vivo ยังคงบุกตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วยซีรีย์ Y น้องใหม่ล่าสุด ที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆมากมายกับ vivo Y200 5G สมาร์ตโฟน ‘สุดทน! ท้าชนทุกสเปก’ แถมยังมาพร้อมไฟ Aura Light ที่จะมาช่วยยกระดับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตไปอีกขั้นที่ปกติจะมีในรุ่น V Series เท่านั้น ตัวเครื่องดีไซน์บางเบา แต่ทนทานต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน แบตเตอรี่ชาร์จไว 80W FlashCharge ใช้งานได้ยาวๆ 4 ปี มีให้เลือกถึง 3 สีเลย โดยเฉพาะสีเงินไทเทเนียมที่ออกแบบมาได้สวยงามพรีเมียมอย่างมาก ซึ่งตอนนี้ได้เดินทางอยู่ในมือของทีมงาน @flashfly เรียบร้อยแล้ว
สเปก vivo Y200 5G
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz
- กล้องหลัก 50MP Main Camera + 8MP Ultra Wide Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 4 Gen 2
- ความจำ RAM 8GB (LPDDR4X) + ROM 256GB (UFS 2.2) ขยาย RAM ได้สูงสุด 8GB ผ่านฟีเจอร์ Extended RAM
- รองรับการเพิ่มการ์ด microSD สูงสุด 2TB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi (2.4/5GHz), Bluetooth 5.0, OTG, USB Type-C (USB 2.0)
- เซ็นเซอร์ Accelerometer, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, E-compass, Gyroscope
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- ระบุตำแหน่ง GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS
- ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 บนพื้นฐาน Android 14 (Funtouch OS 15 บน Android 15 พร้อมให้อัปเดตภายในเดือนกุมภาพันธ์ 68)
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP64
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 80W FlashCharge
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titanium Silver, Dynamic Black และ Dreamy Violet
แกะกล่อง vivo Y200 5G
vivo Y200 5G ติดชื่อรุ่นไว้บนหน้ากล่องอย่างชัดเจน พร้อมด้วยรูปภาพสมาร์ตโฟนที่เผยให้เห็นดีไซน์ด้านหลังและบางส่วนของด้านหน้า มุมบนระบุขนาดความจำ RAM 8GB + ROM 256GB และบอกจุดเด่นไว้ที่หลังกล่อง 4 อย่าง ได้แก่ ชาร์จเร็ว 80W พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน 4 ปี, ไฟ AI Aura Light, จอแสดงผล AMOLED ให้อัตรารีเฟรช 120Hz และ รับประกันสุขภาพแบตเตอรี่นาน 4 ปี
ภายในกล่องจะพบกับสมาร์ตโฟน vivo Y200 5G ที่มีแบตเตอรี่ในตัว, เคสใส, คู่มือ Quick Start Guide, ข้อมูลสำคัญและบัตรรับประกัน, เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด, สายชาร์จ และ หัวชาร์จ 80W Power Adapter นอกจากนี้ vivo Y200 5G ยังได้รับการติดฟิล์มกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว จึงพร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่แกะกล่อง ไม่ต้องเสียเวลาหาซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
ดีไซน์บางเบา ทนทาน
vivo Y200 5G มาพร้อมสโลแกน “สุดทน! ท้าชนทุกสเปก” ซึ่งชัดเจนว่ามีจุดเด่นในเรื่องของความทนทาน โดยออกแบบโครงสร้างมาให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวลจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ไม่ว่าจะทำสมาร์ตโฟนหลุดมือขณะล้วงออกมาจากกระเป๋า หรือ เผลอเอามือไปปัดจนตกโต๊ะโดยไม่ทันระวัง
เบื้องหลังความทนทานของ vivo Y200 5G มาจากกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพ และผ่านการทดสอบมาตรฐานความทนทานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการ Micro Drop Test ไปจนถึงการทดสอบปุ่มกดทั้งหมด และทดสอบพอร์ตเชื่อมต่อ รวมไปถึงการทดสอบ vivo Y200 5G ในสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด
นอกจากความแข็งแกร่ง vivo Y200 5G ยังได้รับมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่นที่ระดับ IP64 ซึ่งเพียงพอสำหรับการป้องกันน้ำหกใส่ รวมถึงละอองฝน เรียกได้ว่า vivo Y200 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความทนทานเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน และยังมีดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียมอีกด้วย
vivo Y200 5G ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Dynamic Black, สีม่วง Dreamy Violet ขณะที่ทีมงาน @flashfly ได้รับสีเงิน Titanium Silver มารีวิว ซึ่งถือเป็นสีไฮไลท์ที่ vivo ภูมิใจนำเสนอ
สีเงิน Titanium Silver มีจุดเด่นที่ดีไซน์ Diamond Starry Texture บนฝาหลัง เมื่อสะท้อนกับแสงไฟจะให้เอฟเฟกต์เปล่งประกายระยิบระยับ ให้ภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา ทันสมัย
สีม่วง Dreamy Violet มาในเฉดสีที่นุ่มนวล ดูดีมีเสน่ห์ เพิ่มความโดดเด่นให้กับฝาหลังด้วยพื้นผิว 3D Petal Texture ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของดอกไม้
สีดำ Dynamic Black ให้ความรู้สึกลึกลับด้วยการไล่เฉดสีระหว่างสีดำกับสีม่วงเข้ม ซึ่งช่วยเสริมให้ภาพรวมมีความหรูหราพรีเมียม
มุมมองด้านหน้าเป็นพื้นที่ของจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว โดยมีขอบหน้าจอที่บางเป็นพิเศษ และบางเท่ากันรอบด้าน จนทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงเกือบ 92% ตอกย้ำดีไซน์สไตล์เดียวกับสมาร์ตโฟนเรือธงด้วยการเจาะหลุมเล็กๆ ไว้ตรงกึ่งกลาง สำหรับติดตั้งกล้องหน้า ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล และฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอ
สำหรับกล้องหลังซ่อนอยู่ในโมดูลกล้องที่ได้แรงบันดาลใจจากเพชรทรงสี่เหลี่ยม โดยมีกล้องหลัง 2 ตัว (กล้องหลัก + กล้องมุมกว้างพิเศษ) พร้อมไฟ AI Aura Light
ขอบด้านข้างมีความบางไม่ถึง 8 มิลลิเมตร มาพร้อมดีไซน์ขอบแบบ Metallic High-Gloss
ปุ่มปรับระดับเสียงออกแบบมาเป็นแถบยาว เนื่องจากรวมปุ่มเพิ่มเสียง กับปุ่มลดเสียง ไว้เป็นปุ่มเดียวกัน และวางอยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์
มุมมองด้านบนพบไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง
ด้านล่าง ประกอบด้วยลำโพงตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟนตัวหลัก และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Nano-SIM (ถ้าต้องการใส่การ์ด microSD จะสามารถวางซิมการ์ดได้เพียงช่องเดียว)
หน้าจอคมชัด ถนอมดวงตา
vivo Y200 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ใช้วัสดุเปล่งแสง E4 ของ Samsung โดยมีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ดีไซน์ขอบหน้าจอบางเฉียบ ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 91.9% มอบประสบการณ์การรับชมแบบไร้กรอบ
จอแสดงผลของ vivo Y200 5G ให้ความสว่างสูงสุดถึง 1800 นิต อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz รองรับขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 และความอิ่มตัวของสี 107% อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานด้านดูแลสายตาจาก SGS มั่นใจได้ว่าจอแสดงผลจะปล่อยแสงสีฟ้าออกมาในระดับต่ำ เพื่อถนอมดวงตาเมื่อจ้องมองหน้าจอเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ vivo Y200 5G ยังติดตั้งลำโพงคู่ (ด้านบนและด้านล่าง) รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง รวมถึงสนับสนุนเสียงคุณภาพสูงระดับ Hi-Res Audio และสามารถเพิ่มพลังเสียงให้ดังสะใจได้ถึง 300% จึงให้เสียงดังชัดเจนเมื่อใช้งานกลางแจ้ง ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบสนองความบันเทิงทั้งภาพและเสียงได้อย่างเต็มอิ่ม
กล้องหลัง 50MP พร้อมไฟ Aura Light
กล้องหลังของ vivo Y200 5G ได้รับการออกแบบมาอย่างสวยงาม โดยวางกล้อง Ultra Wide ไว้บนสุด ตามด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นไฟ AI Aura Light สามารถปรับความสว่างได้อัตโนมัติ 3 ระดับ พร้อมระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะ
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.76” รูรับแสง f/1.8
- กล้อง Ultra Wide 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ให้มุมมองภาพ 120 องศา
vivo Y200 5G ยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในช่วงราคาเดียวกัน ที่มาพร้อมไฟ Aura Light พร้อมระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI มาช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับภาพถ่ายพอร์ตเทรต แอปกล้องของ vivo Y200 5G รองรับโหมดถ่ายภาพ Night, Portrait, Photo, Video, 50MP, Pano, Documents, Slo-mo, Time-Lapse, Pro, Dual View และ Live Photo
โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x (เป็นการเปิดใช้งานกล้อง Ultra Wide) 1x 2x จนสูงสุด 10x เปิดไฟ Aura Light ได้จากแถบเครื่องมือด้านบน สามารถตั้งค่าให้เปิดอัตโนมัติ (ขึ้นอยู่กับสภาพแสงโดยรอบ), เปิด, เปิดตลอด โดยมีแถบให้เลื่อนปรับอุณหภูมิแสงได้
โหมด Photo ยังมีฟีเจอร์ Filters ช่วยเปลี่ยนโทนสีสำหรับภาพถ่ายทั่วไป และ Light Effect ช่วยเพิ่มเอฟเฟกต์แสงให้ภาพถ่ายบุคคลมีความน่าสนใจมากขึ้น
โหมด Portrait สามารถเปิดใช้งานแสง Aura Light ได้จากแถบเครื่องมือด้านบน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Style ให้เลือกใช้หลายแบบ เพื่อทำให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตโดดเด่นมากยิ่งขึ้น พร้อม Filters ช่วยเปลี่ยนโทนสีภาพ และ Light Effect ทำให้ภาพถ่ายพอร์ตเทรตน่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Beauty สำหรับปรับใบหน้าให้ดูดีขึ้น และฟีเจอร์ Postures ช่วยแนะนำท่าทางการถ่ายภาพ
โหมด Portrait ยังมีฟีเจอร์ Bokeh ที่มีเอฟเฟกต์ละลายฉากหลังให้เลือกหลายแบบ เช่น Hearts, Stars, Butterfly แต่ละแบบจะละลายแสงไฟของพื้นหลังไม่ว่าจะเป็นไฟประดับหรือไฟจากอาคารต่างๆ ให้สวยงามแตกต่างกันไปตามเอฟเฟกต์ที่เลือก
โหมด Night รองรับการซูมได้ในช่วง 0.6x ถึง 10x พร้อมด้วยฟีเจอร์ Style ซึ่งเป็น Filter สำหรับเปลี่ยนอารมณ์หรือโทนสีให้ภาพถ่ายในเวลากลางคืนมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อาทิ Black & Gold, Cyberpunk, Dreamy Spotlight, Textured Black & White, Blue Ice เป็นต้น และยังสามารถเปิดใช้งานแสงไฟ Aura Light ได้เช่นกัน
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x จนสูงสุด 10x รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที และสามารถควบคุมแสงไฟ Aura Light ได้เช่นกัน จากแถบเครื่องมือด้านบน โหมด Video ยังมีฟีเจอร์ Filter ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยปรับแต่งโทนภาพของวิดีโอในแบบที่ผู้ใช้งานต้องการ และฟีเจอร์ Beauty ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้ดูดีขึ้น
Aura Light
vivo Y200 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในเรนจ์ราคาเดียวกันที่มี Aura Light และระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะ พร้อมระบบ AI เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับภาพพอร์ตเทรต โดยสามารถปรับความสว่างอัตโนมัติได้ 3 ระดับ พร้อมระบบปรับอุณหภูมิอัจฉริยะตามสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นโทนเย็นหรือโทนอุ่น
ที่น่าสนใจก็คือ vivo Y200 5G ยังมีฟีเจอร์ AI Erase ช่วยลบวัตถุหรือบุคคลออกจากภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย และเติมฉากหลังที่หายไปได้อย่างแนบเนียน เหมือนไม่เคยมีวัตถุหรือบุคคลนั้นอยู่ในภาพถ่ายมาก่อน
กล้องหน้า 32MP
vivo Y200 5G ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.1” รูรับแสง f/2.45 รองรับการถ่ายเซลฟี่ด้วยโหมด Photo พร้อมด้วยฟีเจอร์ Aura screen light เปลี่ยนหน้าจอให้กลายเป็นแสงไฟออร่าช่วยเพิ่มความสว่างให้กับใบหน้าเมื่อเซลฟี่ในที่แสงน้อย สามารถปรับอุณหภูมิแสงเป็นโทนอุ่นหรือโทนเย็นได้ อีกทั้งยังมี Filters และ Light Effect ทำให้ภาพถ่ายเซลฟี่มีความน่าสนใจมากขึ้น
โหมด Portrait ของกล้องหน้า มีฟีเจอร์ Style, Filters และ Light Effect แบบกล้องหลัง ขณะที่ฟีเจอร์ Beauty สามารถปรับแต่งใบหน้าได้อย่างละเอียด พร้อมฟีเจอร์ Makeup ช่วยแต่งหน้า และ Postures แนะนำท่าทางการโพสท่า รวมถึงฟีเจอร์ Bokeh สำหรับปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลัง
โหมด Video ของกล้องหน้า สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที มีฟีเจอร์ Aura screen light แบบโหมด Photo พร้อมด้วยฟีเจอร์ Filters และ Beauty ที่สามารถปรับความงามบนใบหน้าได้อย่างละเอียด
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิป Snapdragon 4 Gen 2
vivo Y200 5G ตอบสนองการทำงานด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 4 Gen 2 ของ Qualcomm ที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร ใช้สถาปัตยกรรม 64-bit Octa Core ประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ ความเร็วสูงสุด 2.2GHz และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 6 คอร์ ความเร็วสูงสุด 1.95GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno ที่สนับสนุน API อย่าง OpenGL ES 3.2, OpenCL 2.0 และ Vulkan 1.1
ด้านความจำได้รับ RAM LPDDR4X จับคู่กับความจุ ROM UFS 2.2 มี 2 ตัวเลือก ได้แก่ RAM 8GB + ROM 256GB และ RAM 12GB + ROM 512GB โดยเวอร์ชัน RAM 8GB สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 8GB ขณะที่เวอร์ชัน RAM 12GB สามารถยืมความจุ ROM มาใช้เป็นความจำ RAM ชั่วคราวได้สูงสุด 12GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงถึง 24GB รองรับการทำงานแบบ Multitasking ได้อย่างลื่นไหล
ชาร์จเร็ว 80W FlashCharge ใช้งานได้ยาวๆ 4 ปี
อีกจุดเด่นของ vivo Y200 5G คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ที่ให้อายุการใช้งานยาวนาน และยังมีสุขภาพแบตเตอรี่ดีกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปถึง 2 เท่า การันตีว่าสามารถรักษาความจุในระดับ 80% หลังจากผ่านการชาร์จไปแล้ว 1,600 รอบ หรือ เทียบได้กับการใช้งานนาน 4 ปี โดยอาศัยเทคโนโลยี Smart Charging Engine 2.0 ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และเพิ่มความปลอดภัยระหว่างชาร์จ
vivo Y200 5G มีความจุแบตเตอรี่ 5000mAh รองรับการชมวิดีโอนานสูงสุด 15 ชั่วโมง หรือ ใช้โทรศัพท์ได้นาน 29 ชั่วโมง และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 80W FlashCharge สามารถชาร์จถึง 80% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลา 43 นาที (แถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้แล้วในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม)
ทั้งนี้ ผู้ใช้งาน vivo Y200 5G สามารถตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ได้ที่แอป Settings > Battery > Battery health and charging
สรุปราคาและการจำหน่าย
vivo Y200 5G พัฒนาต่อยอดมาจาก vivo Y100 5G โดยมุ่งเน้นไปที่ดีไซน์ใหม่ให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้น ทนน้ำทนฝุ่นเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันในบ้านเรา แต่ยังคงให้ภาพลักษณ์ที่หรูหราพรีเมียม อีกทั้งยังอัปเกรดกล้องหน้าให้มีความละเอียดสูงขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ตโฟนราคาหลักพันที่สามารถให้ประสบการณ์ระดับเรือธงได้ ทั้งดีไซน์ที่สวยงามทนทาน ถ่ายภาพพอร์ตเทรตสวย จอแสดงผลคมชัดสุขภาพแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ไม่ต่ำกว่า 80% ยาวนานถึง 4 ปี หรือต่อการชาร์จ 1,600 รอบ โดยถ้าหากพบว่าสุขภาพแบตลดต่ำกว่า 80% ในระยะเวลา 4 ปีแรก vivo ให้เปลี่ยนแบตได้ฟรี 1 ครั้ง (*เฉพาะลูกค้าที่ซื้อเครื่องวันที่ 25 ต.ค. 67 ถึงวันที่ 30 พ.ย. 67 เท่านั้น)
Y200 5G พร้อมให้ผู้ที่สนใจจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ใน 2 รุ่นความจุ ได้แก่ 8GB+256GB ในราคา 9,999 บาท และ 12GB+512GB ในราคา 12,999 บาท
- พิเศษสำหรับ vivo fans ที่สั่งซื้อ Y200 5G ทุกรุ่นความจุ ภายในวันที่ 25 ตุลาคม – 30 พฤจิกายน 2567 จะได้สิทธิ์ E-VIP รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ โดยสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ฟรี 1 ครั้ง (มูลค่า 999 บาท) หากสุขภาพลดลงต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลา 4 ปีแรก
- พิเศษยิ่งขึ้น! สำหรับผู้ที่สั่งซื้อภายในวันที่ 25 ตุลาคม – 3 พฤจิกายน 2567 ณ vivo Brandshop ทั่วประเทศและตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา สามารถรับส่วนลด 1,000 บาทเพื่อแลกซื้อ Watch 3 ในราคาพิเศษ พร้อมรับฟรี หูฟัง TWS 3e (มูลค่า 1,799 บาท)
#vivoY2005G #สุดทนท้าชนทุกสเปก