Apple เริ่มปล่อยฟีเจอร์ต่างๆ ในระบบ Apple Intelligence เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยเป็นส่วนหนึ่งของ iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 แต่เบื้องหลังนั้น Tim Cook ยืนยันว่าบริษัทฯ เริ่มพัฒนาด้าน AI อย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2017
บทสัมภาษณ์ล่าสุดของ Tim Cook ซีอีโอของ Apple เปิดเผยว่า งานด้าน AI ของบริษัทฯ เริ่มต้นขึ้นในปี 2017 โดยมีการย้ายทีมพัฒนา Neural Engine จากโครงการพัฒนารถยนต์อัจฉริยะ มาทำงานด้าน Machine Learning ในผลิตภัณฑ์ของ Apple และเริ่มนำมาใช้งานกับ Apple Watch เป็นอย่างแรก
AI ใน Apple Watch ถูกนำมาใช้ในฟีเจอร์ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ และล่าสุดได้ขยายให้ครอบคลุมฟีเจอร์ตรวจสอบภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นเศษ
Machine Learning ของ Apple สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำยิ่งขึ้น เกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้ และตัวชี้วัดด้านสุขภาพ โดยประมวลผลข้อมูลภายในเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลของผู้ใช้จะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สำหรับงานที่มีความซับซ้อน ยังจำเป็นต้องมีการประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์เช่นเดียวกับใน iPhone
นอกจากเรื่องสุขภาพ Tim Cook ยังกล่าวว่า AI ยังมีบทบาทสำคัญด้านประสบการณ์การใช้งานผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Apple ตั้งแต่การโต้ตอบกับ Siri ที่ชาญฉลาดขึ้น ไปจนถึงการแนะนำข้อความแบบคาดเดา และการจัดหมวดหมู่รูปภาพ
Apple ยังลงทุนด้าน AI อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่แอปพลิเคชันในทางปฏิบัติ ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้าน โดยไม่กระทบต่อความเป็นส่วนตัว แต่น่าเสียดายที่ Tim Cook ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับฟีเจอร์ AI ใหมาๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคต
ที่มา – Wired