Samsung ส่งสมาร์ทโฟน Galaxy A56 5G เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดตัวทางการในระดับโลก เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับรุ่นน้อง Galaxy A36 5G โดยทีมงาน @flashfly ได้รับ Galaxy A56 5G มารีวิว ซึ่งมีดีไซน์สวยงามพรีเมียม แต่ความน่าสนใจคือซอฟต์แวร์ภายใน เพราะเป็นครั้งแรกที่ Samsung อัดฟีเจอร์ AI มาใน Galaxy A series อย่างเต็มรูปแบบ เรียกว่า Awesome Intelligence ส่วนจะมีความน่าสนใจอย่างไร และยังมีจุดเด่นอะไรอีกบ้าง? คำตอบรออยู่แล้วที่ด้านล่าง
สเปก Samsung Galaxy A56 5G
- จอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัก 50MP มีระบบกันสั่น OIS + 12MP Ultra Wide + 5MP Macro Camera
- กล้องหน้า 12MP Front Camera
- ชิปประมวลผล Exynos 1580
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB / RAM 12GB + ROM 256GB
- ลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Gyro Sensor, Geomagnetic Sensor, Light Sensor, Virtual Proximity Sensing
- ระบบความปลอดภัย Fingerprint Sensor, Face Recognition, Knox vault, Auto Blocker
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7
- มาตรฐานป้องกันน้ำกันฝุ่น IP67
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 45W และ Super Fast Charge 2.0
- ขนาดตัวเครื่อง 162.9 x 78.2 x 7.4 mm
- น้ำหนัก 198 กรัม
ดีไซน์แบบเรือธง ทนทาน บางเบากว่าเดิม
Galaxy A56 5G ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความบางและเบากว่าเดิม เมื่อเทียบกับ Galaxy A55 5G ในปีที่แล้ว โดยบางลง 0.8 มิลลิเมตร และ น้ำหนักหายไป 15 กรัม แต่ยังคงเน้นดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียมแบบเรือธง และใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อให้มีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำกันฝุ่น IP67 สามารถป้องกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ และทนน้ำได้นานสูงสุด 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร
Samsung เปิดตัว Galaxy A56 5G ในประเทศไทยด้วยสี Awesome Pink, Awesome Olive และ Awesome Graphite โดยทีมงาน @flashfly ได้รับสีชมพู Awesome Pink มารีวิว ซึ่งมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจนที่ดีไซน์กล้องหลัง จากเดิมที่ติดตั้งโมดูลกล้องแบบวงแหวนวางเรียงกันเป็นแนวตั้ง ในรุ่นใหม่จะเห็นว่ามีการเสริมด้วยกรอบรูปทรงแคปซูลสีดำ และมีขอบสีเดียวกับตัวเครื่อง
ดีไซน์ด้านหน้าก็น่าสนใจเช่นกัน เพราะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ใช้ดีไซน์ขอบจอบางรอบด้านเหมือนสมาร์ทโฟนเรือธง โดยที่ยังคงรักษามิติความกว้างและความยาวได้ใกล้เคียงกับรุ่นก่อน มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล และซ่อนกล้องหน้าบนหน้าจอ อีกทั้งยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus+ (อัปเกรดจาก Corning Gorilla Glass 7 ที่ใช้ใน Galaxy A55 5G)
ขอบด้านข้างใช้วัสดุโลหะให้สัมผัสพรีเมียม ขอบมุมทั้ง 4 มีความโค้งมน และยังมีรูปทรงเพรียวบางกว่าเดิม เพียง 7.4 มิลลิเมตร (Galaxy A55 5G มีความบาง 8.2 มิลลิเมตร)
ปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเพาเวอร์ วางอยู่บนขอบที่ถูกยกให้นูนขึ้น ซึ่งทาง Samsung เรียกดีไซน์แบบนี้ว่า Key Island ช่วยให้ให้การจับถือมีความถนัดมากขึ้น
มุมมองด้านบนพบรูไมโครโฟน 2 ตำแหน่ง
ด้านล่างประกอบด้วยช่องลำโพง ซึ่งให้เสียงสเตอริโอ มีรูไมโครโฟน 2 ตำแหน่ง พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C และ ถาดใส่ซิมการ์ด
กล้องหลัก 50MP พร้อม OIS ถ่าย 4K ได้ทุกเลนส์
Samsung Galaxy A56 5G ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization), กล้อง Ultra Wide และ กล้อง Macro จึงรองรับการถ่ายภาพได้หลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายทั่วไปในสภาพแสงตอนกลางวัน สภาวะแสงน้อย ภาพวิวทิวทัศน์ที่ต้องการมุมมองกว้างพิเศษ ไปจนถึงภาพถ่ายใกล้วัตถุที่ต้องการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F1.8 ระบบออโต้โฟกัส มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2
- กล้อง Macro 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4
เมื่อเข้ามาในแอปกล้องของ Galaxy A56 5G จะพบกับโหมดถ่ายภาพ Fun, Portrait, Photo, Video, Pro, Pro Video, Night, Food, Panorama, Macro, Slow Motion, Hyperlapse, Dual Rec และ Single Take
โหมด Photo รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.5x (ซึ่งเป็นการเปิดใช้กล้อง Ultra Wide) จนสูงสุด 10x สามารถใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมได้จากแถบเครื่องมือด้านบน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแฟลช, สลับความละเอียดระหว่าง 50MP กับ 12MP, เปิด Motion Photo (เมื่อสลับเป็น 12MP) สำหรับใช้งานฟีเจอร์ Best Face ไปจนถึง Filters และ Watermark
โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลาย รองรับการซูมที่ระยะ 1x และ 2x สามารถปรับผิวหน้าให้เรียบเนียนได้ 8 ระดับ รอบนี้ต้องบอกเลยว่าทาง Samsung ได้มีการปรับสีผิวหรือสกินโทนใหม่ให้สวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ถูกใจสายพอร์ตเทรตแน่นอน แถมถ่ายสวยทุกระยะอีกด้วย
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ 0.5x ถึง 10x เช่นเดียวกับการถ่ายภาพนิ่ง สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K UHD (3840 x 2160 พิกเซล) ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาทีให้รายละเอียดคมชัด สีสันสดใส และรองรับโหมด Slow Motion ในความละเอียด HD 720p ที่ 240 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS
นอกจากนี้ Galaxy A56 5G ยังมาพร้อมการปรับปรุง Nightography หรือการถ่ายภาพในเวลากลางคืน ด้วย Low Noise Mode ให้ภาพในที่แสงน้อยออกมาสวยงามคมชัด และผู้ใช้งานยังสามารถสร้าง Filters ในแอปกล้องแบบกำหนดเอง ด้วยการดึงสีและสไตล์จากรูปภาพที่มีอยู่ เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและบ่งบอกสไตล์ของผู้ใช้งานมากที่สุด
กล้องหน้าคมชัด 4K
กล้องหน้าของ Galaxy A56 5G มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 รองรับโหมด Photo ที่สามารถปรับมุมมองกว้างได้ 2 ระยะ สำหรับการถ่ายเซลฟี่คนเดียวหรือถ่ายร่วมกับเพื่อนๆ ขณะที่แถบเครื่องมือด้านบน มีฟีเจอร์สำหรับเปิด Motion Photo (เผื่อไว้ปรับใบหน้าภายหลังด้วย Best Face), เอฟเฟกต์ Filters, Face (ปรับความงามบนใบหน้า) และ Color tone (เปลี่ยนโทนสีภาพถ่ายเป็นแบบโทนสีอุ่นหรือธรรมชาติ)
โหมด Video ของกล้องหน้า มีฟีเจอร์ Face สำหรับปรับความเรียบเนียนของผิวหน้า สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K Ultra HD ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที และเมื่อเปิดโหมด Dual Rec จะสามารถถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังในเฟรมเดียวกันได้ ซึ่งจากการทดสอบใช้งานจะเห็นได้ว่ากล้องหน้า Galaxy A56 รอบนี้ถ่ายย้อนแสงสีสวยขึ้นเก็บรายละเอียดฉากหลังได้ครบถ้วน สีผิวย้อนแสงก็ยังสวย
Best Face
Best Face เริ่มนำมาใช้ครั้งแรกในเรือธง Galaxy S25 series และตอนนี้ก็มาอยู่ใน Galaxy A56 5G แล้ว เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยปรับแต่งแก้ไขใบหน้าในภาพถ่าย ให้ออกมาดูดีที่สุด โดยใช้กับการถ่ายภาพ Motion Photo (ความละเอียด 12MP) ไม่ว่าจะถ่ายเดี่ยวหรือถ่ายร่วมกับเพื่อน และเมื่อพบว่ามีใครเผลอหลับตา มองไปทางอื่น หรือ ไม่ทันยิ้ม ให้เข้าไป Edit (ไอคอนรูปดินสอ) แล้วเลือกเครื่องมือ Best Face (ซ่อนอยู่ในไอคอนวงกลม 4 วง ที่มุมล่างขวามือ) จากนั้น AI มาวิเคราะห์ภาพใบหน้าแต่ละคน ก่อนจะนำเสนอใบหน้าที่ดีที่สุดให้เลือกเปลี่ยน เพียงเท่านี่ภายถ่ายเซลฟี่ไม่ว่าจะแบบเดี่ยวหรือแบบกลุ่ม ก็จะออกมาดูดีกันทุกคน (ปัจจุบันรองรับการถ่ายภาพกลุ่มสูงสุด 5 คน)
ตัวอย่างภาพถ่าย
Awesome Intelligence
Samsung Galaxy A56 5G ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย One UI 7 และจะได้รับการอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android มากถึง 6 เวอร์ชันหลัก รวมถึงการอัปเดตด้านความปลอดภัยนาน 6 ปี หมดกังวลเรื่องการใช้งานในระยะยาว
One UI 7 ยังนำฟีเจอร์ AI อย่างเต็มรูปแบบมาสู่ Galaxy A series เป็นครั้งแรกเรียกว่า Awesome Intelligence โดยรวมเครื่องมือ AI ที่ทรงพลัง และใช้งานง่าย เช่น Best face, Auto trim, photo edit suggestion, circle to search และอีกหลายฟีเจอร์
Auto Trim เครื่องมือตัดต่อวิดีโอด้วย AI หลังจากถ่ายวิดีโอมาหลายคลิป สามารถนำมารวมกันเป็นคลิปด้วย โดยเลือกคลิปวิดีโอที่ต้องการนำมารวมกันแล้วแตะปุ่ม Create ที่มุมล่างซ้าย ตามด้วยปุ่ม Movie จากนั้น AI จะนำคลิปวิดีโอที่เลือกไว้มารวมเป็นคลิปเดียว เสร็จแล้วสามารถใช้ฟีเจอร์ Auto Trim เพื่อสร้างคลิปวิดีโอสั้นๆ ด้วยการแตะปุ่มกรรไกรเพียงครั้งเดียว AI จะสร้างวิดีโอสั้นให้อัตโนมัติ สำหรับแชร์ลง Facebook Reels, YouTube Shorts, TikTok และแพลตฟอร์มแชร์วิดีโออื่นๆ
Object Eraser ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถลบสิ่งรบกวนที่ไม่ต้องการออกจากรูปภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นคนเดินผ่านไปมา ทำให้ได้รูปภาพสุดท้ายที่สะอาดตาและสวยงามยิ่งขึ้น
Edit Suggestion เครื่องมือแต่งภาพที่อาศัย AI ให้คำแนะนำเพื่อการปรับแต่งรูปเพื่อทำให้ภาพถ่ายแต่ละใบออกมาสมบูรณ์แบบมากขึ้น ไม่ว่าจะช่วยลบแสงแฟลร์, ลบเงา หรือ ลบแสงสะท้อน และยังมี Instant Slow-Mo แบบเดียวกับเรือธง Galaxy S series
Instant Slow-Mo เป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอแบบ Slow Motion โดยใช้ AI ช่วยชะลอช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในวิดีโอได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่แตะค้างที่วิดีโอเพื่อเริ่มและหยุดเอฟเฟกต์ Slow Motion และใช้งานได้ทั้งวิดีโอที่ถ่ายมาด้วยกล้องของ Galaxy A56 5G หรือจะเป็นวิดีโอที่ดาวน์โหลดมาจากที่อื่น ก็ทำได้เช่นกัน
Circle to Search ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ไม่เพียงแต่ช่วยค้นหาข้อมูลบนหน้าจอ แต่ยังสามารถจดจำหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล และ URL บนหน้าจอ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงค้นหาเพลงที่ได้ยินได้ทันที โดยไม่ต้องสลับแอป
นอกจากนี้ AI ใน Galaxy A56 5G ยังเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมรับคำสั่งอยู่ตลอดเวลา โดยมี Ai Select ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลบนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เครื่องมือ “ก็อป ครอป วาง ส่ง” กับรูปภาพ, ข้อความ, เบอร์โทร, ที่อยู่เว็บไซต์ หรือ แม้แต่เวลา/วันที่ และยังมี Read Aloud ให้ AI อ่านข้อความให้ฟัง โดยใช้เทคโนโลยี text-to-speech เพื่อแปลงข้อความออกมาเป็นเสียงพูด
ระบบรักษาความปลอดภัย
Galaxy A56 5G ได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้จอแสดงผล (In-Display Fingerprint Sensor) ซึ่งเป็นวิธีการยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยสูง และเพื่ออำนวยความสะดวกในการปลดล็อคและยืนยันตัวตน Galaxy A56 5G ก็มีระบบจดจำใบหยน้า Face Recognition เพื่อรองรับฟีเจอร์สแกนใบหน้าได้เช่นเดียวกัน
นอกจากระบบจดจำใบหน้าและสแกนลายนิ้วมือ Galaxy A56 5G ยังมี Knox Vault แพลตฟอร์มเข้ารหัสและปกป้องข้อมูลส่วนตัวที่มีความละเอียดอ่อนของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการป้อนรหัสผ่าน, พิน, ลายนิ้วมือ, รหัสบัตรเครดิต และอื่นๆ
One UI 7 ยังรวมฟีเจอร์ Auto Blocker ไว้ใน Galaxy A56 5G ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ที่มาจาก แอปเถื่อน, SMS, Link ดูดเงิน รวมถึง สาย USB ปลอม โดยจะส่งคำเตือนทันที เมื่อผู้ใช้พยายามดาวน์โหลดจากแหล่งข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อแจ้งเตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และป้องกันไม่ให้เกิดการติดตั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ
นอกจากนี้ One UI 7 จะเปิดโหมดป้องกันมิจฉาชีพ ตั้งแต่ตอน Set up เครื่องครั้งแรก และมาพร้อมโซลูชัน Theft Protection สำหรับป้องกันการโจรกรรม สามารถ Remote Lock หรือสั่งล็อคอุปกรณ์จากระยะไกลได้ มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลยังคงปลอดภัย ถ้าเกิดทำ Galaxy A56 5G สูญหายหรือถูกขโมย
ประสิทธิภาพแรงชิป Exynos 1580
Samsung Galaxy A56 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Exynos 1580 ที่ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการ 4nm EUV FinFET รุ่นที่ 3 ประกอบด้วย CPU แบบ Octa-Core ได้แก่ 1x Cortex-A720 ความเร็วสูงสุด 2.9GHz + 3x Cortex-A720 ความเร็วสูงสุด 2.6GHz + 4x Cortex-A520 ความเร็วสูงสุด 1.95GHz อีกทั้งยังอัปเกรดระบบทำความเย็นขั้นสูงให้ใหญ่ขึ้น 15%
GPU ของ Exynos 1580 ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มากถึง 37% เมื่อเทียบกับ Exynos 1480 ที่ใช้ใน Galaxy A55 5G และยังปรับปรุงการทำงานด้าน AI ด้วย NPU ที่รองรับการทำงานได้มากถึง 14.7 ล้านล้านรายการต่อวินาที
แบตใหญ่ ชาร์จไว 45W
Samsung Galaxy A56 5G ยังคงมีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh เท่ากับรุ่นก่อน แต่ด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ ก็มีส่วนให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ถูกยืดออกไปให้ยาวนานขึ้น สามารถดูวิดีโอได้นานต่อเนื่องถึง 29 ชั่วโมง ซึ่งมั่นใจได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน ที่สำคัญ Galaxy A56 5G ยังได้รับการปรับปรุงเทคโนโลยีชาร์จเร็ว โดยรองรับการชาร์จสูงสุด 45W ขณะที่รุ่นก่อนรองรับการชาร์จสูงสุด 25W ทำให้ Galaxy A56 5G สามารถเติมพลังงานกลับคืนได้อย่างรวดเร็ว ตอบสนองการใช้งานได้ทันใจ
จอ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว
Samsung Galaxy A56 5G มาพร้อมจอแสดงผล Super AMOLED ความลึกของสี 16 ล้านสี ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1200 นิต รองรับ Vision Booster ที่ได้รับการปรับปรุงระดับคอนทราสต์และสีสัน ทำให้จอแสดงผลสวยงามคมชัดแม้ใช้งานอยู่กลางแจ้ง อีกทั้งยังได้รับการป้องกันด้วยกระจก Gorilla Glass Victus+ ของ Corning ที่สามารถต้านทานรอบขีดข่วนและแรงกระแทกได้ดีกว่ารุ่นก่อนที่ใช้ Gorilla Glass 7
สรุปราคาและการจำหน่าย
Samsung Galaxy A56 5G ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Galaxy A55 5G ในปีที่แล้ว ซึ่งมีการอัปเกรดทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ด้านฮาร์ดแวร์มีดีไซน์ใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น และใช้วัสดุคุณภาพสูง รวมไปถึงชิปประมวลผลก็ได้รับการอัปเกรดให้แรงกว่าเดิม ด้านซอฟต์แวร์มีความโดดเด่นด้วยการนำฟีเจอร์ AI มาให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ บางฟีเจอร์ถูกยกมาจากเรือธง Galaxy S25 series สมกับคำว่า Awesome Intelligence พร้อมรับประกันการอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นระยะเวลานานถึง 6 ปี ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการหรือด้านความปลอดภัย ทั้งหมดนี้ทำให้ Galaxy A56 5G เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางของ Samsung ที่สามารถตอบสนองการใช้งานได้เทียบเท่าเรือธง เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนเรือธงราคาประหยัด ไว้ตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพ ความบันเทิง และมาจากแบรนด์ที่ไว้วางใจได้ว่าจะมอบความทนทานรองรับการใช้งานเป็นเวลาหลายปี
ทั้งนี้ Samsung Galaxy A56 5G พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ไปจนถึง 6 เมษายน 2568 โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Awesome Pink, Awesome Olive และ Awesome Graphite ด้านความจำมีให้เลือกระหว่าง RAM 8GB + ROM 128GB ราคา 13,999 และ RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 15,999 บาท
พิเศษ!! เมื่อจับจอง Galaxy A56 5G รุ่น RAM 8GB + ROM 128GB ในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถอัปเกรดเป็นรุ่น RAM 12GB + ROM 256GB ได้ฟรี!! (มูลค่า 2,000 บาท) พร้อมรับส่วนลด 300 บาท สำหรับแลกซื้อ Galaxy Fit3 และสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นเมื่อผ่อนกับ Samsung Finance+ ดาวน์เริ่มต้น 0 บาท