ทรู ดีแทค เตรียมวางจำหน่าย iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ที่มาพร้อมกับชิป A18 ใหม่ล่าสุด, ระบบควบคุมกล้อง, การอัปเกรดที่ทรงพลังในระบบกล้องขั้นสูง, ปุ่ม Action สำหรับเข้าถึงฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว และการเพิ่มพลังแบตเตอรี่ที่อายุการใช้งานมากขึ้น; iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro Max ขับเคลื่อนด้วยชิป A18 Pro ที่มีประสิทธิภาพ CPU ชั้นนำในอุตสาหกรรม, ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น, ระบบควบคุมกล้อง, ฟีเจอร์กล้องระดับมืออาชีพที่เป็นนวัตกรรมล้ำสมัย, และการเพิ่มพลังแบตเตอรี่ที่มีอายุใช้งานมากขึ้นอย่างมหาศาล; ชุด iPhone 16 ยังได้รับการออกแบบเพื่อรองรับ Apple Intelligence — ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ใช้งานง่าย และเข้าใจบริบทส่วนบุคคลเพื่อให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตรงประเด็น พร้อมกับการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ (1) ขณะที่ Apple Watch Series 10 นาฬิกา Apple Watch บางที่สุดเท่าที่เคยมีมา, มาพร้อมกับหน้าจอที่ใหญ่และล้ำสมัยที่สุดของ Apple Watch, การชาร์จที่เร็วขึ้น, การวัดความลึกของน้ำและอุณหภูมิ, และข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพและฟิตเนสที่ล้ำสมัยจาก watch OS 11; Apple Watch Ultra 2 มีการออกแบบใหม่ในสีดำที่สวยงาม พร้อมสาย Milanese Loop ไทเทเนียมใหม่; ขณะที่ AirPods 4 และ AirPods 4 ได้ออกแบบใหม่มี ANC; และสีใหม่สำหรับ AirPods Max. ลูกค้าสามารถสั่งจอง iPhone 16 แบรนด์ทรู และแบรนด์ดีแทค ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2024 เวลา 19.00 น. และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2024 เวลา 8.00 น. สำหรับ Apple Watch และ AirPods รุ่นใหม่ โปรดตรวจสอบรายละเอียดวันวางจำหน่ายอีกครั้ง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://deal.true.th/apple/iphone-16.html
1 Apple Intelligence จะพร้อมให้บริการเป็นการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรี ชุดฟีเจอร์แรกของ Apple Intelligence จะเปิดให้ทดสอบในรุ่นเบต้าในเดือนหน้า เป็นส่วนหนึ่งของ iOS 18.1, iPadOS 18.1, และ macOS Sequoia 15.1 โดยจะมีฟีเจอร์เพิ่มเติมเปิดตัวในเดือนถัดไป ฟีเจอร์นี้จะรองรับบน iPhone 16, iPhone 16 Plus, iPhone 16 Pro, iPhone 16 Pro Max, iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max, และ iPad และ Mac ที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไป โดยตั้งค่าภาษาอุปกรณ์และ Siri เป็นภาษาอังกฤษ (สหรัฐฯ) ภาษาและแพลตฟอร์มเพิ่มเติมจะมาในช่วงปีถัดไป ในปีนี้ Apple Intelligence จะเพิ่มการรองรับภาษาอังกฤษท้องถิ้นในออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้, และสหราชอาณาจักร ในปีถัดไป Apple Intelligence จะขยายไปยังภาษาต่างๆ เพิ่มเติม เช่น จีน, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, และสเปน