NIO Phone สมาร์ทโฟนจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของจีน เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2023 และล่าสุดได้มีการอัปเกรดรุ่นใหม่แล้ว โดยมีดีไซน์แบบเดียวกับรุ่นแรก จึงถูกเรียกว่า New NIO Phone แทนที่จะใช้ชื่อ NIO Phone 2
NIO Phone รุ่นที่ 2 ผลิตออกมาให้เลือก 6 สี เข้ากับโทนสีของตัวรถ NIO แต่มี 3 เวอร์ชันที่ใช้วัสดุแตกต่างกัน ได้แก่ Performance Edition มาในสี Space Blue / Moonlight Silver, Flagship Edition มาในสี Pine Green / Golden Sand Rice / Nebula Red และรุ่นพิเศษ EPedition มีจำนวนจำกัด ด้านหลังเป็นเซรามิกดีไซน์ Nano Microcrystalline แสดงให้เห็นถึงเทคโนโลยีการผลิตนาฬิกาหรูที่ผ่านกระบวนการขัดและแกะสลักด้วยมือชั้นยอด อีกทั้งยังได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำที่ระดับ IP68
NIO Phone รุ่นที่ 2 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความลึกสี 16.7 ล้านสี ความละเอียด 3168 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.82 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 510 ppi (พิกเซลต่อนิ้ว) อัตราส่วนภาพ 19.8:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.06% อัตราการรีเฟรช 1-120Hz ความสว่างสูงสุด 2600 นิต และได้รับการป้องกันหน้าจอด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus 2
ด้านประสิทธิภาพ NIO Phone รุ่นใหม่ ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 (รุ่นก่อนใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2) ความจำ RAM 12GB / 16GB (LPDDR5X) พื้นที่เก็บข้อมูล 512GB / 1TB (UFS 4.0) ความจุแบตเตอรี่ 5020mAh รองรับชาร์จเร็ว 80W ชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W รวมถึงการชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นแบบไร้สาย 10W Wireless Reverse Charging
แผนกกล้องของ NIO Phone 2 ประกอบด้วย กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.68, กล้อง Ultra Wide 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 และ กล้อง Telephoto 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.6 ส่วนกล้องเซลฟี่12 ล้านพิกเซล
ราคา NIO Phone 2
- Performance Edition (RAM 12GB + ROM 512GB) ราคา 6,499 หยวน หรือราว 32,190 บาท
- Flagship Edition (RAM 12GB + ROM 1TB) ราคา 6,899 หยวน หรือราว 34,190 บาท
- EPedition (RAM 16GB + ROM 1TB) ราคา 7,499 หยวน หรือราว 37,190 บาท
ที่มา – NIO