หลังจากที่ Sony ได้เปิดตัว PlayStation Portal และทำตลาดครั้งแรกในต่างประเทศเมื่อปลายปีที่ผ่านมาในที่สุดก็พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป โดยทีมงาน @flashfly ก็ไม่พลาดที่จะคว้ามารีวิวทันที เพราะนี่คืออุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเจ้าของคอนโซล PlayStation 5 และเหมาะสำหรับแฟนๆ PSP หรือ PS Vita ที่คิดถึงเครื่องเล่นเกมพกพาจาก Sony
แกะกล่อง PlayStation Portal เครื่องศูนย์ประเทศไทย
PlayStation Portal จัดส่งมาในกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า หน้ากล่องพิมพ์รูปภาพผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจน พร้อมด้วยโลโก้ PlayStation ที่มุมบนซ้าย ถัดลงมาจะมีชื่อ PlayStation Portal และกำกับด้วย Remote Player ในบรรทัดต่อมา เพื่อบอกว่านี่คือ “อุปกรณ์เล่นระยะไกล” หลังกล่องติดฉลากการรับประกันสินค้านาน 1 ปี บนกล่องติดฉลากให้ข้อมูลการผลิต พร้อมคำเตือนว่าอย่าให้ PlayStation Portal ถูกน้ำเป็นอันขาด และควรเก็บให้ห่างจากความร้อน
ภายในกล่องแน่นอนว่าจะพบกับ PlayStation Portal ซึ่งมีแผ่นกระดาษป้องกันรอยหน้าจอระหว่างขนส่ง และบนกระดาษป้องกันรอยยังบอกตำแหน่งของปุ่มควบคุมด้านบนด้วย นอกจากนี้ ยังมีคู่มือภาษาไทยมาให้อ่านกัน และสายชาร์จ USB-C (ไม่มีหัวชาร์จ หรือ Power Adapter แถมมาให้)
หน้าจอ 8 นิ้ว พร้อม DualSense
PlayStation Portal ได้รับการออกแบบมาเหมือนกับเป็นคอนโซลพกพา มาในสีขาวดำเข้ากับ PlayStation 5 และ DualSense ซึ่งจริงๆ แล้วนี่เหมือนกับคอนโทรลเลอร์ DualSense ที่มาพร้อมจอแสดงผลในตัวมากกว่า อย่่างไรก็ตาม PlayStation Portal ถูกสร้างมาให้เป็นอุปกรณ์เล่นเกมจากคอนโซล PlayStation 5 ในระยะไกล ไม่ได้เป็นคอนโซลพกพาแบบสแตนด์อโลนอย่าง ROG Ally X หรือ Nintendo Switch
จุดเด่นของ PlayStation Portal คือ จอแสดงผล LCD ระบบสัมผัส ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว รองรับเกมความละเอียด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
คอนโทรลเลอร์ที่ติดตั้งมาให้ในตัว มีการจัดวางตำแหน่งปุ่มกดต่างๆ เหมือนกับ DualSense ทำให้ผู้ใช้งาน PlayStation 5 สร้างความคุ้นเคยได้อย่างรวดเร็ว
ไม่เพียงแต่การจัดวางตำแหน่งปุ่มกดให้เหมือนกับ DualSense แต่ยังรองรับฟีเจอร์ Haptic feedback และ Adaptive triggers เหมือนกันอีกด้วย
PlayStation Portal มีลำโพงในตัว แต่ถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว ก็สามารถใช้หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร มาเสียบได้ หรือ จะใช้หูฟังแบบไร้สายก็ได้เช่นกัน อย่าง PULSE Explore และ PULSE Elite ของ PlayStation
ใช้งานง่ายมาก
อย่างที่กล่าวไปแล้ว PlayStation Portal ไม่ได้เป็นคอนโซลพกพาแบบสแตนด์อโลน แต่ออกแบบมาให้เป็นเครื่องเล่นระยะไกล (Remote Player) เพื่อให้เจ้าของ PlayStation 5 สามารถสตรีมเกมมาเล่นในรูปแบบคอนโซลพกพาได้อย่างสะดวก ผ่านการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi และมีวิธีการตั้งค่าที่ง่ายมากๆ ก่อนอื่นจะต้องเปิด PlayStation 5 แล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย Wi-Fi จากนั้นให้ไปที่ Settings > System > Remote Play แล้วเปิดใช้งาน Remote Play
ต่อมาให้เปิด PlayStation Portal แล้วลงชื่อเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีเดียวกับที่ใช้ใน PlayStation 5 และเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน เพียงเท่านี้ ก็สามารถเล่นเกม PlayStation 5 บน PlayStation Portal ได้ทันที และเพื่อให้การเล่นเกมราบรื่น เครือข่าย Wi-Fi ควรมีความเร็วอย่างน้อย 5Mbps แต่ถ้าจะให้ประสบการณ์ที่ดี แนะนำว่าควรมีความเร็ว 15Mbps ขึ้นไป
ประสบการณ์การใช้งาน
PlayStation Portal สามารถสตรีมเกมจากคอนโซล PlayStation 5 มาเล่นในรูปแบบพกพาได้อย่างราบรื่น ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้แท็บเล็ตที่ติดตั้งคอนโทรลเลอร์ ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถเล่นเกมในระบบ PS5 และ PS4 ได้ทุกที่ภายในบ้าน ตราบเท่าที่มีสัญญาณ Wi-Fi ที่แรงและเสถียร
ประโยชน์ของ PlayStation Portal ที่มากกว่าการเล่นเกมในรูปแบบพกพา คือ การเป็นอิสระจากจอทีวี หมายความว่า ทีวีจอใหญ่ในบ้านจะว่าง ให้สมาชิกคนอื่นๆ มาใช้งานได้ ไม่ต้องไปแย่งใช้เพื่อเล่นเกม เพียงเปิดโหมดพัก หรือ Rest Mode บน PlayStation 5
จากการทดสอบใช้งาน PlayStation Portal นอกบ้าน ด้วยการแชร์อินเตอร์จากสมาร์ตโฟน 5G เมื่อทำการเชื่อมต่อกับ PS5 ที่บ้านได้สำเร็จแล้วก็สามารถใช้งานได้ตามความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เนท โดยจะโดนลดคุณภาพบนหน้าจอ มีอาการสะดุดกระตุก เมื่อความเร็วอินเตอร์เนทช้าลง เหมาะกับการเล่นเกมแนว RPG ไม่เหมาะเกมที่เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างแนว Sport ,Action หรือแนวต่อสู้ แต่ถ้าเชื่อมต่อ Wi-Fi ในสถานที่อื่นที่มีความเร็วสูงก็จะสามารถใช้งานลื่นไหลไม่ต่างจากเล่นที่บ้าน
เสียดายที่ PlayStation Portal ไม่สามารถใช้งานด้านบันเทิงจากแอปสตรีมมิ่งดูหนังฟังเพลงจาก PS5 ได้อาทิ Netflix ,YouTube หรือ Apple Music ต้องมาดูกันว่าในอนาคตจะปล่อยอัปเดตให้ใช้งานได้หรือไม่
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
PlayStation Portal มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัวความจุ 4,370mAh เมื่อชาร์จจนเต็ม 100% สามารถเล่นเกมได้ยาวนานต่อเนื่อง 4 – 6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับเกมและการปรับความสว่างหน้าจอ) ซึ่งต้องเน้นย้ำว่า นี่คืออุปกรณ์พกพาที่ออกแบบมาสำหรับสตรีมเกมจาก PlayStation 5 มาอยู่บนมือถือ ดังนั้น การใช้งานส่วนใหญ่จะอยู่ภายในบ้านมากกว่าจะพกพาออกไปข้างนอก ดังนั้น อายุการใช้งาน 4 – 6 ชั่วโมง จึงถือว่าให้อายุการใช้งานที่พอสมควร
สรุปราคาและการจำหน่าย
PlayStation Portal เป็นอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้เจ้าของ PlayStation 5 สามารถเล่นเกมได้สะดวกมากขึ้น เนื่องจากสามารถเล่นเกมได้จากทุกที่ภายในบ้าน โดยไม่ต้องแย่งใช้จอทีวีกับสมาชิกคนอื่นในบ้าน โดยมีจุดเด่นที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ให้ความคมชัดและลื่นไหล ความสว่างเพียงพอต่อการใช้งานภายในบ้าน แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน และมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป วางจำหน่ายในราคาเพียง 7,790 บาท
เปรียบเทียบขนาด iPhone 16 Pro Max ,Nintendo Switch OLED ,ROG Ally X และ PS Potal