะที่เครื่องมือ Upright จะทำให้เส้นขอบฟ้าเป็นแนวตรงโดยอัตโนมัติ และแก้ไขเพอร์สเปกทีฟ (Perspective) โดยไม่ทำให้ภาพบิดเบี้ยว นอกจากนั้น ยังสามารถแก้ไข Camera Raw บนเลเยอร์หรือไฟล์ใดๆ ภายใน Photoshop CC ได้อีกด้วย
– สำหรับนักออกแบบ การปรับปรุงรูปสี่เหลี่ยมขอบโค้งมน ช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับรัศมีของมุมได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกเส้นทาง รูปทรง และเวคเตอร์หลายๆ ส่วนได้ในคราวเดียวกัน ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงานกับวัตถุที่หลากหลาย
– ในเวอร์ชั่นก่อนหน้า Adobe Photoshop Extended วางจำหน่ายในรูปแบบของโปรแกรมที่แยกต่างหาก โดยประกอบด้วยฟีเจอร์ทั้งหมดของ Photoshop รวมถึงความสามารถทางด้าน 3D และการวิเคราะห์ภาพ แต่ด้วย Photoshop CC ฟีเจอร์เสริมทั้งหมดของ Photoshop จะถูกรวมไว้ภายในโปรแกรมเดียว ช่วยให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ที่ก้าวล้ำสำหรับการแก้ไขภาพ 3D และการวิเคราะห์ภาพ
– Photoshop CC เป็นเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่นแรกสุดของอะโดบีที่สามารถโพสต์ไฟล์ไปยัง Behance ได้โดยตรงจากโปรแกรม พร้อมทั้งแสดงผลงานได้ทันที และรวมข้อมูลคำติชมของเพื่อนร่วมงานไว้ในกระบวนการสร้างสรรค์ (creative process) Behance เป็นชุมชนครีเอทีฟออนไลน์ชั้นนำระดับโลก มีสมาชิกกว่า 1.4 ล้านรายทั่วโลก
– Photoshop CC รวมถึงนวัตกรรมฟีเจอร์ทั้งหมดของ Photoshop ที่นำเสนอให้แก่สมาชิก Creative Cloud ในปีที่แล้ว รวมถึงการสนับสนุน Smart Object สำหรับ Blur Gallery และเอฟเฟ็กต์ Liquify, Conditional Actions และการสนับสนุน CSS เพื่อการออกแบบเว็บที่รวดเร็วกว่า
– นอกจากนี้ อะโดบียังนำเสนอตัวอย่างเวิร์กโฟลว์ใหม่จาก Photoshop CC ไปยัง Edge Reflow CC ซึ่งจะช่วยให้ครีเอทีฟสามารถสร้างสรรค์งานออกแบบเว็บใน Photoshop โดยจะสามารถเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์ที่ตอบสนองอย่างฉับไว สามารถดูได้บนทุกอุปกรณ์ อะโดบีมีแผนที่จะอัพเดต Photoshop CC ด้วยการเพิ่มเติมความสามารถใหม่ดัง เพื่อตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่สมาชิก Creative Cloud อย่างต่อเนื่อง
นาย สตีเฟ่น วิลเคส ช่างภาพผู้มีชื่อเสียง ซึ่งเคยมีผลงานปรากฏอยู่ในนิตยสาร Vanity Fair, Sports Illustrated, Time, Life Magazine และ The New York Times กล่าวว่า “ผมถ่ายภาพมากมายหลายพันภาพสำหรับโครงการ ‘Day to Night’ และผมพยายามมองหาหนทางที่จะปรับปรุงกระบวนการทำงานครีเอทีฟของผม เมื่อ Photoshop ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของ Creative Cloud ของอะโดบี ผมก็ไม่ต้องเสียเวลารอคอยในทุกๆ ปีเพื่อใช้ชุดเครื่องมือและฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างเช่น Smart Sharpen และความสามารถในการทำ Upsampling เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ดีเยี่ยมอย่างที่ผมต้องการ นอกจากนี้ผมดีใจที่มีการผนวกรวมระบบเข้ากับ Behance เพราะในฐานะช่างภาพ การเชื่อมต่อกับชุมชนศิลปิน อาร์ตไดเร็กเตอร์ และดีไซเนอร์ทั่วโลกช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างมากเลยทีเดียว”
แผนบริการและการวางจำหน่าย
ค่าสมาชิก Creative Cloud สำหรับบุคคลทั่วไปอยู่ที่ 1,500 บาทต่อเดือน โดยจะต้องสมัครสมาชิกรายปี ส่วนลูกค้าที่มี CS3 ถึง CS5.5 อยู่แล้วจะสามารถใช้บริการ Creative Cloud ช่วงปีแรกได้ในอัตราลดพิเศษที่ 900 บาทต่อเดือน ส่วนค่าบริการสำหรับการใช้ Photoshop CC เพียงโปรแกรมเดียวอยู่ที่ 600 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ มีโปรโมชั่นราคาพิเศษสำหรับลูกค้าบางราย รวมถึงผู้ใช้ CS6 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.adobe.com/sea
Creative Cloud สำหรับทีมงานประกอบด้วยสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่สมาชิกรายย่อยได้รับ พร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 100GB และความสามารถในการติดตั้งและบริหารจัดการแบบรวมศูนย์ Creative Cloud สำหรับทีมงานราคา USD69.99 ต่อเดือนต่อคน ลูกค้าที่มีใบอนุญาตใช้งาน Volume License สำหรับ CS3 หรือรุ่นใหม่กว่า จะสามารถใช้บริการ Creative Cloud สำหรับทีมงานในช่วงปีแรกได้ในอัตราลดพิเศษที่ USD39.99 ต่อเดือนต่อคน หากลงทะเบียนก่อนสิ้นเดือนสิงหาคม 2556
นอกจากนี้ อะโดบียังได้เปิดตัว Creative Cloud สำหรับองค์กรในวันนี้ พร้อมด้วยการอนุญาตใช้งานพิเศษสำหรับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานราชการ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อฝ่ายขายของ อะโดบี
เกี่ยวกับบริการ Adobe Creative Cloud
Adobe Creative Cloud เป็นบริการแบบสมัครสมาชิก ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเดสก์ท็อปแอพพลิเคชั่น Creative Suite ทั้งหมดได้อย่างไม่จำกัด พร้อมด้วยแอพพลิเคชั่นอื่นๆ เช่น เครื่องมือและบริการ Adobe Photoshop Lightroom, Adobe Muse, Adobe Edge รวมถึงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเกมและการผนวกรวมเข้ากับ Photoshop Touch apps** ผู้ใช้ที่เป็นสมาชิก Adobe Creative Cloud จะสามารถเข้าใช้บริการ Publishing Services ในการนำเสนอแอพและเว็บไซต์ รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูลคลาวด์สตอเรจ และสามารถซิงค์กับดีไวซ์ต่างๆ ผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ๆจะได้รับการอัพเกรดทันทีที่รีลีส