การสื่อสารผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 1973 นายมาร์ติน คูเปอร์ วิศวกรอาวุโสของโมโตโรลลา ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรหานายโจเอล เอส เอนเกล เพื่อนที่ทำงานที่บริษัทเบล แล็บส์ บรืษัทด้านการสื่อสารคู่แข่ง ในย่านใจกลางนครนิวยอร์ก และคำพูดแรกคือ”โจเอล นี่ผมมาร์ตี้ ผมโทรหาคุณจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรศัพท์มือถือที่พกพาได้ของจริง”
โดยโทรศัพท์ต้นแบบเครื่องดังกล่าวมีชื่อว่า “DynaTAC” ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 10 นิ้ว
รายงานจากสหพันธ์การสื่อสารระหว่างประเทศ ประจำปี 2012 พบว่ามีผู้จดทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกกว่า 6,000 ล้านราย ขณะที่ประชากรโลกเพิ่มเป็น 7,000 ล้านคน
ดร.ไมค์ ชอร์ท อดีตประธานสถาบันวิศวกรรมและเทคโนโลยี และรองประธานบริษัทเทเลโฟนิกา ยุโรป เปิดเผยว่า กว่า 40 ปีที่ผ่านมา โทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนจากเครื่องมือของกลุ่มนักธุรกิจไปยังผู้คนทั่วไปผ่านวัฒนธรรมการบริโภคและอนเตอร์เน็ตที่เชื่อมทุกอย่างเข้าหากันและในอนาคตจะยังคงมีการอุปกรณ์ใหม่ๆต่อไปไม่มีวันหยุด อุปกรณ์หลายประเภทจะสามารถใช้สวมใส่ได้ อาทิ แว่นตา ที่เราสามารถใช้ดวงตาในการควบคุมทุกอย่างได้ หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือที่สวมใส่ได้ เช่นเดียวกับนาฬิกา
นายคูเปอร์ ปัจจุบันอายุ 85 ปี เป็นเจ้าของสมยานาม “บิดาแห่งโทรศัพท์มือถือ” เขานำเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าจดสิทธิบัตรเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1973 โดยได้รับหมายเลขสิทธิบัตร “US Patent 3,906,166”
ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1973 หรือ 37 ปีก่อน เขาเป็นวิศวกรอยู่ที่บริษัทโมโตโรล่า และห้องแล็บของเขาก็สร้างนวัตกรรมให้กับมวลมนุษยชาติ นั่นคือ การเปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้เป็นรายแรกของโลก เพราะในใจของเขารู้ดีว่าคนเราต้องการการสื่อสาร และการสื่อสารไม่เคยหยุดอยู่กับที ฉะนั้นคนไปที่ไหน ก็ต้องสื่อสารได้ตลอด และการสื่อสารนั้นยังต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย
เขาเคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เขาคิดว่าราคาในเบื้้องต้นของโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์รุ่นแรกในปี 1983 มีราคาสูงถึง 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ)ซึ่งค่อนข้างสูง จะเป็นปัจจัยไม่ให้โทรศัพท์ได้รับความนิยมแพร่หลาย และเคยคิดว่ามันน่าจะมีขนาดเล็กลงกว่านั้นได้ หรือแขวนไว้กับหูได้ และกระทั่งฝังลงไปในผิวหนังมนุษย์ได้
ไอเดียในการสร้างโทรศัพท์มือถือของคูเปอร์เกิดขึ้นในช่วงยุค1960เมื่อบริษัทเอทีแอนด์ที ได้ผลิต “โทรศัพท์ติดรถยนต์” (Carphone) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายเมื่อสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเครื่องโทรศัพท์ได้ถูกพัฒนาให้ไปติดที่รถ ใช้กับแพทย์ หรือ บริการส่งสินค้าตามบ้าน
เขาจึงพยายามคิดค้นอุปกรณ์ที่สามารถนำติดตัวไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องตั้งประจำสถานที่ต่างๆเช่นที่เคยเป็นมา เขารู้สึกที่ใจที่การคิดค้นของเขาได้ช่วยเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบันได้ ไม่ว่าจะเพื่อการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
ที่มา – matichon