เอไอเอส เปิดตัวเต็มรูปแบบกับ “AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก” หลังใช้เวลา 4 เดือนสร้างเครือข่าย และมีลูกค้าไว้วางใจใช้บริการแล้วกว่า 8 แสนท่าน
เอไอเอสเปิดบริการ 3G เต็มรูปแบบเป็นรายแรก ภายใต้แนวคิด “AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก” ทุ่มสุดกำลังด้วยเวลาเพียง 4 เดือนหลังได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. พร้อมมอบบริการเชิงพาณิชย์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยเริ่มต้นให้บริการในหัวเมือง 20 จังหวัด ทุกภาคทั่วประเทศ หลังจากได้รับการตอบรับอัพเกรดบริการแล้วกว่า 8 แสนท่านในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า “วันนี้ประเทศไทยกำลังก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น จากการเริ่มเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการของ 3G บนคลื่น 2100 MHz ครั้งแรกที่เป็น 3G บนคลื่นมาตรฐานโลก ภายใต้การมอบใบอนุญาตจาก กสทช. เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และเอไอเอสก็เป็นรายแรกที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจนำทรัพยากรคลื่นความถี่ของชาติมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์อย่างรวดเร็วที่สุดตามเจตนารมณ์ของกสทช.”
“3G บนคลื่น 2100 MHz นับเป็นมาตรฐานที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union หรือ ITU) กำหนดขึ้น และทั่วโลกต่างใช้มาตรฐานนี้ในการให้บริการ 3G มาเป็นระยะเวลายาวนานต่อเนื่อง ซึ่งความสำคัญของ
“คลื่นมาตรฐานโลก” อยู่ที่การเชื่อมั่นได้ถึงคุณภาพของเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับมายาวนาน อีกทั้งไม่ต้องกังวลกับการเลือกใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะมือถือที่รองรับ 3G ทั้งหมดในตลาด สามารถใช้งาน 3G 2100 MHz ได้ทันที รวมถึงใช้งานในระหว่างเดินทางต่างประเทศได้อย่างไม่ต้องกังวล เพราะเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก”
“ดังนั้นตลอด 4 เดือนหลังจากได้รับใบอนุญาต พนักงานเอไอเอสกว่า 9,000 ชีวิต จึงมุ่งมั่นอย่างสุดกำลังที่จะพัฒนาบริการทุกด้านให้พร้อมมอบบริการ 3G 2100 แก่คนไทยอย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งนี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราได้เริ่มเรียนเชิญลูกค้าบางส่วนสัมผัสประสบการณ์ AIS 3G 2100 โดยออกแบบวิธีการอัพเกรดให้สะดวกสบาย ด้วยการให้ลูกค้าสามารถกดสมัครได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ซึ่งจนถึงวันนี้มีลูกค้าให้ความไว้วางใจอัพเกรดบริการแล้วกว่า 1 ล้านราย แสดงให้เห็นถึงปริมาณความต้องการใช้งานของลูกค้าเอไอเอสที่ใช้ Mobile Internet จาก 12 ล้านราย ณ สิ้นปี 2555 เป็น 15 ล้านราย ณ สิ้นปี 2556 เมื่อ 3G เต็มรูปแบบเริ่มให้บริการ”
ด้าน นายฮุย เวง ชอง หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า “เราเตรียมงบประมาณไว้ถึง 70,000 ล้านบาท เพื่อขยายเครือข่ายอย่างรวดเร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 4 เดือน ถือว่าเร็วกว่าที่กสทช. กำหนดไว้ถึง 2 ปี ซึ่งวันนี้เริ่มต้นแล้วกับ 5,000 สถานีฐาน ที่สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 10 ล้านราย ในบริเวณพื้นที่หัวเมืองของ 20 จังหวัด ทุกภาคทั่วประเทศ และในทุกเดือนจะมีสถานีฐานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 800 แห่ง ซึ่งจะทำให้เราสามารถขยายครอบคลุมหัวเมือง 77 จังหวัดในสิ้นปี 2556 และจะครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ ณ สิ้นปี 2557 แน่นอน”
“กลยุทธ์การวางเครือข่ายของเอไอเอสนั้น เราใช้ความถี่ซึ่งได้รับจากการประมูลทั้ง 15 เม็กกะเฮิรต์ซ มาให้บริการเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด เน้นที่ความหนาแน่นของสถานีฐาน, นำนวัตกรรมใหม่ๆ อย่าง Small Cell เข้ามาเสริมในช่องว่างจุดเล็กๆ ในแต่ละพื้นที่, การติดอุปกรณ์ให้รองรับความเร็วสูงสุดที่ 42 Mbps ทุกแห่งทั่วประเทศ, คุณภาพเสียงระดับ HD Voice สำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนรุ่นที่รองรับ รวมไปถึงการผสมผสานเชื่อมโยงกับเครือข่ายบนคลื่น 900 MHz ที่ได้รับการยอมรับว่าครอบคลุมสูงสุด ซึ่งก็จะยิ่งทำให้สามารถเชื่อมประสาน (seamless) การใช้งานของลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลได้มากยิ่งกว่าใคร ในกรณีที่ลูกค้าเดินทางออกนอกพื้นที่ให้บริการของ 3G 2100 MHz”
ทั้งนี้ สำหรับแผนงานด้านการตลาดของ AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก นั้น นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขาย กล่าวว่า “คุณภาพ” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการส่งมอบบริการ วันนี้เราจึงเริ่มให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้สัญลักษณ์ AIS 3G 2100 ทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ในระบบรายเดือนและเติมเงิน ด้วยคุณภาพงานบริการ ที่มาพร้อมความคุ้มค่าที่มากยิ่งกว่า อาทิ
– มิติใหม่ของรูปแบบแพ็กเกจการใช้งานยุค 3G ที่ต้องจัดเต็มด้วย Voice/Data/Wifi/ Applicationคุ้มค่าและหลากหลาย ในแพ็กเกจเดียวกัน เริ่มต้นเพียง 299 บาทเท่านั้น
– นวัตกรรมแห่งโลก Data ที่จะรองรับการใช้งาน Multimedia อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งมีทั้งพัฒนาขึ้นเอง หรือร่วมมือกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม อาทิ ความร่วมมือกับ BTS นำบริการ Rabbit มาไว้ในมือถือ, Mobile Payment ที่ร่วมกับ Master Card,My Cloud ที่ตอบโจทย์การจัดเก็บข้อมูลของคนรุ่นใหม่ฯลฯ
– นำโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์สื่อสารที่รองรับการใช้งาน 3G 2100/ 900 MHz เข้ามาให้แก่ลูกค้าอย่างตอบโจทย์ในทุก Segment
– พัฒนาจุดบริการที่พร้อมอำนวยความสะดวก ให้คำแนะนำครบถ้วนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับโฉม AIS Shop ทั่วประเทศที่เปิดให้ลูกค้าเริ่มสัมผัสประสบการณ์ 3G 2100 ได้แล้ว, ร้านเทเลวิซที่พร้อมบริการลูกค้ายุค 3G ด้วยมาตรฐานเอไอเอส และล่าสุดกับการร่วมกับร้านตัวแทนจำหน่ายแต่งตั้งเป็น AIS 3G เซ็นเตอร์ ด้วยแนวคิด “1 อำเภอ 1 AIS 3G เซ็นเตอร์” ที่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางซึ่งพร้อมให้บริการแก่ลูกค้ารับยุค 3G อย่างเต็มที่ รวมถึงความร่วมมือต่อเนื่องกับ Modern Trade รายใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นใน เร็วๆ นี้
– สิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์ที่มากยิ่งกว่าเดิม โดยเน้นที่ความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ Lifestyle และต่อยอดให้การใช้ Data ยุค 3G เป็นช่องทางการรับสิทธิพิเศษได้อย่างไร้ข้อจำกัด
โดยลูกค้าสามารถเริ่มต้นสัมผัสความพิเศษจาก AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก ได้แล้ววันนี้ ในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าปัจจุบันสามารถกดเพื่ออัพเกรดบริการเป็น AIS 3G 2100 ได้ที่หมายเลข *988*เลขบัตรประชาชน# แล้วโทรออกได้ฟรี! ซึ่งจะทำให้เมื่อพื้นที่บริการครอบคลุมถึงบริเวณที่ลูกค้าใช้งาน ก็จะสามารถเริ่มทยอยใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย”
นายวิเชียรย้ำว่า “ขอขอบพระคุณลูกค้าที่มอบความไว้วางใจ และรอที่จะให้เราได้มีโอกาสมอบบริการ AIS 3G 2100 โดยขอยืนยันถึงความตั้งใจของเราที่จะนำคลื่นความถี่ 2100 MHz ซึ่งถือเป็นทรัพยากรของชาติ มาสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศและพัฒนาบริการที่มีคุณภาพอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อยกระดับคุณภาพการสื่อสารของคนไทย อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการเริ่มต้นให้บริการบนเครือข่ายใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการเร่งขยายและปรับจูนให้มีคุณภาพสูงสุด เราจึงขอน้อมรับคำแนะนำจากลูกค้า ในกรณีหากพบปัญหาการใช้งาน และยินดีที่จะปรับปรุงคุณภาพ และแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพของทีมวิศวกรและบุคลากรชาวเอไอเอสทุกคนที่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ จะทำให้การเริ่มนำเทคโนโลยีมาตรฐานโลกอย่าง AIS 3G 2100 มาให้บริการ สามารถมอบมิติใหม่แห่งคุณภาพการสื่อสารขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรมแน่นอน”
พื้นที่ให้บริการ AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2556
กรุงเทพ , นนทบุรี ,ปทุมธานี, สมุทรปราการ, เชียงใหม่ , เชียงราย , นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์, อยุธยา, เพชรบุรี, ภูเก็ต, สงขลา, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี, ชลบุรี, ระยอง และ พิษณุโลก