realme 14 Series 5G ได้รับการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ครั้งแรกของโลกที่งาน Mobile World Congress (MWC) 2025 ในฐานะ “สมาร์ตโฟนระดับกลางโดดเด่นด้วยคุณภาพระดับเรือธง” และใช้เวลาเดินทางไม่นานก็พร้อมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแล้ว โดยมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ realme 14 5G สมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Snapdragon 6 Gen 4 ขึ้นแท่น Performance Dominator แห่งปีและ realme 14 Pro 5G แบตเตอรี่ ขนาด 6000mAh และชาร์จเร็ว 45W พร้อมด้วย realme 14 Pro 5G สมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนสีตามอุณหภูมิรุ่นแรกของโลก ซึ่งทีมงาน @flashfly ได้รับมารีวิวเรียบร้อยแล้ว
แกะกล่อง realme 14 Series 5G
realme 14 5G และ realme 14 Pro 5G จัดส่งมาในกล่องสีเหลืองตามสไตล์ของ realme หน้ากล่องพิมพ์ตัวเลข 14 ขนาดใหญ่ สำหรับ realme 14 5G โดยมีสัญลักษณ์ 5G กำกับไว้ที่มุมบน ขณะที่หน้ากล่องของ realme 14 Pro 5G จะพิมพ์ 14 มีคำว่า Pro อยู่ข้างล่าง และวางสัญลักษณ์ AI ไว้ที่มุมบน บ่งบอกว่า realme 14 Pro 5G เน้นความสามารถด้าน AI เป็นพิเศษ
พลิกมาดูหลังกล่อง realme 14 5G จะเห็นว่ามีการระบุจุดเด่นไว้ 4 อย่าง ได้แก่ ชิปประมวลผล Snapdragon 6 Gen 4 ชิป 5G ของ Qualcomm, กล้อง 50MP AI Camera มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh ชาร์จไว 45W และ จอแสดงผล AMOLED ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz สำหรับการเล่นเกมระดับ Esports
หลังกล่องของ realme 14 Pro 5G บอกจุดเด่นไว้ 4 อย่าง ได้แก่ กล้อง 50MP ใช้เซ็นเซอร์จาก Sony มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh ชาร์จไว 45W, ชิปประมวลผล Dimensity 7300 Energy ชิป 5G ของ MediaTek และ ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับ IP69
เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา จะพบกับกล่องเอกสารสีเหลืองแบนๆ วางอยู่บนสุด มีข้อความ Make it real สโลแกนใหม่ของ realme เมื่อแกะซองออกจะพบเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด, คู่มือ, ข้อมูลสำคัญ และ แถมเคสมาให้ด้วย (realme 14 5G ได้เคสใส ส่วน realme 14 Pro 5G ได้เคสสีดำ
ถัดลงมาพบสมาร์ตโฟน realme 14 Series 5G ถูกเก็บไว้ในซองและวางอยู่บนถาดรอง เมื่อหยิบสมาร์ตโฟนออกมาจากซอง จะพบว่า realme 14 5G และ realme 14 Pro 5G ได้รับการติดฟิล์มป้องกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
ชั้นล่างสุดของกล่องเป็นช่องเก็บสายชาร์จ USB Type-C และ หัวชาร์จแบตเตอรี่ Power Adapter ซึ่งทั้งคู่ได้รับหัวชาร์จ 45W เหมือนกัน
realme 14 5G
realme 14 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยขุมพลัง Snapdragon 6 Gen 4 ของ Qualcomm พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Bionic Cooling ให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh รองรับการใช้งานได้ยาวนาน และยังมีดีไซน์โฉบเฉี่ยบ ถูกใจเหล่าเกมเมอร์ โดยเฉพาะสี Mecha Silver ขณะที่คนรักการถ่ายภาพจะได้รับกล้อง AI Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) และยังมีโหมดสำหรับถ่ายภาพใต้น้ำ
สเปก realme 14 5G
- จอแสดงผล FHD+, AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัก 50MP AI Camera + OIS
- กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
- ลำโพงคู่สเตอริโอ
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 6 Gen 4
- ความจำ RAM 12GB + ROM 256GB
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 14GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- การเชื่อมต่อ 5G, Dual SIM, WI-Fi 6, Bluetooth, USB-C
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 (บนพื้นฐาน Android 15)
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP69
- แบตเตอรี่ 6000mAh
- ชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Mecha Silver, Storm Titanium และ Warrior Pink
Mecha Design สวยล้ำสุดปัง
realme 14 5G ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ Mecha Silver, สีเทา Storm Titanium และ Warrior Pink โดยทีมงาน @flashfly ได้รับสี Mecha Silver มารีวิว ซึ่งเป็นโทนสีเงินที่ดูทันสมัย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหุ่นยนต์ในตำนานของนิยายแนววิทยาศาสตร์ ผสานศิลปะแห่งจักรกลและประสิทธิภาพอันทรงพลังเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
สีเงิน Mecha Silver ของ realme 14 5G มีไฮไลท์ที่ฝาหลัง ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีลิโธกราฟีนาโนขั้นสูง (Advanced Nano-lithography Technology) เพื่อจำลองพื้นผิว และเส้นสายที่ซับซ้อนของเกราะหุ่นยนต์ได้อย่างแม่นยำและสวยงาม เสริมความโดดเด่นด้วยสีส้ม Blazing Orange ที่เจิดจ้า ชวนให้นึกถึงแกนพลังงานอันทรงประสิทธิภาพ และความห้าวหาญที่ยากจะหาคู่แข่ง
ดีไซน์ของ realme 14 5G ยังมีความโดดเด่นที่ Victory Halo ดวงไฟแบบไดนามิกเรืองแสงสีขาวและเต้นเป็นจังหวะ สามารถปรับแต่งเอฟเฟกต์ไฟได้ตามต้องการ ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้เต็มอิ่มทุกอารมณ์ ผู้ใช้งานสามารถเลือกโหมด Flash ให้ไฟกระพริบวิบวับอย่างเร้าใจ หรือ เอฟเฟกต์ Breath เสมือนจังหวะการหายใจอันนุ่มนวล เพื่อสร้างประสบการณ์แสงไฟที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ดีไซน์ขอบหน้าจอบางเฉียบ ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูง 92.65% และติดตั้งกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล ไว้บนหน้าจอ
ขอบด้านข้างดีไซน์แบนราบ วางปุ่มปรับระดับเสียง ไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์ที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยสีส้ม ตัดกับสีเงินของตัวเครื่อง
ด้านบนมีช่องลำโพงตัวที่ 2 ช่วยให้เสียงในระบบสเตอริโอ และรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด, รูไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และลำโพงตัวหลัก ให้เสียงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านบน)
นอกจากจะมีดีไซน์โฉบเฉี่ยวถูกใจเกมเมอร์ realme 14 5G ยังมีความทนทานสูง สามารถป้องกันน้ำในระดับ IP66, IP68 และ IP69 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุด ต้านทานน้ำที่ความลึกสูงสุด 2.5 เมตร นาน 30 นาที ป้องกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ และยังสามารถป้องกันน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80 องศาเซลเซียส หมดกังวลจากเรื่องไม่คาดฝันที่เกิดจากน้ำ ไม่ว่าจะฝนตก น้ำหกใส่ หรือ เผลอทำหล่นลงในสระว่ายน้ำ
Pulse Light
ไฟวงแหวน Victory Halo ที่กล้องหลัง สามารถกำหนดค่าการกะพริบได้ที่ฟีเจอร์ Pulse Light (ในแอป Settings) โดยสามารถตั้งค่าให้เปิดหรือปิดไฟ Victory Halo (สามารถปิดการใช้งานเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้) หรือ ให้เปิดตามช่วงเวลาที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการกะพริบเมื่อมีสายเรียกเข้า ได้รับการแจ้งเตือน และ ขณะฟังเพลง
ชิป Snapdragon 6 Gen 4 ระบบระบายความร้อน Bionic Cooling
realme 14 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 6 Gen 4 ซึ่งเป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งที่พบในสมาร์ตโฟนระดับกลาง ถูกสร้างด้วยกระบวนการผลิตขั้นสูง 4 นาโนเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน จะพบว่า CPU ของ Snapdragon 6 Gen 4 มีประสิทธิภาพดีขึ้น 15% และสามารถทำคะแนนจากแอปพลิเคชัน AnTuTu ทะลุ 760,000 คะแนน
ไม่เพียงแต่มีชิปประมวลผลที่ทรงพลังกว่าคู่แข่ง realme 14 5G ยังมีระบบระบายความร้อน VC ขนาดใหญ่ที่สุดกลุ่ม และใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Bionic ที่ล้ำสมัย ทำให้การเล่นเกมราบรื่น เพราะสามารถลดอุณหภูมิได้ดีกว่า อย่างเช่นเกม Call of Duty Mobile มอบอัตราเฟรมเฉลี่ย 60 เฟรมต่อวินาที ขณะที่ตัวเครื่องวัดอุณหภูมิได้ 37.2 องศาเซลเซียส (อุณหภูมิห้อง 25 องศาเซลเซียส) แต่สมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น มีความร้อนสูงกว่า เมื่อเล่นเกมด้วยอัตราเฟรมเดียวกัน
ด้านความจำ realme 14 5G มาพร้อม RAM 12GB จับคู่กับ ROM 256GB และรองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 14GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 26GB สามารถเปิดแอปพลิเคชันทิ้งไว้ได้หลายแอป เพื่อสลับการใช้งานแต่ละแอปได้อย่างลื่นไหล
GT Boost ประสบการณ์การเล่นเกมระดับเรือธง
realme นำประสบการณ์การเล่นเกมระดับเรือธง มาสู่ realme 14 5G ด้วยโหมด GT Boost ช่วยรีดประสิทธิภาพสมาร์ตโฟนให้ถึงขีดสุด ให้อัตราการรีเฟรชสูง และตอบสนองการสัมผัสได้ทันใจ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งความเร็วของ CPU และ GPU ได้ตามต้องการ
AI Motion Control อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ realme 14 5G ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ซึ่งอาศัยเซ็นเซอร์ Gyroscope คอยรองรับท่าทางการเคลื่อนไหวต่างๆ ขณะควบคุมเกม และยังมี AI Ultra Touch Control อัลกอริทึมการสัมผัส ช่วยเพิ่มความไวในการควบคุมเกมพร้อมลดความหน่วง
ด้วยชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูง ระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ และ ซอฟต์แวร์ที่ปรับแต่งมาเพื่อการเล่นเกม ทำให้ realme 14 5G เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นแรก ที่สามารถเล่นเกม Free Fire, Honor of Kings และ Mobile Legends Bang Bang ด้วยอัตราเฟรมสูงถึง 120 เฟรมต่อวินาที
สำหรับการเล่นเกมออนไลน์ realme 14 5G ก็ได้รับการอัปเกรดระบบเชื่อมต่อของเครือข่ายมือถือให้รวดเร็วและเสถียรขึ้น ผ่านการออกแบบเสาอากาศ Antenna Array Matrix 2.0 ที่มีการจัดวางตำแหน่งใหม่ เพื่อให้ realme 14 5G รับสัญญาณไร้สายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยเพิ่มความราบรื่นของเครือข่ายเกม 30% พร้อมลดความหน่วงของเครือข่ายเกมต่ำกว่าคู่แข่งถึง 18 มิลลิวินาที
แบตเตอรี่ Titan ขนาดใหญ่ 6000mAh
อีกจุดเด่นของ realme 14 5G คือ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน เนื่องจากมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 6000mAh โดยใช้แบตเตอรี่กราไฟต์ที่มีความหนาของพลังงานแน่นสูงที่สุดในอุตสาหกรรม ส่งผลให้มีความจุแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยยังคงรักษาความบางของตัวเครื่องไม่ให้หนาขึ้น
ด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh ทำให้ realme 14 5G สามารถเล่นเกม Mobile Legends Bang Bang หรือ ROV ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง และให้พลังงานเพียงพอครึ่งวัน แม้ระดับแบตเตอรี่เหลือเพียง 15%
แบตเตอรี่ของ realme 14 5G ยังสามารถรักษาความจุแบตเตอรี่ในระดับ 80% แม้ผ่านการชาร์จไปแล้ว 1400 รอบ เทียบได้กับการใช้งานนาน 4 ปี นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W แถมหัวชาร์จ 45W Power Adapter มาให้แล้วในกล่อง ไม่ต้องหาซื้อแยกต่างหาก
กล้องหลัง 50MP + OIS
realme 14 5G เอาใจคนรักการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัง 50 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดรูรับแสง f/1.8 มาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) แบบ 2 แกน แอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี AI ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่าย รวมถึงช่วยให้การปรับแต่งภาพหลังถ่ายเป็นเรื่องง่าย และด้วยความสามารถในการป้องกันน้ำในระดับ IP69 จึงทำให้ realme 14 5G รองรับโหมดถ่ายภาพใต้น้ำอีกด้วย
กล้องหลังของ realme 14 5G รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, Pro, Panorama, Hi-Res, Movie, Slow-motion, Time-lapse, Long Exposure, Dual-view Video, Underwater, Doc Scanner และ Tilt-shift
โหมด Photo สามารถซูมได้ในช่วง 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 10x มี Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีภาพถ่าย เช่น Fresh, Emerald, Clear, Vivid ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Retouch (ไอคอนใบหน้า) ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Photo มีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสง -2 ถึง +2 ถัดมาเป็นฟีเจอร์ถ่ายภาพ Livephoto และที่น่าสนใจคือไอคอนรูปคนวิ่ง เป็นฟีเจอร์ AI Snap Mode
AI Snap Mode ถูกออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่เร็ว เช่น คนกำลังวิ่ง หรือ เล่นกีฬาต่างๆ ไม่ว่าจะปั่นจักรยาน เตะฟุตบอล เล่น สเก็ตบอร์ด
โหมด Portrait เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล สามารถปรับระยะชัดลึกได้ตั้งแต่ F1.4 ถึง F16 มาพร้อมฟีเจอร์ Soft light ช่วยทำให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยมีเอฟเฟกต์ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาเป็นไอคอน Filters และเครื่องมือ Retouch เหมือนโหมด Photo
โหมด Street ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพแนวสตรีทอย่างมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ด้วยระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัสได้ตั้งแต่ 27, 54 จนสูงสุด 135 มม. พร้อมด้วย Filters ที่ออกแบบมาสำหรับโหมด Street โดยเฉพาะ เช่น Tone of Light, Street, B&W Plus, 90s Pop, Crisp, Cinematic, Green Field และ Sunny Beach โดยแถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ Auto Zoom เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุเพื่อช่วยครอบตัดโดยอัตโนมัติ เพียงแค่แตะบุคคลหรือวัตถุที่ต้องการเน้นในภาพถ่าย
โหมด Video ซูมได้ตั้งแต่ระยะ 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 10x รองรับการถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที หรือ Full HD 1080P ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที สามารถปรับค่า F เพื่อละลายพื้นหลังได้เหมือนโหมด Portrait มี Filters และเครื่องมือ Retouch ให้ใช้งานเช่นกัน
แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Video มีฟีเจอร์ Ultra Steady (ไอคอนรูปกล้อง) ซึ่งเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหว ช่วยทำให้วิดีโอราบรื่นนุ่มนวลมากขึ้น โดยใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS แบบ 2 แกน แต่จะบันทึกวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที เมื่อเปิดใช้งาน Ultra Steady
โหมด Night สามารถซูมได้ในช่วง 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 10x และมี Filters ที่ช่วยทำให้ภาพถ่ายยามค่ำคืนมีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น Gloden, Warm & Cool, Pink & Teal และ Night City
โหมด Underwater ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพใต้น้ำได้ เนื่องจาก realme 14 5G ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับสูงสุด IP68 + IP69 สามารถทนอยู่ในน้ำที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร นานสูงสุด 30 นาที
เมื่ออยู่ในงานโหมด Underwater ผู้ใช้งานสามารถควบคุมกล้องด้วยปุ่มกดด้านข้าง เช่น กดปุ่มเพิ่มระดับเสียงเพื่อถ่ายรูป, กดปุ่มลดเสียงเพื่อบันทึกวิดีโอ และ กดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปิดหน้าจอ หรือกดค้างไว้เพื่อออกจากโหมด Underwater พร้อมไล่น้ำออกจากตัวเครื่องอย่างรวดเร็ว
กล้องหน้า 16MP
realme 14 5G ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ EIS (Electronic Image Stabilization)
โหมด Photo ของกล้องหน้ามี Filters แบบเดียวกับกล้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์ Fresh, Emerald, Clear, Tone of Light, Vivid ถัดลงมาเป็นฟีเจอร์ Retouch (ไอคอนใบหน้า) ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลัง เลือกปรับได้หลายส่วน เช่น ผิว, แก้ม, ขนาดศีรษะ และ ขนาดดวงตา นอกจากนี้ ยังมีโหมด Livephoto แบบกล้องหลัง (เปิดใช้งานได้ที่แถบเครื่องมือด้านบน)
โหมด Portrait ของกล้องหน้ามีฟีเจอร์ปรับระยะชัดลึกเหมือนกล้องหลัง รวมถึงฟีเจอร์ Soft light ที่มีเอฟเฟกต์ให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาเป็นไอคอน Filters แบบกล้องหลัง ส่วนฟีเจอร์ Retouch สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดเหมือนโหมด Photo ของกล้องหน้า
โหมด Video ของกล้องหน้า รองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Steady (เปิดใช้งานจากแถบเครื่องมือด้านบน) สามารถปรับระยะชัดลึกได้เช่นกัน รวมถึงฟีเจอร์ Filters และ Retouch ก็มีมาให้ใช้งานด้วย โหมด Night ของกล้องหน้า ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยสว่างขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ Retouch ที่สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดแบบเดียวกับโหมด Photo ของกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่าย
AI Camera
ระบบกล้องของ realme 14 5G มาพร้อม Light Fusion อัลกอริทึม AI ของ realme ที่เกิดจากการเรียนรู้เทคนิคของแสงและเงาจากช่างภาพระดับมืออาชีพ มาช่วยในการประมวลผลข้อมูลภาพดิบโดยตรงในโดเมน RAW เพื่อปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายโดยไม่สูญเสียรายละเอียด โดยเฉพาะภาพถ่ายในเวลากลางคืน
realme 14 5G ยังมีเครื่องมือ AI ที่ช่วยให้การตกแต่งแก้ไขภาพถ่ายเป็นเรื่องง่าย โดยไม่ต้องเสียเวลาถ่ายโอนภาพถ่ายไปแก้ไขในคอมพิวเตอร์ อย่างฟีเจอร์ AI Eraser ที่ออกแบบมาสำหรับลบวัตถุหรือบุคคลออกจากภาพถ่าย พร้อมเติมพื้นหลังที่ถูกลบออกไปได้อย่างแนบเนียน เหมือนไม่เคยผ่านการแก้ไขมาก่อน
หากภาพถ่ายพอร์ตเทรตออกมาเบลอ ผู้ใช้งาน realme 14 5G สามารถใช้ฟีเจอร์ AI Clear Face ปรับภาพให้คมชัดขึ้นได้ง่ายๆ โดยอาศัยการประมวลผลของ AI สามารถเพิ่มความคมชัดของภาพใบหน้าที่ดูพร่าเลือน ช่วยเพิ่มคุณภาพของรูปภาพ และฟื้นคืนรายละเอียดต่างๆ ของภาพถ่ายให้กลับมาสดใสมีชีวิตชีวา
ฟีเจอร์ AI สุดล้ำ
นอกจากรวมเทคโนโลยี AI มาไว้ในกล้อง realme 14 5G ยังนำเครื่องมือ AI ที่มีประโยชน์รอบด้าน มาช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานเป็นเรื่องง่ายขึ้น ซึ่งเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ปีที่แล้ว และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เทคโนโลยี AI ของ realme ก็มีความก้าวหน้ามากขึ้นตามไปด้วย อย่างเช่นฟีเจอร์ AI Smart Loop ที่ล่าสุดได้รับการอัปเกรดเป็น AI Smart Loop 2.0
AI Smart Loop สามารถรับรู้ถึงความต้องการของผู้ใช้งานและทำความเข้าใจบริบท ขณะเลื่อนดูเนื้อหาต่างๆ บนหน้าจอ เพื่อคอยแนะนำแอปที่เกี่ยวข้องกับแอปปัจจุบัน หรือ เนื้อหาที่กำลังให้ความสำคัญ เหมือนกับมีผู้ช่วยส่วนตัวที่ชาญฉลาดอยู่เคียงข้างตลอดเวลา
ตัวอย่างเช่น ระหว่างดูรีวิวร้านอาหาร ผู้ใช้งานสามารถแตะที่ชื่อร้านอาหารค้างไว้ จากนั้น AI Smart Loop จะปรากฏขึ้นมา พร้อมแนะนำแอปต่างๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถลากชื่อร้านอาหารไปวางเหนือไอคอนแอป Google Maps เพื่อดูตำแหน่งร้านบนแผนที่ได้ทันที
AI Recording Summary เป็นเครื่องมือ AI อีกโมเดลที่พบได้ในสมาร์ตโฟนเรือธง realme GT 7 Pro และตอนนี้พร้อมให้เจ้าของ realme 14 5G ได้ใช้งานแล้ว โดยเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยสรุปข้อมูลสำคัญต่างๆ จากเสียงที่มีการบันทึกไว้ ไม่ว่าจะเป็นการโทร การประชุม รวมไปถึงการสนทนาแบบเห็นหน้า ไม่ว่าจะเรียนออนไลน์ วิดีโอแชท หรือ ประชุมออนไลน์
Circle to Search เครื่องมือค้นหาข้อมูลที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI และกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ก็มาให้ใช้งานใน realme 14 5G เช่นเดียวกัน ช่วยค้นหาข้อมูลที่สนใจจากเนื้อหาต่างๆ ที่แสดงอยู่บนหน้าจอ เพียงแค่วาดวงกลมล้อมรอบวัตถุนั้นบนจอแสดงผล และฟีเจอร์ใช้ AI แปลภาษาก็ใช้งานภาษาไทยได้เต็มรูปแบบ
จอแสดงผล 120Hz Esports
realme 14 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ให้อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000:1 ความสว่างสูงสุดถึง 2000 นิต รองรับขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 111% และถนอมดวงตาด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่ 480Hz รวมถึงการหรี่แสงแบบ DC Dimming
จอแสดงผลของ realme 14 5G รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหล ควบคุมได้แม่นยำ และยังออกแบบมาเพื่อป้องกันความเมื่อยล้าของดวงตาระหว่างเล่นเกมเป็นเวลานาน อีกทั้งยังติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอไว้ที่ด้านบนและด้านล่าง ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมทั้งภาพและเสียง ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือรับชมภาพยนตร์
realme 14 Pro 5G
realme 14 Pro 5G โดดเด่นในด้านประสิทธิภาพจากชิปประมวลผล Dimensity 7300 Energy ของ MediaTek มีระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 6000 ตารางมิลลิเมตร ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างราบรื่นด้วยโหมด GT Boost ความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษที่ดีไซน์เปลี่ยนสีได้ ป้องกันน้ำในระดับ IP69 และได้รับกล้องหลักคุณภาพสูงจาก Sony พร้อมแฟลช 3 ดวง
สเปก realme 14 Pro 5G
- จอแสดงผล AMOLED (2392 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.77 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัก 50MP (Sony IMX882) + OIS
- กล้องหน้า 16MP Selfie Camera
- ลำโพงคู่สเตอริโอ ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7300 Energy 5G
- ความจำ RAM 12GB + ROM 512GB
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 14GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- การเชื่อมต่อ 5G, Dual Nano SIM, WI-Fi 6, Bluetooth 5.2, 360° NFC, USB-C
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 6.0 (บนพื้นฐาน Android 15)
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP69
- แบตเตอรี่ 6000mAh
- ชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
- ขนาดตัวเครื่อง 162.75 x 74.92 x 7.55 มิลลิเมตร (Pearl White)
- น้ำหนัก 179 กรัม (Pearl White)
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Pearl White และ Suede Grey
ดีไซน์เปลี่ยนสีได้
realme 14 Pro 5G ได้ชื่อว่าเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลก ที่สามารถเปลี่ยนสีสันของตัวเครื่องได้ตามอุณหภูมิความเย็น โดยเฉพาะสี Pearl White ที่ทีมงาน @flashfly ได้รับมารีวิว มีฝาหลังที่สวยงามโดดเด่น ด้วยพื้นผิวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเปลือกหอย ผลงานสร้างสรรค์ระหว่างทีมออกแบบของ realme ร่วมกับ Valeur Designers สตูดิโอออกแบบจากเดนมาร์ก
realme ใช้เทคโนโลยี Thermochromic Fusion ทำให้ฝาหลังของ realme 14 Pro 5G สามารถเปลี่ยนสีได้ เมื่อสัมผัสกับความเย็น 16 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า ฝาหลังจะเปลี่ยนจากสีขาวมุกเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น แมงกะพรุน และเมื่ออุณหภูมิ realme 14 Pro 5G สูงขึ้นอีกครั้ง ฝาหลังก็จะกลับมามีสีขาวตามเดิม
นอกเหนือจากพื้นผิวของฝาหลัง ดีไซน์กล้องหลังก็สะดุดตาไม่แพ้กัน โดยวางกล้องหลังไว้ในกรอบวงแหวนสีทอง และติดตั้งแฟลช 3 ดวง แบบ MagicGlow Triple Flash ซึ่งออกแบบมาเพื่อยกระดับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ เพื่อให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยออกมาคมชัดสวยงาม
ด้านหน้าให้ภาพลักษณ์ที่หรูหราด้วยจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว ที่มีดีไซน์ขอบมุมโค้ง ให้ประสบการณ์การรับชมแบบไร้กรอบ และยังมีขอบหน้าจอที่บางเฉียบจากอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูง 93.7% พร้อมติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล และซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ
ขอบด้านข้างมีความบางเพียง 7.55 มิลลิเมตร เห็นการบรรจบกันระหว่างขอบหน้าจอกับฝาหลังที่มีขอบมุมโค้งมน และวางปุ่มปรับระดับเสียงไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์บนกรอบสีทอง
ด้านบนมีลำโพงสเตอริโอ และพบรูไมโครโฟน 2 ตำแหน่ง
ด้านล่างประกอบด้วยลำโพงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, ไมโครโฟนตัวหลัก และ ถาดใส่ซิมการ์ด
ภายใต้ดีไซน์ที่สวยงามหรูหราระดับเรือธง realme 14 Pro 5G ยังมีความทนทานเป็นพิเศษ สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP66 + IP68 + IP69 ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland Rugged Smartphone Certification หลังจากทดสอบแช่น้ำลึก 2 เมตร เป็นเวลา 48 ชั่วโมง โดยที่สมาร์ตโฟนยังทำงานได้ปกติ และยังทนต่อแรงกระแทกจากการทดสอบทางการทหาร Military Grade Shock-Resistance Test
จอแสดงผลให้ความสว่างสูงสุด 4500 นิต
realme 14 Pro 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ที่มีความลึกสี 1.07 พันล้านสี ความละเอียด 2392 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.77 นิ้ว ให้อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1 ความสว่างสูงสุดถึง 4500 นิต รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz สนับสนุนขอบเขตสีกว้าง DCI-P3 100% และถนอมดวงตาด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูง 3840Hz รวมถึงการหรี่แสงแบบ DC Dimming อีกทั้งยังมีลำโพงคู่สเตอริโอ จึงตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ทั้งภาพและเสียง
กล้องหลักระดับ DSLR พร้อมแฟลช 3 ดวง
realme 14 Pro 5G ได้รับกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ขนาด 1/1.95” ระยะโฟกัสเทียบเท่า 26 มม. รูรับแสง f/1.8 รองรับการซูม 2 เท่า แบบ In-sensor และมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) พร้อมด้วยกล้องรอง 2 ล้านพิกเซล (Monochrome Camera) ระยะโฟกัสเทียบเท่า 22 มม. รูรับแสง f/2.4
กล้องหลังของ realme 14 Pro 5G ยังมาพร้อมแฟลช 3 ดวง MagicGlow ติดตั้งรวมกับโมดูลกล้องภายในกรอบวงแหวนอย่างสมดุล เรียกว่าดีไซน์ Ocean Oculus โดยระบบแฟลช MagicGlow สามารถให้แสงระดับมืออาชีพ แม้อยู่ในสภาวะแสงที่ท้าทาย เพื่อคืนสีผิวธรรมาชาติให้กลับคืนมา สามารถปรับความสว่างได้ 5 ระดับ และสามารถปรับอุณหภูมิสีแบบอัตโนมัติได้
แอปกล้องของ realme 14 Pro 5G รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, Pro, Panorama, Hi-Res, Movie, Slow-motion, Time-lapse, Long Exposure, Dual-view Video, Underwater, Doc Scanner, Starry Mode และ Tilt-shift
โหมด Photo รองรับการซูมในช่วง 1x, 2x, 5x ถึง 20x มาพร้อมฟีเจอร์ Soft light ที่มีเอฟเฟกต์ให้เลือกหลายแบบ เช่น Deja vu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy โดยเอฟเฟกต์ Soft light แต่ละแบบ จะทำงานร่วมกับแฟลช MagicGlow เพื่อให้แสงที่แตกต่างกัน
ถัดลงมามีไอคอน Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีภาพถ่าย เช่น Fresh, Emerald, Clear, Vivid, Radiance ตามด้วยฟีเจอร์ Retouch (ไอคอนใบหน้า) ช่วยปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Photo มีฟีเจอร์ปรับค่าชดเชยแสง -2 ถึง +2 ถัดมาเป็นฟีเจอร์ถ่ายภาพ Livephoto และที่น่าสนใจคือไอคอนรูปคนวิ่ง เป็นฟีเจอร์ AI Snap Mode สำหรับถ่ายภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหว หรือ ถ่ายภาพการเล่นกีฬา
โหมด Portrait ซูมได้ 2 ระยะ 1x กับ 2x สามารถปรับระยะชัดลึกได้ตั้งแต่ F1.4 ถึง F16 มาพร้อมฟีเจอร์ Soft light ช่วยทำให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตโดดเด่นยิ่งขึ้น โดยมีเอฟเฟกต์ให้เลือก 5 แบบ ได้แก่ Deja vu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาเป็นไอคอน Filters และเครื่องมือ Retouch เหมือนโหมด Photo
โหมด Street ออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพแนวสตรีท สามารถปรับระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัสได้ตั้งแต่ 26, 62 จนสูงสุด 130 มม. พร้อมด้วย Filters ที่ออกแบบมาสำหรับโหมด Street โดยเฉพาะ เช่น Street, B&W Plus, 90s Pop, Crisp, Cinematic, Green Field และ Sunny Beach ส่วนแถบเครื่องมือด้านบนมีฟีเจอร์ Auto Zoom เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุเพื่อช่วยครอบตัดโดยอัตโนมัติ เพียงแค่แตะบุคคลหรือวัตถุที่ต้องการเน้นในภาพถ่าย
โหมด Video ซูมได้ตั้งแต่ระยะ 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 10x รองรับการถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที หรือ Full HD 1080P ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที สามารถปรับค่า F เพื่อละลายพื้นหลังได้เหมือนโหมด Portrait มี Filters และเครื่องมือ Retouch ให้ใช้งานเช่นกัน
แถบเครื่องมือด้านบนของโหมด Video มีฟีเจอร์ Ultra Steady (ไอคอนรูปกล้อง) ซึ่งเป็นระบบป้องกันภาพสั่นไหว ช่วยทำให้วิดีโอราบรื่นนุ่มนวลมากขึ้น โดยใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS แต่จะบันทึกวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที เมื่อเปิดใช้งาน Ultra Steady
เนื่องจาก realme 14 Pro 5G ได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับสูงสุด IP68 + IP69 สามารถทนอยู่ในน้ำที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร นานสูงสุด 30 นาที จึงรองรับการถ่ายภาพใต้น้ำด้วยโหมด Underwater
เมื่ออยู่ในงานโหมด Underwater ผู้ใช้งานสามารถควบคุมกล้องด้วยปุ่มกดด้านข้าง เช่น กดปุ่มเพิ่มระดับเสียงเพื่อถ่ายรูป, กดปุ่มลดเสียงเพื่อบันทึกวิดีโอ และ กดปุ่มเพาเวอร์เพื่อปิดหน้าจอ หรือกดค้างไว้เพื่อออกจากโหมด Underwater พร้อมไล่น้ำออกจากตัวเครื่องอัตโนมัติ
โหมด Night สามารถซูมได้ในช่วง 1x, 2x, 5x จนสูงสุด 10x และมี Filters ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางคืน เช่น Gloden, Warm & Cool, Pink & Teal และ Night City
AI Ultra Clarity 2.0
นอกจากฮาร์ดแวร์กล้อง realme 14 Pro 5G ยังมีซอฟต์แวร์อัจฉริยะอย่าง AI Ultra Clarity 2.0 สามารถลดความเบลอของภาพถ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อมอบคุณภาพภาพถ่ายที่สวยสดใสสไตล์ AI Super-resolution โดยเฉพาะภาพถ่ายจากการซูมระยะไกล สามารถเพิ่มความคมชัดได้ง่ายๆ เมื่อแก้ไขภาพถ่ายด้วยฟีเจอร์ AI Ultra Clarity
กล้องของ realme 14 Pro 5G ยังได้รับ AI HyperRAW อัลกอริทึมการประมวลผลภาพที่ล้ำหน้าที่สุด เพื่อมอบแสงและเงาความละเอียดสูงอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมอัลกอริทึมลด Noise ในโดเมน RAW ช่วยปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายโดยไม่สูญเสียรายละเอียด โดยเฉพาะการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย
กล้องหน้า 16MP
realme 14 Pro 5G ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ชุดเลนส์ 4P รูรับแสง f/2.4 ให้มุมมองกว้าง 85 องศา มาพร้อมโหมด Portrait มีฟีเจอร์ปรับระยะชัดลึกเหมือนกล้องหลัง รวมถึงฟีเจอร์ Soft light และ Filters แบบกล้องหลัง ส่วนฟีเจอร์ Retouch สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดเหมือนโหมด Photo ของกล้องหน้า
โหมด Photo ของกล้องหน้ามีฟีเจอร์ Soft light แบบกล้องหลัง ได้แก่ Deja vu, Retro, Misty, Glowy และ Dreamy ถัดลงมาจะพบ Filters แบบเดียวกับกล้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์ Fresh, Emerald, Clear, Vividม, Radiance ขณะที่ฟีเจอร์ Retouch (ไอคอนใบหน้า) สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด เช่น ผิว, แก้ม, ขนาดศีรษะ และ ขนาดดวงตา
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Steady (เปิดใช้งานจากแถบเครื่องมือด้านบน) สามารถปรับระยะชัดลึกได้เช่นกัน รวมถึงฟีเจอร์ Filters และ Retouch ก็มีมาให้ใช้งานด้วย โหมด Night ของกล้องหน้า ออกแบบมาสำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อย มาพร้อมฟีเจอร์ Retouch ที่สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดแบบเดียวกับโหมด Photo ของกล้องหน้า
ชิป Dimensity 7300 Energy
realme 14 Pro 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7300 Energy 5G ที่ผลิตขึ้นบนเทคโนโยี 4 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 8-core ที่มี Arm Cortex-A78 จำนวน 4-core ทำงานที่ความเร็วสูงสุดถึง 2.5GHz พร้อม Arm Cortex-A55 จำนวน 4-core และ GPU – Arm Mali-G615 และทำคะแนนจากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้มากกว่า 750,000 คะแนน
realme 14 Pro 5G ยังมีระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่แบบ 3D VC Cooling System ครอบคลุมพื้นที่กระจายความร้อน 6000 ตารางมิลลิเมตร รวมถึงแผ่นกราไฟต์ขนาดพื้นที่ 13487 ตารางมิลลิเมตร จึงสามารถเล่นเกมได้อย่างราบรื่น อย่างเกม Honor of Kings และ Mobile Legends Bang Bang สามารถเข้าถึง 120 เฟรมต่อวินาที ขณะที่เกม Free Fire และ Call of Duty Mobile ก็ทำได้ถึง 90 เฟรมต่อวินาที
ด้านความจำ realme 14 Pro 5G ได้รับ RAM 12GB จับคู่กับ ROM 512GB พร้อมรองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้สูงสุด 14GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 26GB สามารถเปิดแอปพลิเคชันทิ้งไว้ได้หลายแอป เพื่อสลับการใช้งานแต่ละแอปได้อย่างราบรื่น
แบตเตอรี่ 6000mAh
realme 14 Pro 5G ได้รับแบตเตอรี่ Titan ขนาดใหญ่ 6000mAh โดยใช้แบตเตอรี่กราไฟต์ที่มีความหนาของพลังงานแน่นสูงที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้มีความจุเพิ่มขึ้น แต่ตัวเครื่องยังคงบางเฉียบ และยังให้อายุการใช้งานยาวนานยิ่งขึ้น เมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์จจนเต็ม สามารถดูวิดีโอ YouTube ได้นานต่อเนื่องถึง 25 ชั่วโมง หรือ เล่นเกมได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
แบตเตอรี่ของ realme 14 Pro 5G ยังสามารถรักษาความจุแบตเตอรี่ในระดับ 80% แม้ผ่านการชาร์จไปแล้ว 1600 รอบ เทียบได้กับการใช้งานนาน 4 ปี นอกจากนี้ ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 ถึง 50% ในเวลาเพียง 36 นาที (แถมหัวชาร์จ 45W Power Adapter มาให้แล้วในกล่อง)
สรุปราคาและการจำหน่าย
realme 14 Series 5G มีจุดเด่นเหมือนกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh ชาร์จไว 45W ดีไซน์ทนทานป้องกันน้ำได้ถึงระดับ IP69 ทำให้สามารถถ่ายภาพใต้น้ำได้ทั้ง 2 รุ่น อย่างไรก็ตาม realme 14 5G และ realme 14 Pro 5G ยังมีความแตกต่างกันพอสมควร
realme 14 5G มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่นที่ไฟวงแหวน Victory Halo เหมาะสำหรับเกมเมอร์ ขณะที่ realme 14 Pro 5G มีดีไซน์ที่พรีเมียมหรูหรา ฝาหลังเปลี่ยนสีได้เมื่อสัมผัสกับความเย็น เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ตโฟนระดับกลางแต่ให้ประสบการณ์การใช้งานระดับเรือธง
realme 14 5G แรม 12GB ความจุ 256GB วางจำหน่ายในราคา 11,999 บาท และ realme 14 5G แรม 12GB ความจุ 512GB วางจำหน่ายในราคา 13,999 บาท Pre-order ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 เมษายน พิเศษ สำหรับความจุ 12+512 ในช่วง Pre-order ช่องทางออนไลน์ เป็นเจ้าของได้ผ่าน Shopee เท่านั้น ซื้อได้พร้อมกันวันที่ 4 เมษายน พร้อมของแถม (แล้วแต่ช่องทาง) ในทุกช่องทาง สำหรับ realme 14 Pro 5G แรม 12GB ความจุ 512GB วางจำหน่ายในราคา 14,999 บาท เปิด Pre-order ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 เมษายน ซื้อได้พร้อมกันวันที่ 4 เมษายน พร้อมของแถม เฉพาะช่องทาง Com7 และ realme brand shop