ท้าทายแค่ไหน ก็เอาอยู่ด้วยสมาร์ตโฟน vivo Y39 5G ที่มีแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุใหญ่ถึง 6500mAh เอาอยู่ทั้งวัน พร้อมลุยทุกความท้าทาย มั่นใจได้กับโครงสร้างป้องกันการกระแทกรอบด้าน ตอบสนองความบันเทิงด้วยลำโพงคู่ พลังเสียง 400% เสียงชัดเต็มพลัง อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลระดับ 4nm ของ Qualcomm พร้อมจอแสดงผล 120Hz ช่วยให้เล่นเกมโปรดได้อย่างราบรื่น
สเปก vivo Y39 5G
- จอแสดงผล 6.68 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2
- ความจำ RAM 8GB (LPDDR4X) + ROM 256GB (UFS 3.1)
- ขยาย RAM ได้สูงสุด 8GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi (2.4/5GHz), Bluetooth 5.1, OTG, USB Type-C (USB 2.0)
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, E-compass, Gyroscope
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง (Side-mounted Fingerprint Sensor)
- ระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 บนพื้นฐาน Android 15
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64
- แบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 44W FlashCharge
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ocean Blue และ Galaxy Purple
แกะกล่อง vivo Y39 5G
vivo Y39 5G ถูกเก็บไว้ในกล่องสีขาว ที่หน้ากล่องมีรูปภาพสมาร์ตโฟน ซึ่งเผยให้เห็นดีไซน์ด้านหลังและครึ่งหนึ่งของด้านหน้า เหนือรูปภาพระบุชื่อรุ่น vivo Y39 5G อย่างเด่นชัด
ข้างกล่องบอกจุดเด่นไว้ 3 อย่าง ได้แก่ แบตเตอรี่ BlueVolt 6500mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W, ใช้ชิป 5G ของ Snapdragon ระดับ 4nm, ดีไซน์ทนทาน ป้องกันการตกหล่น และ มาพร้อมฟีเจอร์ AI Erase นอกจากนี้ ยังระบุว่าข้อความต่างๆ บนตัวกล่อง ถูกพิมพ์ด้วยหมึกน้ำมันถั่วเหลือง แสดงถึงความใส่ใจสิ่งแวดล้อม อีกข้างของกล่องมีวงกลม 2 วง ประกอบด้วยสีฟ้า และ สีม่วง ซึ่งเป็นสีสันของ vivo Y39 5G ที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ocean Blue และ Galaxy Purple
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับสมาร์ตโฟนเป็นอย่างแรก โดยมีแผ่นพลาสติกพันไว้ เพื่อป้องกันริ้วรอยระหว่างขนส่ง เมื่อแกะซองออกไป จะเห็นว่า vivo Y39 5G ได้รับการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
นอกจากฟิล์มกันรอย ภายในกล่อง vivo Y39 5G ยังแถมเคสใสมาให้ 1 อัน, คู่มือ, ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน, สายชาร์จ, หัวชาร์จแบตเตอรี่สูงสุด 44W และ เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด
ดีไซน์ทันสมัย สวยงามระดับพรีเมียม
vivo Y39 5G ผลิตออกมาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีฟ้า Ocean Blue และ สีม่วง Galaxy Purple แต่ละสีมีเทคนิคการสร้างพื้นผิวฝาหลังที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง สีม่วง Galaxy Purple ใช้โทนสีม่วงเข้ม พร้อมพื้นผิวที่เปล่งประกายละมุนตา ให้ความรู้สึกหรูหราและมีเสน่ห์ ขณะที่สีฟ้า Ocean Blue ใช้เทคนิคไล่ระดับสีบนพื้นผิวจากโทนสีอ่อนไปถึงเข้ม และยังมีความเปล่งประกายระยิบระยับ ราวกับแสงแดดที่ตกสะท้อนบนคลื่นน้ำ
ไม่ว่าจะเลือกสีไหนก็ให้ความโดดเด่นไม่ต่างกัน ด้วยดีไซน์กล้องหลังที่เป็นกรอบวงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นดีไซน์ที่พบได้บ่อยในสมาร์ตโฟนระดับเรือธง เสริมความหรูหราให้กับกรอบวงกลมด้วยลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขอบหน้าปัดนาฬิการะดับพรีเมียม
มุมมองด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล HD+ ขนาด 6.68 นิ้วรีเฟรช 120Hz พร้อมติดตั้งกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ไว้ตรงกึ่งกลางหน้าจอด้านบน
ขอบด้านข้างรัดด้วยกรอบสไตล์โลหะขัดเงา (วัสดุจริงเป็นพลาสติก) และทำขอบมุมโค้งมนเล็กน้อย เพื่อให้จับถือได้อย่างสบายมือ vivo Y39 5G มีความบางเพียง 8.09 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางมาก เมื่อเทียบกับขนาดแบตเตอรี่ที่มีความจุถึง 6500mAh
ปุ่มด้านข้าง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์ พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้กับปุ่มเพาเวอร์ด้วย
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิม (Dual Nano-SIM) สนับสนุนเทคโนโลยีการสื่อสารมาตรฐาน 5G (ไม่มีช่องใส่การ์ด microSD)
ด้านบนพบไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนระหว่างการโทรหรือบันทึกเสียง
ด้านล่างมีไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C (USB 2.0) และ ลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน)
แข็งแกร่งตั้งแต่ภายใน
นอกจากดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม vivo Y39 5G ยังได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP64 ซึ่งเพียงพอสำหรับการป้องกันน้ำหกใส่ รวมถึงละอองฝน
vivo Y39 5G ยังทนทานต่อแรงกระแทกได้อย่างดี ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมภายในตัวเครื่อง เพื่อซัพพอร์ตแรงกระแทก ช่วยป้องกันความเสียหายของฮาร์ดแวร์ที่สำคัญ ตั้งแต่มุมของหน้าจอ ช่องวางเมนบอร์ด ไปจนถึงแบตเตอรี่ ส่งผลให้ vivo Y39 5G ผ่านการรับรองมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H รวมถึงได้รับการรับรองจาก SGS ระดับ 5 ดาว ที่เน้น Drop Test เป็นหลัก
ขณะที่จอแสดงผล ก็ได้รับการป้องกันด้วยกระจกคุณภาพสูงจาก SCHOTT Xensation α (กระจกหน้าจอสัญชาติเยอรมนี) ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการตกกระแทกได้ดีขึ้น 64% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จึงวางใจได้ในเรื่องคุณภาพการผลิต และมั่นใจได้ว่า vivo Y39 5G ให้ความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน
แบตใหญ่ 6500mAh ใช้เป็น Power Bank ได้
อายุการใช้งานแบตเตอรี่ถือเป็นอีกจุดเด่นของ vivo Y39 5G เพราะมาพร้อมแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุสูงถึง 6500mAh โดยที่ยังคงรักษาความเครื่องให้มีความบางเพียง 8.09 มิลลิเมตร ทำให้ vivo Y39 5G มีอายุการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ รองรับการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ สามารถใช้เปิดดูแผนที่นำทางได้นานต่อเนื่องถึง 13 ชั่วโมง หรือ สนุกกับการเล่นเกมได้นานมากกว่า 10 ชั่วโมง จากการทดสอบกับเกม PUBG และถ้าใช้ดูวิดีโอ ก็สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 40 ชั่วโมง ดังนั้น การใช้งานทั่วไปอยู่ได้นานข้ามวันอย่างแน่นอน และยังสามารถใช้เป็น Power Bank จ่ายพลังงานให้อุปกรณ์เครื่องอื่นได้อีกด้วย ผ่านสาย USB-C ที่รองรับ OTG
แบตเตอรี่ BlueVolt ของ vivo Y39 5G ยังมาพร้อมระบบ Smart Charging อัลกอริทึมช่วยถนอมการชาร์จอัจฉริยะจาก vivo ทำให้มีสุขภาพแบตเตอรี่ที่ดีกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป จนสามารถรักษาความจุในระดับ 80% หลังจากผ่านการชาร์จไปแล้ว 1,500 รอบ หรือ เทียบได้กับการใช้งานนาน 5 ปี ขณะเดียวกัน Smart Charging ยังช่วยปรับแรงดันไฟตามความเหมาะสม และควบคุมความร้อน ไปจนถึงการหยุดชาร์จเมื่ออุณหภูมิสูงเกินไป เพื่อความปลอดภัยระหว่างการชาร์จข้ามคืน
นอกจากนี้ vivo Y39 5G ยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 44W FlashCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึงระดับ 74% ในเวลาเพียง 60 นาที หรือ ชาร์จตั้งแต่ 1% ถึง 100% ภายในเวลา 83 นาที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างชาร์จ เพราะมี Smart Charging ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งภายในตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 30,000 ตารางมิลลิเมตร
ประสิทธิภาพชิป Snapdragon 4 Gen 2
vivo Y39 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 ของ Qualcomm ที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร ใช้สถาปัตยกรรม 64-bit Octa Core ประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.2GHz และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 1.95GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno ที่สนับสนุน API อย่าง OpenGL ES 3.2, OpenCL 2.0 และ Vulkan 1.1
ด้านความจำได้รับ RAM 8GB (LPDDR4X) จับคู่กับ 256GB (UFS 3.1) และรองรับฟีเจอร์ Extended RAM จึงสามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 8GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงถึง 16GB รองรับการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างลื่นไหล
จากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu พบว่า vivo Y39 5G ทำได้ 457925 คะแนน โดยจำแนกเป็นคะแนนด้าน CPU ทำได้ 154243 คะแนน, GPU ได้รับ 49878 คะแนน, Memory ทำได้ 143551 คะแนน และด้าน User Experience มี 110253 คะแนน
ภาพและเสียง
vivo Y39 5G มาพร้อมจอแสดงผล LCD ความละเอียด 1608 x 720 พิกเซล ขนาด 6.68 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 264 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ความอิ่มตัวสี NTSC 83% ความสว่างหน้าจอ 1000nits (โหมดความสว่างสูง) ให้อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงสุด 120Hz และครอบทับด้วยกระจก SCHOTT Xensation α ที่มีความแข็งแรงสูง ต้านทานรอยขีดข่วนได้อย่างดี
จอแสดงผลของ vivo Y39 5G ยังเป็นหน้าจอที่ปกป้องดวงตา ผ่านการรับรองมาตรฐานแสงสีฟ้าต่ำของ TÜV Rheinland ด้วยเทคโนโลยีช่วยหรี่แสงจออัตโนมัติ ลดอาการล้าของดวงตา, ปรับแสงแบบ Global DC ลดการกระพริบของหน้าจอ และมี Dark Mode ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในที่แสงน้อย
ด้านเสียง vivo Y39 5G ได้รับการติดตั้งลำโพงคู่ (ด้านบนและด้านล่าง) สนับสนุนเสียงคุณภาพสูงระดับ Hi-Res Audio และสามารถเพิ่มพลังเสียงให้ดังสะใจได้ถึง 400% จึงให้เสียงดังชัดเจนเมื่อใช้งานกลางแจ้ง ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบสนองความบันเทิงทั้งภาพและเสียงได้อย่างเต็มอิ่ม
กล้องหลัง 50MP Ultra HD Camera
นอกเหนือจากประสิทธิภาพที่คุ้มค่า vivo Y39 5G ยังเอาใจคนรักการถ่ายภาพด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล โดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพจาก Sony วางคู่กับกล้อง Bokeh และแฟลช LED แบบวงหวน ทั้งหมดถูกวางอยู่ในกรอบวงแหวนอย่างสมดุล ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Bokeh 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
กล้องหลังของ vivo Y39 5G รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, Portrait, Photo, Video, 50 MP, Panorama, Documents, Slo-mo, Time-lapse, Pro, Dual View และ Live Photo
โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 1x 2x จนสูงสุด 10x มีฟีเจอร์ Filters ช่วยเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย
โหมด Portrait มีฟีเจอร์ Styles ให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบจะทำงานร่วมกับแฟลช LED ด้านหลัง เพื่อให้แสงสว่างที่แตกต่างกันตาม Styles ที่เลือก ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเรียบเนียนของผิวหน้า โทนสี ความขาวกระจ่างใส และไอคอนล่างสุดสำหรับปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง พร้อมเอฟเฟกต์ Bokeh ละลายฉากหลัง มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Natural, Rotary focus และ Bubbles
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 1x จนสูงสุด 10x สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว EIS (Electronic Image Stabilization)มีฟีเจอร์ Filter ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยปรับแต่งโทนภาพของวิดีโอในแบบที่ผู้ใช้งานต้องการ และฟีเจอร์ Beauty ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้ดูดีขึ้น
vivo Y39 5G ยังมีโหมด Dual View สำหรับการถ่ายวิดีโอโดยเปิดใช้งานทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าพร้อมกัน เหมาะสำหรับการถ่าย Vlog เพื่อรีวิวสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ขณะเดียวกันก็ยังสามารถแทรกภาพใบหน้าของผู้ใช้งานเข้าไปในวิดีโอได้อีกด้วย
โหมด Night รองรับการซูมได้ในช่วง 1x ถึง 10x พร้อมด้วยฟีเจอร์ Style ซึ่งเป็น Filter สำหรับเปลี่ยนอารมณ์หรือโทนสีให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อาทิ Black & Gold, Cyberpunk, Textured Black & White, Blue Ice, Green orange, Dark red, Blue orange เป็นต้น
โหมด Live Photo ช่วยเปลี่ยนภาพนิ่งให้เป็นความทรงจำที่มีชีวิตชีวา ด้วยวิดีโอไดนามิกสั้นๆ รวมถึงเสียงขณะบันทึก ทั้งก่อนและหลังการกดชัตเตอร์ เพื่อเก็บทุกความทรงจำให้มีชีวิตชีวา
ฟีเจอร์ AI
นอกเหนือจากการถ่ายภาพและวิดีโอ vivo Y39 5G ยังนำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้การปรับแต่งภาพเป็นเรื่องง่าย อย่างเช่นฟีเจอร์ AI Erase และ AI Photo Enhance
AI Erase ช่วยลบสิ่งรบกวนบนภาพถ่ายออกไป พร้อมเติมพื้นหลังอัตโนมัติ เหมือนไม่เคยมีสิ่งนั้นอยู่บนภาพถ่ายมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุ หรือ คนที่เดินผ่านกล้อง
AI Photo Enhance ช่วยปรับปรุงและเพิ่มความคมชัดของภาพถ่าย พร้อมฟื้นฟูรายละเอียดที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นดวงตา ปาก และ สีสัน เพื่อทำให้ภาพถ่ายมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
กล้องหน้า 8MP HD Portrait Camera
กล้องหน้าของ vivo Y39 5G ถูกซ่อนไว้ในหลุมบนจอแสดงผล โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 รองรับโหมดถ่ายภาพ Photo, Night, Portrait, Live Photo, Video และ Dual View
โหมด Portraitของกล้องหน้ามี Styles ให้เลือกหลายแบบ ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Beauty รวมถึง Makeup สำหรับปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น และไอคอนล่างสุดสำหรับปรับเอฟเฟกต์ Bokeh ละลายฉากหลัง
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีฟีเจอร์ Filters และ Beauty ที่สามารถปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด และรองรับโหมด Dual View เช่นเดียวกัน
สรุปราคาและการจำหน่าย
vivo Y39 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่โดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ ที่ให้สัมผัสระดับพรีเมียม และยังมีความทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างภายในที่รองรับแรงกระแทกจากการตก ด้านหน้าใช้กระจกคุณภาพสูงจาก SCHOTT อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่เพียงพอต่อการเล่นเกม และให้อายุการใช้งานยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6500mAh ชาร์จไว 44W พร้อมกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลจาก Sony ทำให้ vivo Y39 5G สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนราคาจับต้องได้ และตอบสนองการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
vivo Y39 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อม “เอาอยู่ทุกความท้าทาย” ไปกับผู้ใช้งานชาวไทยที่หน้าร้าน vivo Brand Shop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 7,999 บาท สำหรับความจุ 8GB + 256GB
#vivoY395G #เอาอยู่ทุกความท้าทาย