หลังจากเปิดตัวในงาน WWDC 2024 ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ในที่สุด Apple Intelligence ระบบอัจฉริยะส่วนบุคคลของ Apple ก็พร้อมให้ทดลองใช้งานแล้ว โดยจำกัดเฉพาะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple
Apple Intelligence ถูกเพิ่มเข้าในในซอฟต์แวร์ iOS 18.1, iPadOS 18.1, macOS Sequoia เวอร์ชัน Developer Beta สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple โดยนักพัฒนาสามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งเวอร์ชัน Beta ที่มาพร้อม Apple Intelligence หรือเวอร์ชัน Beta มาตรฐาน เนื่องจาก Apple Intelligence รองรับการทำงานบน iPhone 15 Pro หรือ iPhone 15 Pro Max, iPad และ Mac ที่ใช้ชิป Apple Silicon เท่านั้น
กรณีนักพัฒนาเลือกการอัปเดตเวอร์ชัน Beta ที่มาพร้อม Apple Intelligence หลังจากติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่แล้วสามารถเปิดใช้งาน Apple Intelligence ได้ที่แอป Settings
ฟีเจอร์ใน Apple Intelligence ที่พร้อมใช้งานแล้ว ได้แก่ Writing Tools ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับสำนวนการเขียน พิสูจน์อักษร และสรุปข้อความได้แทบทุกที่ที่เขียน ไม่ว่าจะในแอปเมล, โน้ต, Pages หรือแอปของบริษัทอื่น
Siri ดีไซน์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence จะเรืองแสงอย่างสวยงามรอบๆ ขอบหน้าจอขณะที่ Siri ทำงานอยู่ ผู้ใช้งานสามารถแตะที่ด้านล่างของหน้าจอ เพื่อพิมพ์ข้อความถึง Siri แทนที่จะใช้คำสั่งเสียง นอกจากนี้ Siri เวอร์ชันใหม่ยังสามารถเข้าใจภาษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึงมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เข้ากับบริบทมากขึ้น และรู้ใจผู้ใช้มากขึ้นด้วย พร้อมด้วยความสามารถในการทำให้สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นและเร็วขึ้น อย่างการที่ Siri สามารถจับใจความได้ถึงแม้ผู้ใช้จะพูดตะกุกตะกักและรักษาบริบทที่ส่งต่อจากคำขอหนึ่งไปสู่อีกคำขอหนึ่งได้
แอป Mail รองรับการสรุปข้อความพร้อมตัวเลือก Smart Reply นำเสนอคำตอบสั้นๆ ง่ายๆ พร้อมกับตรวจหาคำถามในอีเมล เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ตอบครบแล้วทุกคำถาม และมาพร้อมโหมด Reduce Interruptions Focus ช่วยกรองการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญออกไป ขณะที่แสดงการแจ้งเตือนที่ผู้ใช้งานต้องการทันที เช่น เมื่อมีรถมารับ
แอป Photos เวอร์ชันใหม่ช่วยให้การค้นหาภาพถ่ายและวิดีโอจะสะดวกสบายยิ่งขึ้น สามารถใช้ภาษาตามธรรมชาติในการค้นหาภาพที่ต้องการ เช่น “Maya ใส่เสื้อมัดย้อมเล่นสเก็ตบอร์ด” หรือ “Katie ที่มีสติกเกอร์ติดอยู่บนหน้า” ส่วนการค้นหาในวิดีโอก็ทรงพลังยิ่งขึ้นเช่นกันด้วยความสามารถในการค้นหาช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงในคลิป เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดูช่วงที่ต้องการได้ทันที นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือ Clean Up ใหม่ที่สามารถระบุและลบวัตถุรบกวนสายตาออกจากฉากหลังในวิดีโอโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอแก้ไขตัวแบบโดยไม่ตั้งใจ
นอกจากนี้ แอป Photos เวอร์ชันใหม่ ยังสนับสนุนฟีเจอร์ Memories ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเรื่องราวที่อยากเห็นได้เพียงแค่พิมพ์คำอธิบาย จากนั้น Apple Intelligence จะเลือกภาพและวิดีโอที่ดีที่สุดตามคำอธิบาย นำมารังสรรค์เป็นสตอรีไลน์ที่แยกออกเป็นบทต่างๆ ตามธีมที่ตรวจพบในภาพ เสร็จแล้วจึงนำทั้งหมดมาร้อยเรียงเป็นภาพยนตร์ที่มีโครงเรื่องเป็นของตัวเอง แถมยังมีการแนะนำเพลงจาก Apple Music ที่เข้ากับความทรงจำนั้นด้วย
ที่มา – MacRumors