vivo เอาใจคนรักสุขภาพและแฟชันด้วยสมาร์ตวอตช์รุ่นใหม่ vivo Watch 3 ที่ให้ทั้งความสวยงามพรีเมียม และติดตามสุขภาพได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังเป็นสมาร์ตวอตช์รุ่นแรกที่ทำงานบน BlueOS ระบบปฏิบัติการที่ vivo พัฒนาขึ้นเอง มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ฟีเจอร์ติดตามการนอนหลับ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดออกซิเจนในเลือด และติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด
สเปก vivo Watch 3
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว รองรับ Always On Display
- ระบบปฏิบัติการ vivo BlueOS
- ความจำ RAM 64MB + ROM 4GB
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือด, ตรวจจับการเคลื่อนไหว, ไจโรสโคป, มาตรวัดความสูง, ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ
- ระบุตำแหน่ง GPS / GLONASS / BeiDou / Galileo / QZSS
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, NFC (ระบบบัตรคีย์การ์ดเท่านั้น)
- ผ่านการรับรองทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร (5ATM)
- แบตเตอรี่ 505mAh
- อายุการใช้งานนานสูงสุด 8 วัน (ใช้งานทั่วไป) / 16 วัน (สแตนด์บาย)
- ขนาดตัวเรือน 46.1 x 46.1 x 11.3 มม. (ความหนาไม่รวมส่วนนูน)
- น้ำหนัก 36 กรัม (ไม่รวมสาย)
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Asteroid Black และ Moonlight White
แกะกล่อง vivo Watch 3
vivo Watch 3 จัดส่งมาในกล่องทรงลูกบาศก์สีน้ำเงินเข้ม (แต่กล่องด้านในใช้สีขาว) พิมพ์ชื่อ vivo Watch ไว้บนฝากล่องอย่างชัดเจน เมื่อเปิดกล่องขึ้นมาก็จะพบกับสมาร์ทวอทช์เป็นอย่างแรก โดยติดตั้งสายนาฬิกามาให้แล้ว นอกจากนี้ ภายในกล่องยังมีแท่นชาร์จ พร้อมสายชาร์จยาว 80 เซนติเตร และคู่มือแนะนำการใช้งาน
ดีไซน์หรูหรา สวมใส่สบาย
ดีไซน์โดยรวมของ vivo Watch 3 เน้นความสวยงามพรีเมียมด้วยวัสดุคุณภาพสูง ตัวเรือนทำมาจากอลูมิเนียมอัลลอย บางเพียง 11.3 มิลลิเมตร น้ำหนักเบา 36 กรัม (ไม่รวมสาย) สามารถป้องกันน้ำได้ถึงระดับ 50 เมตร (5ATM) มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Asteroid Black และ Moonlight White
vivo Watch 3 สี Asteroid Black มาพร้อมสายซิลิโคนสีดำ ขนาด 141 – 216 มิลลิเมตร กว้าง 22 มิลลิเมตร ขณะที่ตัวเรือนสี Moonlight White จะได้รับสายหนังสีขาวที่เข้ากัน ขนาด 147 – 210 มิลลิเมตร กว้าง 22 มิลลิเมตร โดยสายสามารถถอดออกเปลี่ยนได้ง่ายมากๆ
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล AMOLED คมชัดขนาด 1.43 นิ้ว พร้อมระบบสัมผัส รองรับโหมด Always On Display ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 3D สวยงาม
ด้านข้างตัวเรือนโดดเด่นด้วยปุ่ม Digital Crown ผลิตด้วยวัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง ถัดลงมามีรูไมโครโฟน และ ปุ่มกดด้านข้างสำหรับเข้าเมนูออกกำลังกายแบบด่วน
ส่วนอีกข้างมีช่องลำโพง และรูไมโครโฟนอีก 2 ตัว โดยลำโพงจะสามารถไล่น้ำออกจากตัวเครื่อง เมื่อปิดโหมดว่ายน้ำ
ด้านหลังเป็นพื้นที่ของเซ็นเซอร์วัดสุขภาพ, Pogo Pin สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และ ปุ่มปลดล็อคสาย 2 ปุ่ม ติดตั้งไว้ที่ขอบบนและขอบล่าง ช่วยให้เปลี่ยนสายได้อย่างง่ายได้
หน้าจอขอบโค้ง 3D ขนาดใหญ่
vivo Watch 3 มาพร้อมหน้าปัดวงกลมขนาดใหญ่ ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 3D ช่วยเสริมให้ตัวเรือนดูหรูหรา ใช้จอแสดงผล AMOLED (วัสดุหน้าจอ LTPS) ระบบสัมผัสที่แม่นยำ ไม่ว่าจะแตะหรือปัดนิ้ว โดยมีความละเอียด 466 × 466 พิกเซล ขนาด 1.43 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 1000 นิต ในโหมด HBM (ความสว่างทั่วไป 450 นิต) รองรับขอบเขตของสี 105% NTSC และให้อัตราการรีเฟรช 60Hz
จอแสดงผลของ vivo Watch 3 รองรับโหมด Always On Display สามารถดูข้อมูลสำคัญบนหน้าจอได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และสามารถเปลี่ยนหน้าปัดได้อย่างสะดวก มีหน้าปัดให้เลือกหลายแบบ
เซ็นเซอร์วัดสุขภาพแบบ Multi-Channel Star Ring
vivo Watch 3 รองรับการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือด โดยอาศัยเซ็นเซอร์แบบ Star Ring หลายช่อง ประกอบด้วย Tricolor-LED (5 ช่อง) และ เซ็นเซอร์ Photodiode (4 ช่อง)
Tricolor-LED ประกอบด้วย สีเขียว, สีแดง และ แสงอินฟราเรด โดย LED สีเขียว ใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ร่วมกับแสงอินฟราเรด สำหรับติดตามอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การวัดออกซิเจนในเลือด จะใช้ LED สีแดง รวมถึงแสงอินฟราเรด ทำงานร่วมกับอัลกอริทึมอัตราการเต้นของหัวใจที่ล้ำสมัย สามารถประมวลผลสัญญาณ PPG ได้แม่นยำมากขึ้น
vivo Watch 3 ยังสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือดตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง และยังมีระบบแจ้งเตือนทันที หากพบว่าผู้สวมใส่มีอัตราการเต้นของหัวใจหรือออกซิเจนในเลือดผิดปกติ
ติดตามการนอนหลับ
อย่างที่กล่าวไปแล้ว vivo Watch 3 ยังสามารถติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมง นั่นรวมถึงเวลานอนหลับพักผ่อนด้วย โดยใช้แสงอินฟราเรดช่วยตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างนอนหลับ จึงไม่รบกวนการนอน อีกทั้ง ยังรู้สึกพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เนื่องจาก vivo Watch 3 มีดีไซน์ที่บางเบาเป็นพิเศษ ทำให้สวมใส่ได้สบาย ไม่รู้สึกรำคาญเมื่อสวมใส่ระหว่างนอนหลับ
เมื่อตื่นนอนในเช้าวันใหม่ ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลการนอนหลับได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาหลับลึก หลับตื้น พร้อมให้คะแนนการนอน เพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนในคืนถัดไป และยังสามารถติดตามการงีบหลับได้อีกด้วย
ฟีเจอร์ติดตามการงีบหลับ (Nap Monitoring) จะคำนวณค่าได้เมื่อมีการงีบหลับเป็นเวลา 30 นาที ขึ้นไป โดยจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Sleeping Heart Rate (อัตราการเต้นของหัวใจขณะนอนหลับ) และ Baseline Sleep Heart Rate (อัตราการเต้นของหัวใจขณะนอนหลับที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด)
ติดตามกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
นอกจากติดตามการนอนหลับ อัตราการเต้นของหัวใจและออกซิเจนในเลือด vivo Watch 3 ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ ด้านร่างกายสามารถติดตามการทำกิจกรรมตลอดทั้งวัน โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ นับก้าวเดิน, การเผาผลาญแคลอรี่, ระยะเวลาการยืน และ กิจกรรมที่มีความเข้มข้นปานกลางถึงสูง
ผู้ใช้งานสามารถกำหนดเป้าหมายการทำกิจกรรมทั้ง 4 ประเภทข้างต้น และเมื่อทำสำเร็จ จะได้รับเหรียญรางวัล เพื่อสร้างแรงกระตุ้นให้มีการขยับร่างกายตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ vivo Watch 3 มีฟีเจอร์ตรวจวัดระดับความเครียด พร้อมแจ้งเตือนผู้สวมใส่ หากพบว่ามีความเครียดในระดับสูง เพื่อให้ผู้สวมใส่ผ่อนคลายความเครียดลงมา หรือ ใช่ฟีเจอร์ฝึกการหายใจ เพื่อช่วยบรรเทาความเครียด หรือทำสมาธิให้จิตใจสงบ
ติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด
vivo Watch 3 สามารถติดตามการออกกำลังกายได้ 9 ประเภท ครอบคลุมมากกว่า 100 ชนิดกีฬา จึงตอบโจทย์ผู้ใช้งานตั้งแต่บุคคลทั่วไปที่รักการออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงนักกีฬามืออาชีพ และด้วยการออกแบบมาให้สามารถทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร (5ATM) จึงสามารถสวมใส่เพื่อติดตามการว่ายน้ำในสระได้อีกด้วย
ตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
นอกเหนือจากการดูแลสุขภาพ vivo Watch 3 ยังมาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะที่ช่วยตอบสนองการใช้งานของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ตรวจจับเสียงรบกวน, ควบคุมเพลง, การโทรผ่านบลูทูธ และ ควบคุมแบบไร้สัมผัส
ฟีเจอร์ตรวจจับเสียงรบกวน จะคอยแจ้งเตือนผู้สวมใส่ เมื่ออยู่ในบริเวณที่มีเสียงดังนานเกินไป พร้อมบอกระดับความดังของเสียง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในการได้ยิน
vivo Watch 3 มีลำโพงและไมโครโฟนในตัว จึงสามารถรับสายได้ทันทีจากข้อมือ เมื่อมีคนโทรเข้ามาในสมาร์ตโฟนที่จับคู่กัน อีกทั้งยังสามารถดูประวัติการโทร และ โทรออกได้โดยตรงจาก vivo Watch 3
ฟีเจอร์ควบคุมเพลง สามารถใช้ vivo Watch 3 ควบคุมการเล่นเพลงจากสมาร์ตโฟนที่จับคู่กัน พร้อมทางลัดในการเปิดเครื่องเล่นเพลงได้อย่างรวดเร็ว
vivo Watch 3 ยังรองรับการควบคุมแบบไร้สัมผัส ซึ่งอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว จึงสามารถควบคุมบางฟีเจอร์เพียงแค่พลิกข้อมือ อาทิ รับสาย หรือ ปิดเสียงปลุก
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
vivo Watch 3 มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว ที่มีความจุขนาด 505mAh จึงสามารถสแตนด์บายได้ยาวนานสูงสุด 16 วัน และรองรับการใช้งานทั่วไปในโหมดบลูทูธถึง 8 วัน หรือนานเกินสัปดาห์ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ทุกวัน แม้จะใช้งานอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นติดตามการออกกำลังกาย ติดตามสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงติดตามการนอนหลับ และใช้โทรบลูทูธ นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ได้อย่างรวดเร็วในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
สรุปราคาและการจำหน่าย
vivo Watch 3 เป็นสมาร์ตวอตช์ที่มีดีไซน์สวยงามพรีเมียม น้ำหนักเบา มอบความสบายให้กับข้อมือ และเข้ากันได้กับทุกแฟชันการแต่งกายในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันยังมาพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ และการออกกำลังกายที่ครอบคลุม ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่เริ่มหันมาดูแลสุขภาพ และเริ่มออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นจะเป็นกีฬาทางบก ว่ายน้ำ หรือใช้เครื่องออกกำลังกายตามฟิตเนส นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย เมื่อจับคู่กับสมาร์ตโฟน
vivo Watch 3 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำแอสเทียรอยด์ แบล็ก (Asteroid Black) ในราคา 6,499 บาท และสีขาวมูนไลท์ ไวท์ (Moonlight White) ในราคา 6,999 บาท โดยผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 24 ตุลาคม – 3 พฤจิกายน 2567 ผ่านทุกช่องทางการจำหน่าย จะได้สิทธิ์รับของสมนาคุณเป็น หูฟัง TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท)