ถ้าไม่เห็นชื่อรุ่น C Series มาก่อน คงคิดว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มีราคาแพงอย่างแน่นอน สำหรับ realme C75 ที่มาพร้อมสโลแกน “กันน้ำ กันกระแทก ไร้กังวล” นี่คือสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น ที่ใส่ใจในการออกแบบให้มีความทนทานเป็นพิเศษ แม้แต่สมาร์ตโฟนราคาหลายหมื่นก็ให้ไม่ได้ โดยเฉพาะความสามารถด้านป้องกันน้ำที่ผ่านการรับรองระดับ IP69 ขณะที่เรือธงส่วนใหญ่ในตลาดกันน้ำในระดับ IP68 นอกจากนี้ ยังทนทานต่อแรงกระแทกรอบด้าน ด้วยโครงสร้าง ArmorShell ป้องกันการตกหล่นได้อย่างดีเยี่ยม
สเปก realme C75
- จอแสดงผล FHD+ ขนาด 6.72 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz
- กล้องหลัก 50MP AI Camera
- กล้องหน้า 8MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Helio G92 Max
- ความจำ RAM 6GB / 8GB (LPDDR4X) + ROM 128GB / 256GB / 512GB (eMMC 5.1)
- ขยายความจำ RAM ได้อีก 16GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- สนับสนุนการ์ด microSD
- ลำโพง 400% UltraBoom Speaker
- การเชื่อมต่อ Dual Nano-SIM, Wi-Fi (2.4GHz/5GHz), Bluetooth 5.0, USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 5.0 (บนพื้นฐาน Android 14)
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP69 + IP68 + IP66
- แบตเตอรี่ 6000mAh ชาร์จเร็ว 45W
- ขนาดตัวเครื่อง 165.69 x 76.22 x 7.99 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 196 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Lightning Gold และ Storm Black
แกะกล่อง realme C75
realme C75 จัดส่งมาในกล่องสีเหลืองตามสไตล์ของ realme หน้ากล่องพิมพ์ชื่อรุ่น C75 ขนาดใหญ่ และที่มุมล่างซ้ายติดโลโก้ของ TÜV Rheinland เพื่อยืนยันว่าผ่านการรับรองทั้งกันน้ำ กันกระแทก และ กันฝุ่น เพราะนี่คือสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลก ที่ได้รับการรับรอง “Rugged Smartphone Certificate” จากหน่วยงานดังกล่าว
พลิกมาดูหลังกล่อง มีการระบุจุดเด่นไว้ 6 รายการ ได้แก่ ป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับ IP69, แบตเตอรี่ขนาดใหญ่เกือบ 6000mAh, ใช้ชิปประมวลผล Helio G92 Max ของ MediaTek, ป้องกันหน้าจอด้วยกระจกเสริมแรง ArmorShell Glass, รองรับชาร์จเร็ว 45W และ จอแสดงผล FHD+ ให้อัตราการรีเฟรช 90Hz
หลังจากยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับกล่องเอกสารสีเหลืองแบนๆ วางอยู่บนสุด พร้อมสโลแกน Make it real ของ realme เมื่อแกะซองออกจะพบเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด, คู่มือ, ข้อมูลสำคัญ และ แถมเคสมาให้ด้วย
ใต้ซองเอกสารจะพบกับสมาร์ตโฟน realme C75 และเมื่อหยิบสมาร์ตโฟนออกมาจากซอง จะเห็นว่าได้รับการติดฟิล์มป้องกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว ชั้นล่างสุดของกล่องเป็นช่องเก็บสายชาร์จ USB Type-C และ หัวชาร์จแบตเตอรี่ Power Adapter (45W SUPERVOOC)
ดีไซน์เรียบหรูดูดี
realme C75 ไม่ได้มีดีแค่ความทนทานเท่านั้น แต่ดีไซน์ภายนอกยังมีความสวยงามพรีเมียม ให้ภาพลักษณ์ที่หรูหราผ่านกระบวนการผลิตขั้นสูงและวัสดุที่มีคุณภาพ โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ Storm Black และ สีทอง Lightning Gold ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ทีมงาน @flashfly ได้รับมารีวิว
ด้านหลังของ realme C75 มีพื้นผิวแบบ cross-arc ที่สร้างขึ้นจากกระบวนการถ่ายโอนระดับไมครอน แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแสงและเงาแบบไดนามิก ขณะที่กล้องหลังก็ติดตั้งอยู่บนแผ่นอะลูมิเนียมอัลลอย ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูหรูหรามากยิ่งขึ้น
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล ขนาด 6.72 นิ้ว และติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ
ขอบด้านข้างดีไซน์แบนราบ มีความบาง 7.99 มิลลิเมตร วางปุ่มปรับระดับเสียง ไว้เหนือปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างมีถาดใส่ซิมการ์ด
มุมมองด้านบนไม่พบตำแหน่งไมโครโฟนตัวที่ 2 เนื่องจากซ่อนไว้กับระบบกล้องหลัง
ด้านล่างประกอบด้วยไมโครโฟนตัวหลัก พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ช่องลำโพง โดยใช้ลำโพงขนาดใหญ่ ผสานการทำงานร่วมกับอัลกอริทึมขั้นสูง ทำให้สามารถเพิ่มระดับเสียงของลำโพง UltraBoom ได้ถึง 400%
ป้องกันน้ำ IP69 พร้อมฟังก์ชันไล่น้ำออกจากเครื่อง
realme C75 ได้รับการออกแบบมาให้มีความทนทานเป็นพิเศษ สมกับสโลแกน “กันน้ำ กันกระแทก ไร้กังวล” แต่ก็ให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงามด้วยเช่นกัน ทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูเรียบหรู ขณะที่โครงสร้างภายในก็มีความแข็งแกร่ง และยังเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่สามารถป้องกันน้ำในระดับสูง IP69 ซึ่งหาได้ยากในตลาด แม้แต่เรือธงราคาแพงส่วนใหญ่ ยังป้องกันฝุ่นและน้ำได้ในระดับ IP68 เท่านั้น
นอกจากได้รับมาตรฐาน IP69 สมาร์ตโฟน realme C75 ยังครอบคลุมระดับ IP68 และ IP66 อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนเพียงรุ่นเดียวในช่วงราคาเดียวกัน ที่สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้ในระดับ IP68 และ IP69
มาตรฐาน IP69, IP68 และ IP66 มีความสำคัญอย่างไร?
เริ่มตั้งแต่ตัวเลขหลักหน้า หมายถึงความสามารถในการป้องกันฝุ่น ซึ่งเลข 6 เป็นระดับสูงสุดแล้ว หมายความว่า realme C75 สามารถป้องกันฝุ่นได้เต็มรูปแบบ ขณะที่ตัวเลขหลักที่สอง หมายถึงความสามารถในการป้องกันน้ำ และ realme C75 ได้รับทั้ง 3 มาตรฐาน ซึ่งมีความหมายดังนี้
- IP66 ทนต่อแรงฉีดน้ำจากทุกทิศทาง (100±5 ลิตรต่อนาที แรงดัน 100kPa ด้วยระยะหัวฉีด 2.5 – 3 เมตร รวมเวลา 3 นาที) ป้องกันน้ำกระเด็นใส่จากการใช้งานในชีวิตประจำวันได้
- IP68 ทนน้ำได้อย่างสมบูรณ์ สามารถแช่น้ำได้นาน 30 นาที ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร
- IP69 ทนน้ำที่มีอุณหภูมิสูง 80±5 องศาเซลเซียส และทนต่อการฉีดน้ำความแรงสูง 15 ลิตรต่อนาที จาก 4 มุม 0, 30, 60, 90 องศา เป็นเวลา 30 วินาที ของแต่ละมุม (รวมเป็น 2 นาที) ช่วยป้องกันความเสียหายจากน้ำที่มีความร้อนสูง
มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำระดับ IP66 ช่วยให้ realme C75 ปลอดภัยจากน้ำที่สาดกระเซ็น ไม่ว่าจะเป็นสายฝน หรือ น้ำจากอ่างล้างมือ แต่ถ้าเผลอทำ realme C75 ตกน้ำ หรือ น้ำหกใส่ในปริมาณมาก realme C75 ก็มีฟังก์ชันขับไล่น้ำด้วย SonicWave โดยอาศัยแรงสั่นสะเทือนจากลำโพง ช่วยขจัดน้ำออกจากตัวเครื่องได้ไวขึ้น 50% ทำให้สมาร์ตโฟนกลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรก ในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขับน้ำ Sonic แบบ Active ในตัวเครื่อง
แข็งแกร่งระดับเรือธง ทนต่อแรงกระแทกรอบด้าน
นอกจากป้องกันฝุ่นและน้ำได้อย่างเต็มรูปแบบ realme C75 ยังมีโครงสร้างภายนอกและภายในที่แข็งแกร่งระดับเรือธง จนสามารถต้านทานต่อแรงกระแทกได้รอบด้าน 360 องศา โดยด้านหน้าได้รับการป้องกันด้วย ArmorShell Glass กระจกที่เสริมชั้นความแข็งแรงสูง ช่วยให้ทนต่อแรงกระแทกได้ดีกว่าเดิม 2.6 เท่า และ ป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้ realme C75 มาพร้อมกระจกป้องกันรอยหน้าจอที่ดีที่สุดในสมาร์ตโฟนที่มีราคาไล่เลี่ยกัน
ในส่วนของโครงสร้างตัวเครื่อง realme C75 ได้รับการปกป้องด้วย ArmorShell Protection ซึ่งมีการอัปเกรดวัสดุให้มีคุณภาพสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเพิ่ม Lithium Aluminum Borate ถึง 35% รวมถึงธาตุอื่นๆ เช่น Al2O3, Li2O และ B2O3 ทำให้โครงสร้างภายในแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
realme C75 ยังถูกยกขอบให้นูนขึ้น 0.23 มิลลิเมตร เพื่อการปกป้องรอบด้าน จากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง เสริมด้วยถุงลมกันกระแทกชิ้นส่วนกล้อง มอเตอร์สั่น รวมถึงส่วนประกอบภายในอื่นๆ ที่มีความสำคัญ และป้องกันแผงวงจรหลักด้วยฝาครอบอะลูมิเนียมหล่อที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดี และทำให้โครงสร้างมีความทนทานต่อการดัดงอ จนสามารถป้องกันการตกหล่นจากที่สูงถึง 2 เมตร
ด้วยการออกแบบ ArmorShell ทำให้ realme C75 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลก ที่ได้รับการรับรอง Rugged Smartphone Certificate จาก TÜV Rheinland และยังผ่านมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD 810H อีกด้วย ผ่านการทดสอบความทนทานที่เข้มงวดของ TÜV Rheinland ทั้งการแช่น้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที และถูกนำไปปั่น 150 รอบ ในเครื่องทดสอบการปั่นแห้ง ขณะที่การทดสอบ MIL-STD 810H มุ่งเน้นไปที่การตกหล่น การกระแทก และ แรงสั่นสะเทือน จึงมั่นใจได้ว่า realme C75 เป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่มีความทนทานเหนือกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปีอย่างไร้กังวล
แบตใหญ่ 6000mAh ชาร์จไว 45W
ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่เพรียวบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร แต่ realme C75 กลับมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนในตลาดที่อยู่ในเซกเมนต์เดียวกัน ด้วยความจุ 6000mAh จึงให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 24 วัน สำหรับสแตนด์บาย หรือดูวิดีโอบน YouTube นานต่อเนื่อง 13.2 ชั่วโมง และด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ก็ทำให้ realme C75 กลายเป็น Power Bank จ่ายพลังงานให้อุปกรณ์อื่นได้ 6.5W ผ่านสาย OTG
เมื่อพลังงานแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็ไม่ต้องใช้เวลาชาร์จนานอีกต่อไป เนื่องจาก realme C75 รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45W ชาร์จไวที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีราคาใกล้เคียงกัน สามารถชาร์จถึง 50% ภายในเวลา 38 นาที และ ใช้เวลาชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 90 นาที
แบตเตอรี่ของ realme C75 ยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่มาตรฐานถึง 2 เท่า ในแง่ของการเสื่อมสภาพ เนื่องจากสามารถรักษาความจุแบตเตอรี่ในระดับ 80% แม้ผ่านการชาร์จไปแล้ว 1,460 รอบ หมายความว่า realme C75 เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความทนทานทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ และยังมีแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพช้ากว่าสมาร์ตโฟนของคู่แข่งในระดับเดียวกัน
จอแสดงผล 90Hz รองรับ Mini Capsule เวอร์ชันใหม่
realme C75 มาพร้อมจอแสดงผล LCD ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.72 นิ้ว ให้ความสว่าง 580 นิต (ความสว่างสูงสุด 690 นิต ในโหมด HBM) รองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 90Hz และให้อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส (Touch Sampling Rate) สูงสุดที่ 180Hz นอกจากนี้ ยังมีโหมด Eye Comfort ช่วยถนอมดวงตาเมื่อจ้องหน้าจอในที่แสงน้อยเป็นเวลานาน
จอแสดงผลของ realme C75 ถูกเจาะหลุมเป็นรูกลมๆ ที่กึ่งกลางส่วนบนของหน้าจอ สำหรับติดตั้งกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล และยังใช้เป็นพื้นที่แสดง User Interface ที่เรียกว่า Mini Capsule ซึ่งพัฒนามาถึงเวอร์ชัน 3.0 แล้ว
Mini Capsule เป็นการผสานพื้นที่บริเวณกล้องหน้า ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ เพื่อแสดงสถานะการใช้งานหรือการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ ตัวอย่างเช่น ขณะฟังเพลง จะมีการแสดงกราฟิกเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงพร้อมสีสันเปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม และเมื่อแตะที่ Mini Capsule จะมีการขยายพื้นที่ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อแสดงข้อมูลเพลงและปุ่มควบคุมการเล่น
สำหรับ Mini Capsule 3.0 ได้รับการอัปเดตให้สนับสนุนการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Grab ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามความคืบหน้าสำหรับคำสั่งซื้อในแอป Grab ได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ realme C75 ยังสามารถเปิดเสียงได้ดังขึ้นถึง 400% ช่วยเพิ่มอรรถรสในการการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมมากขึ้นไปอีกขั้น
กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล
กล้องหลังของ realme C75 ดีไซน์ออกมาเหมือนมีกล้อง 3 ตัว แต่ความจริงมีเพียงกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ที่มีขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.88 นิ้ว รูรับแสง f/1.8 รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, Street, Video, Photo, Portrait, Pro, Panorama, Hi-Res, Movie, Slow-motion, Time-lapse, Text Scanner และ Tilt-shift
โหมด Photo สามารถซูมได้ในช่วง 1x และ 2x ได้อย่างคมชัด และซูมได้สูงสุดถึง 10x มี Filters ให้เลือกหลายแบบ เพื่อเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย และ ฟีเจอร์ Retouch สำหรับปรับความงามบนใบหน้า (หากต้องการถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล ให้เลือกโหมด Hi-Res)
โหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ตามต้องการ (F1.4 ถึง F16) มีฟีเจอร์ Retouch และ Filters เช่นเดียวกับโหมด Photo
โหมด Street สำหรับถ่ายภาพแนวสตรีท โดยช่วงของการซูมจะเปลี่ยนเป็นระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัส 27mm – 270mm พร้อม Filters ต่างๆ ที่ทำให้ภาพถ่ายแนวสตรีทโดดเด่นยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น B&W Plus (ช่วยเพิ่มความชัดเจนของแสงและเงา), 90’s Pop (ให้ภาพถ่ายดูคลาสสิคในสไตล์ภาพยนตร์วินเทจ), Crisp (สร้างบรรยากาศโดยการเพิ่มโทนสีน้ำเงินโทนเย็นในบริเวณไฮไลท์ของภาพ), Cinematic (เน้นบุคลิกภาพผ่านคอนทราสต์ และคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างแสงและความมืด)
โหมด Night สามารถซูมได้ในช่วง 1x ถึง 10x มี Filters ที่แตกต่างไปจากโหมดอื่นๆ เช่น Golden, Warm & Cool, Pink & Teal และ Night City โหมด Video สามารถซูมได้ในช่วง 1x ถึง 10x รองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p หรือ HD 720p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยมี Filters และฟีเจอร์ Retouch เช่นเดียวกับโหมด Photo
กล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล
realme C75 ติดตั้งกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับโหมดถ่ายภาพ Photo ที่มีฟีเจอร์ Beauty สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดกว่ากล้องหลังไม่ว่าจะเป็นผิว, แก้ม, ขนาดดวงตา, ขนาดจมูก
โหมด Portrait ของกล้องหน้า มีฟีเจอร์ปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้เหมือนกล้องหลัง รวมถึงฟีเจอร์ Beauty ปรับแต่งใบหน้าได้อย่างละเอียด และมี Filters มากมายที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับภาพเซลฟี่ v
โหมด Video ของกล้องหน้า รองรับการถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p หรือ HD 720p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที เช่นเดียวกับกล้องหลัง โดยมีฟีเจอร์ Beauty และ Filters ให้ใช้งานด้วย โหมด Night ของกล้องหน้า ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยสว่างขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์ Beauty ที่สามารถปรับแต่งความงามบนใบหน้าได้ละเอียดแบบเดียวกับโหมด Photo ของกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่าย
ความสามารถด้าน AI ระดับเรือธง
เทคโนโลยี AI ไม่ได้จำกัดอยู่ในสมาร์ตโฟนเรือธงอีกต่อไป เพราะ realme C75 ได้นำ AI มาสู่ผู้ใช้งานในวงกว้าง ด้วยฟีเจอร์ AI Clear Face ที่ช่วยปรับภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่มีความเบลอ ให้คมชัด ดูมีชีวิตชีวา ได้อย่างง่ายๆ ในสัมผัสเดียว เพียงเข้าไปในแอป Photos เพื่อเลือกภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่ต้องการแก้ไข จากนั้นแตะที่ Edit แล้วเลือกเครื่องมือ AI Clear Face อัลกอริทึมปรับแต่งใบหน้าของ realme ก็จะแก้ไขภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่มีความเบลอให้ชัดเจนภายในเวลาไม่กี่วินาที
realme C75 ยังมีฟีเจอร์ AI Smart Loop แบบเดียวกับที่พบในเรือธง GT Series ของ realme มาอยู่ในสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น สามารถเปิดใช้งานได้จากแอป Settings > Accessibility & Convenience > AI Smart Loop เปิดฟังก์ชัน AI Smart Loop ให้ทำงาน แล้วเข้าไปที่เมนู Manage apps เพื่ออนุญาตแอปที่ต้องการใช้งานร่วมกับฟีเจอร์นี้
AI Smart Loop สามารถแนะนำแอปพลิเคชันที่คาดว่าผู้ใช้งานต้องการได้อย่างแม่นยำ ขณะเปิดดูคอนเท้นต์บนหน้าจอและต้องการแชร์ออกไปด้วยวิธีการแตะค้างไว้บนหน้าจอ realme C75 ก็จะแนะนำแอปที่คาดว่าผู้ใช้งานต้องการทางขวามือในรูปแบบวงล้อ
หลักการทำงานของ AI Smart Loop ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ Smart Recognition ช่วยระบุคอนเท้นต์หรือรูปภาพที่ต้องการ พร้อมคาดเดาการใช้งานในขั้นตอนถัดไป, Simplified Operations อินเทอร์เฟซวงล้อใหม่ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอนการทำงานให้น้อยลง และ Increased Efficiency ด้วยการคาดการณ์ของ AI ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดความยุ่งยากในการสลับระหว่างแอปต่างๆ ทำให้การใช้งานรวดเร็วยิ่งขึ้น
ชิป Helio G92 Max ทรงพลัง RAM สูงสุด 24GB
realme C75 ใช้ชิปประมวลผล Helio G92 Max Octa Core ความเร็วสูงสุด 2GHz ซึ่งเป็นชิป 4G ระดับกลางที่ทรงพลังของ MediaTek ให้ประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับการเล่นเกม Mobile Legends: Bang Bang ได้อย่างราบรื่นด้วยอัตราเฟรมสูงสุด 60 เฟรมต่อวินาที และทำคะแนนจากการทดสอบประสิทธิภาพบนแอปพลิเคชัน AnTuTu ได้ 275423 คะแนน
ที่น่าสนใจก็คือ realme C75 มีความจำขนาดใหญ่ โดยทีมงาน @flashfly ได้รับรุ่นที่มี RAM 8GB (LPDDR4X) จับคู่กับ ROM 256GB (eMMC 5.1) พร้อมรองรับฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ได้ 3 ขนาด 6GB / 8GB / 16GB จึงเปรียบเสมือนมีความจำ RAM สูงสุด 24GB
สรุปราคาและการจำหน่าย
realme C75 มีจุดเด่นที่ดีไซน์สวยงามพรีเมียม และถูกสร้างมาให้มีความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษตามสโลแกน “กันน้ำ กันกระแทก ไร้กังวล” ซึ่งเป็นการฉีกกฎสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น และยกระดับสมาร์ตโฟนราคาประหยัดให้มีคุณภาพขึ้นไปอีกขั้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่า realme C75 จะอยู่คู่กับผู้ใช้งานไปอย่างยาวนานหลายปี ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนเครื่องบ่อย
realme C75 เปิดราคาทางการในประเทศไทยในรุ่นความจุ 8GB+128GB ราคา 5,999 บาท และรุ่นความจุ 8GB +256GB ราคา 6,999 บาท วางจำหน่ายวันแรก 6 ธันวาคม 2567 ตามช่องทางที่กำหนด