วันนี้คุณสามารถใช้ Apple Intelligence เพื่อปรับการเขียนให้สวยงาม รวมถึงสรุปเนื้อหาการแจ้งเตือน อีเมล และข้อความ ทั้งยังได้สัมผัสประสบการณ์ Siri ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นและมากความสามารถยิ่งขึ้น รวมถึงลบวัตถุรบกวนสายตาออกจากภาพถ่ายด้วยฟีเจอร์ Clean Up และอีกมากมาย
วันนี้ Apple ได้ประกาศการเปิดให้ใช้งานสำหรับผู้ใช้ iPhone, iPad และ Mac ด้วยคุณสมบัติชุดแรกของ Apple Intelligence ได้แล้วผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีเป็น iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 โดย Apple Intelligence เป็นระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่อาศัยขุมพลังของ Apple Silicon เพื่อทำความเข้าใจ สร้างภาษาและรูปภาพ ทำสิ่งต่างๆ ระหว่างแอป รวมถึงดึงบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ออกมาเพื่อช่วยให้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับพัฒนาเรื่องความเป็นส่วนตัวใน AI ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น และวันนี้ถือเป็นวันแรกที่สามารถใช้งานคุณสมบัติชุดแรกได้ ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ที่ยังมีอีกมากมายจะทยอยเปิดให้ใช้งานในเดือนต่อๆ ไป
“Apple Intelligence ถือเป็นการเริ่มต้นสู่ยุคใหม่สำหรับ iPhone, iPad และ Mac ด้วยการมอบประสบการณ์การใช้งานและเครื่องมือใหม่ล่าสุดที่จะพลิกโฉมสิ่งที่ผู้ใช้ของเราสามารถทำได้” Tim Cook ซึ่งเป็น CEO ของ Apple กล่าว “Apple Intelligence สร้างขึ้นบนพื้นฐานของนวัตกรรมด้าน AI และการเรียนรู้ของระบบที่พัฒนาต่อเนื่องมานานหลายปีเพื่อนำเจเนอเรทีฟโมเดลของ Apple มาใช้เป็นหัวใจสำคัญในอุปกรณ์ของเรา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้มีระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลที่ใช้ง่ายโดยที่ยังคงปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ เรียกได้ว่า Apple Intelligence เป็นเจเนอเรทีฟ AI ในแบบเฉพาะที่มีเพียง Apple เท่านั้นที่มอบให้ได้ และเราตื่นเต้นอย่างยิ่งกับความสามารถของ Apple Intelligence ที่จะยกระดับชีวิตของผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น”
“Apple Intelligence ปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ อันน่าตื่นเต้นที่จะทำให้ iPhone, iPad และ Mac มีประโยชน์และช่วยผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่เครื่องมือการเขียนที่จะช่วยปรับการเขียนให้สวยงาม สรุปการแจ้งเตือนที่จะดันสิ่งสำคัญที่สุดขึ้นมาให้เห็น หรือความสามารถในการค้นหาได้แทบทุกอย่างในภาพถ่ายและวิดีโอ เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย” Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของ Apple กล่าว “Apple Intelligence ยังสร้างขึ้นบนพื้นฐานด้านความเป็นส่วนตัวด้วยการประมวลผลบนอุปกรณ์และการประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว ซึ่งเป็นแนวทางใหม่สุดล้ำที่จะขยายขอบเขตความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ iPhone ไปสู่ระบบคลาวด์เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ และเรายินดีอย่างยิ่งที่ได้นำคุณสมบัติชุดแรกของ Apple Intelligence มาอยู่ในมือของผู้ใช้ในวันนี้ และนี่ก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”
เครื่องมือการเขียนที่ครอบคลุมทั้งระบบ
Writing Tools หรือเครื่องมือการเขียนผสานรวมเข้ากับทุกส่วนใน iOS, iPadOS และ macOS เพื่อให้ผู้ใช้สามารถขัดเกลาภาษาให้สวยงามโดยการปรับการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้เกือบทุกที่ที่เขียน ทั้งในแอปเมล, ข้อความ, โน้ต, Pages และแอปของบริษัทอื่น
เริ่มจาก Rewrite หรือ “ปรับการเขียน” ใน Apple Intelligence ซึ่งให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เขียนไปจากหลายเวอร์ชั่นที่มีให้ และปรับน้ำเสียงว่าต้องการให้ดูเป็นมืออาชีพ กระชับ หรือเป็นมิตร เพื่อให้เข้ากับผู้อ่านและงานที่ทำอยู่ ถัดมาคือ Proofread หรือ “พิสูจน์อักษร” ที่จะตรวจสอบไวยากรณ์ คำที่เลือกใช้ และโครงสร้างประโยค ขณะเดียวกันยังแนะนำสิ่งที่ควรแก้ รวมถึงคำอธิบายว่าทำไมจึงควรแก้ ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจทานดูก่อนหรือจะยอมรับเลยก็ได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเลือกข้อความเพื่อให้สรุปออกมาในรูปแบบของย่อหน้า หัวข้อย่อย ตาราง หรือรายการที่ดูแล้วเข้าใจง่าย
การพูดคุยกับ Siri ที่เป็นธรรมชาติและลื่นไหลขึ้น
Siri มีความเป็นธรรมชาติ ยืดหยุ่น และผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกับประสบการณ์ทั้งระบบมากขึ้น และมาในดีไซน์ใหม่ที่จะส่องแสงเรืองๆ อย่างสวยงามบริเวณโดยรอบของขอบหน้าจอ iPhone, iPad หรือ CarPlay ในขณะที่บน Mac ผู้ใช้สามารถวาง Siri ไว้ตรงไหนก็ได้บนเดสก์ท็อปเพื่อให้เรียกใช้ได้ง่ายขณะทำงาน และผู้ใช้สามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri ได้ทุกเมื่อบน iPhone, iPad และ Mac ทั้งยังสามารถสลับไปมาระหว่างเสียงและข้อความได้อย่างลื่นไหลขณะใช้งาน Siri เพื่อเพิ่มความรวดเร็วให้กับสิ่งที่ทำเป็นประจำทุกวัน และด้วยความสามารถในการเข้าใจภาษาที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น Siri จึงสามารถจับใจความได้ถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกัก และสามารถรักษาบริบทของบทสนทนาก่อนหน้าแล้วนำไปปรับใช้สำหรับบทสนทนาถัดไปได้ นอกจากนี้ Siri ยังมีความรอบรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มากขึ้น Siri จึงสามารถตอบหลายพันคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติและการตั้งค่าของผลิตภัณฑ์ Apple ได้ ทีนี้ผู้ใช้ก็สามารถเรียนรู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่การบันทึกวิดีโอหน้าจอ จนถึงวิธีง่ายๆ ในการแชร์รหัสผ่าน Wi-Fi
แอปรูปภาพที่ฉลาดยิ่งขึ้น
แอปรูปภาพชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นด้วยความสามารถใหม่ๆ มากมาย โดยผู้ใช้สามารถค้นหาได้แทบทุกอย่างด้วยภาษาธรรมชาติ เพียงแค่พิมพ์คำอธิบายของสิ่งที่ต้องการค้นหา เช่น “Maya skateboarding in a tie-dye shirt” (มายาใส่เสื้อมัดย้อมเล่นสเก็ตบอร์ด) และวิธีนี้ยังใช้งานกับวิดีโอได้ด้วย ผู้ใช้จึงสามารถค้นหาสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงใดช่วงหนึ่งของวิดีโอ แล้วเปิดดูช่วงนั้นได้โดยตรง นอกจากนี้การค้นหายังฉลาดถึงขั้นแสดงคำแนะนำเพื่อช่วยเติมเต็มข้อความค้นหาและช่วยให้ผู้ใช้หาสิ่งที่ต้องการเจอได้อย่างรวดเร็ว
หากมีบุคคลหรือวัตถุไม่พึงประสงค์เข้ามาอยู่ในภาพ ก็สามารถใช้เครื่องมือ Clean Up หรือ “ลบออก” เพื่อลบสิ่งรบกวนสายตาออกไปโดยไม่ส่งผลต่อภาพต้นฉบับในแบบที่ผู้ใช้ต้องการถ่ายทอด
หยุดฉายวีดีโอ: เครื่องมือ Clean Up
เครื่องมือ Clean Up ใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence ช่วยให้ผู้ใช้สามารถลบสิ่งรบกวนสายตาออกจากรูปภาพโดยยังคงความสวยงามของโมเม้นท์ที่ผู้ใช้ต้องการจะถ่ายทอด
วันนี้คุณสมบัติความทรงจำให้ผู้ใช้สร้างภาพยนตร์ที่อยากดู เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย1 จากนั้น Apple Intelligence จะใช้ความเข้าใจในภาษาและรูปภาพเพื่อเลือกภาพถ่ายและวิดีโอที่ดีที่สุดตามคำอธิบายของผู้ใช้ จากนั้นจึงนำมารังสรรค์เป็นสตอรี่ไลน์ที่แยกออกเป็นบทต่างๆ ไม่ซ้ำกันตามธีมที่พบในภาพ แล้วนำทั้งหมดมาร้อยเรียงเข้าด้วยกันเป็นภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่องเป็นของตัวเอง
วิธีใหม่ๆ ในการจัดลำดับความสำคัญและช่วยให้โฟกัสอยู่เสมอ
วันนี้ผู้ใช้สามารถจัดการกับอีเมลได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคย ด้วยคุณสมบัติการคัดข้อความที่สำคัญ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ด้านบนของอินบอกซ์ที่จะแสดงอีเมลที่ด่วนที่สุด อย่างเช่นอีเมลเชิญไปทานข้าวเที่ยงในวันเดียวกัน หรืออีเมลแสดงข้อมูล Boarding Pass และผู้ใช้ยังสามารถดูสรุปทั่วทั้งอินบอกซ์ได้โดยไม่ต้องเปิดอ่านอีเมล หรือหากเป็นอีเมลที่โต้ตอบกันไปมาหลายฉบับ ก็สามารถแตะหรือคลิกที่ Summarize หรือ “สรุป” เพื่อดูสาระสำคัญได้ นอกจากนี้ยังมีการตอบกลับอัจฉริยะ ซึ่งจะแนะนำข้อความตอบกลับอย่างง่าย และตรวจหาคำถามในอีเมลเพื่อให้มั่นใจว่าตอบครบทุกคำถามแล้ว
Apple Intelligence ช่วยผู้ใช้จัดลำดับความสำคัญและมีสมาธิอยู่กับช่วงเวลานั้นด้วยการสรุปการแจ้งเตือนที่ช่วยให้ผู้ใช้สแกนการแจ้งเตือนยาวๆ หรือที่ซ้อนกันอยู่เพื่อดูรายละเอียดสำคัญบนหน้าจอล็อคได้ทันที อย่างเวลาที่แชทกลุ่มกำลังคุยกันอย่างจริงจัง พร้อมด้วยโหมดโฟกัสใหม่อย่าง Reduce Interruptions หรือ “ลดการรบกวน” ที่จะแสดงเฉพาะการแจ้งเตือนที่อาจต้องโต้ตอบในทันที
วันนี้ผู้ใช้สามารถบันทึก ถอดข้อความ และสรุปเนื้อหาจากเสียงได้ในแอปโน้ตและโทรศัพท์ โดยเมื่อมีการเริ่มบันทึกเสียงในแอปโทรศัพท์ในขณะที่ผู้ใช้คุยโทรศัพท์ ผู้ที่อยู่ในสายจะได้รับการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ และเมื่อวางสาย Apple Intelligence ก็จะสร้างสรุปเพื่อช่วยทบทวนประเด็นสำคัญ
อีกหลายคุณสมบัติที่กำลังจะตามมา
คุณสมบัติใหม่ของ Apple Intelligence จะพร้อมให้ใช้งานในเดือนธันวาคม และจะมีความสามารถใหม่ๆ เพิ่มมาอีกในเดือนต่อๆ ไป
Apple Intelligence จะเพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการถ่ายทอดความเป็นตัวเองของผู้ใช้ เริ่มจากอิโมจิที่ล้ำไปอีกระดับอย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อนด้วยความสามารถในการสร้าง Genmoji ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย และสามารถปรับแต่งโดยใช้รูปภาพของเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวในคลังได้ หรือจะเป็น Image Playground ที่ให้ผู้ใช้สร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึง Image Wand ที่จะทำให้โน้ตดูน่าสนใจยิ่งขึ้นโดยการเปลี่ยนภาพสเก็ตช์คร่าวๆ เป็นภาพที่สวยงาม และเมื่อผู้ใช้วงพื้นที่ว่างๆ Image Wand ก็จะสร้างภาพขึ้นมาโดยใช้บริบทจากพื้นที่รอบข้าง
หยุดฉายวีดีโอ: Image Playground
Image Playground ให้ผู้ใช้สร้างรูปภาพสนุกๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ในเดือนธันวาคม เครื่องมือการเขียนจะทรงพลังยิ่งขึ้นโดยผู้ใช้สามารถอธิบายได้อย่างเจาะจงว่าต้องการปรับเปลี่ยนข้อความอย่างไร อย่างเช่นการปรับคำเชิญมาร่วมปาร์ตี้ดินเนอร์ให้ฟังดูเหมือนกลอน หรือเพิ่มคำที่เป็นการกระทำที่มีความหลากหลายมากขึ้นในเรซูเม่ และผู้ใช้ยังมีตัวเลือกในการเข้าถึงความรู้ระดับโลกหลากหลายแขนงของ ChatGPT ภายในเครื่องมือการเขียนและ Siri ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์จากความสามารถในการเข้าใจรูปภาพและเอกสารของ ChatGPT โดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างเครื่องมือต่างๆ
ในเดือนธันวาคมนี้ ผู้ใช้ยังจะได้พบกับประสบการณ์การใช้งานระบบอัจฉริยะด้านภาพใหม่ที่สร้างขึ้นบน Apple Intelligence และช่วยผู้ใช้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุและสถานที่ได้ทันทีโดยอาศัยตัวควบคุมกล้องใหม่บนกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 162 โดยผู้ใช้จะสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับร้านอาหารที่อยู่ตรงหน้าและโต้ตอบกับข้อมูลนั้น เช่น แปลข้อความจากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง3 และตัวควบคุมกล้องยังทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมเข้าสู่เครื่องมือของบริษัทอื่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อย่างเวลาที่ผู้ใช้ต้องการค้นหาด้วย Google เพื่อหาว่าจะซื้อของที่ต้องการได้จากที่ไหน หรือต้องการใช้ประโยชน์จากทักษะการแก้ปัญหาของ ChatGPT โดยที่ผู้ใช้ยังคงควบคุมได้ว่าจะใช้เครื่องมือของบริษัทอื่นเมื่อใดและแชร์ข้อมูลอะไรบ้าง
ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า คุณสมบัติการแจ้งเตือนที่มีความสำคัญจะดันสิ่งสำคัญที่สุดขึ้นมาแสดง และ Siri จะเก่งมากยิ่งขึ้นด้วยความสามารถในการดึงบริบทเฉพาะตัวของผู้ใช้ออกมาเพื่อนำเสนอสิ่งดีๆ ที่ชาญฉลาดและเหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน นอกจากนี้ Siri ยังจะรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอ และทำสิ่งใหม่ๆ ได้หลายร้อยอย่างทั้งในและระหว่างแอปของ Apple และแอปของบริษัทอื่น
การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่ล้ำสมัย
Apple Intelligence ออกแบบมาเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ในทุกขั้นตอนโดยใช้การประมวลผลบนอุปกรณ์ ซึ่งหมายความว่าหลายๆ โมเดลที่ขับเคลื่อนการทำงานของ Apple Intelligence จะทำงานทั้งหมดบนอุปกรณ์ และสำหรับคำขอที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งต้องใช้พลังการประมวลผลมากขึ้น ก็มี Private Cloud Compute หรือการประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว ซึ่งจะขยายขอบเขตความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของอุปกรณ์ Apple ไปยังระบบคลาวด์เพื่อปลดล็อคความอัจฉริยะที่มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะเมื่อใช้การประมวลผลบนคลาวด์แบบส่วนตัว จะไม่มีการจัดเก็บหรือแชร์ข้อมูลของผู้ใช้กับ Apple อย่างเด็ดขาด และจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อทำตามคำขอเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมที่ผู้เชี่ยวชาญอิสระสามารถตรวจสอบโค้ดที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ Apple Silicon ได้ตลอดเวลาเพื่อยืนยันว่ามีการปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านความเป็นส่วนตัว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับความเป็นส่วนตัวใน AI
ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเปิดใช้การผนวกรวมกับ ChatGPT หรือไม่ ซึ่งจะมีให้ใช้งานเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ Siri, เครื่องมือการเขียน หรือระบบอัจฉริยะด้านภาพที่ใช้ร่วมกับตัวควบคุมกล้อง นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึง ChatGPT ได้ฟรีโดยไม่ต้องสร้างบัญชี และมั่นใจได้ว่าจะได้รับการปกป้องความเป็นส่วนตัวโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ทั้งการอำพรางที่อยู่ IP และการที่ OpenAI ไม่จัดเก็บข้อมูลคำขอ แต่ถ้าเลือกที่จะเชื่อมต่อกับบัญชีของตนเอง ก็จะได้รับการคุ้มครองจากนโยบายการใช้ข้อมูลของ OpenAI
ความพร้อมใช้งาน
- คุณสมบัติชุดแรกของ Apple Intelligence พร้อมให้ใช้งานแล้ววันนี้ในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีเป็น iOS 18.1, iPadOS 18.1 และ macOS Sequoia 15.1 และสามารถใช้งานได้ในภูมิภาคส่วนใหญ่ทั่วโลกเมื่อตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์และ Siri เป็นภาษาอังกฤษแบบสหรัฐอเมริกา (U.S. English)
- Apple Intelligence กำลังเร่งทยอยเพิ่มการรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติม ในเดือนธันวาคม Apple Intelligence จะพร้อมให้ใช้งานในภาษาอังกฤษท้องถิ่นแบบออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ แอฟริกาใต้ และสหราชอาณาจักร และในเดือนเมษายนจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อรองรับภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมโดยจะมีการเพิ่มภาษาที่รองรับตลอดทั้งปี และจะทยอยรองรับภาษาจีน, อังกฤษ (อินเดีย), อังกฤษ (สิงคโปร์), ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, โปรตุเกส, สเปน, เวียดนาม และภาษาอื่นๆ
- Apple Intelligence ใช้งานได้บน iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, iPad พร้อมชิป A17 Pro หรือ M1 และใหม่กว่า และ Mac พร้อมชิป M1 และใหม่กว่า