หลายองค์กรที่ใช้ระบบปฎิบัติการของ Microsoft กำลังปั่นป่วนหนัก หลังพบระบบล่มพร้อมกันทั่วโลกในวันนี้ (19 กรกฎาคม 2024) โดยมีสาเหตุมาจากบริการของบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ CrowdStrike มีปัญหาระหว่างการอัปเดต จนทำให้ Windows PC ที่ได้รับผลกระทบขึ้นหน้าจอ Blue Screen of Death
ปัญหา Blue Screen of Death ส่งผลกระทบต่อหลายหน่วยงานที่ใช้ Windows PC ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน ธนาคาร ตลาดหุ้น สื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงระบบขนส่งทางรถไฟในบางประเทศ อย่างเช่น บริษัทรถไฟ Govia Thameslink Railway ของอังกฤษ ได้เตือนผู้โดยสารให้เตรียมรับมือกับความขัดข้องที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทกำลังประสบปัญหาด้านไอที และอาจจำเป็นต้องยกเลิกการเดินทางในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยแจ้งถึงขบวนรถไฟทั้งหมด 4 สาย ที่จะได้รับผลกระทบ ได้แก่ Southern, Thameslink, Gatwick Express และ Great Northern
สนามบินทั่วโลกได้รับผลกระทบไปพร้อมกัน
- สนามบินเบอร์ลินโพสต์บน X ระบุว่ากำลังประสบปัญหาการเช็กอินล่าช้าเนื่องจาก “ความผิดพลาดทางเทคนิค”
- สเปนมีรายงานว่าปัญหาความล่าช้าเกิดกับสนามบินทุกแห่งของประเทศ และประกาศใช้ระบบแมนนวล หรือใช้พนักงานภาคพื้นในการให้ความช่วยเหลือผู้โดยสาร
- สนามบินเอดินบะระ ต้องหยุดเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่อง เพราะหน้าจอไม่แสดงผล ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับประตูขึ้นเครื่อง เวลา เลขเที่ยวบิน ตกหล่นขาดหายไป และอาจทำให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องไม่ทันได้
- Ryanair ออกประกาศเที่ยวบินล่าช้า พร้อมแนะนำให้ผู้ที่เดินทางในวันนี้ ตรวจสอบรายละเอียดเที่ยวบินผ่านแอปพลิเคชันของสายการบินเอง
- สายการบินในสหรัฐฯ เช่น United, Delta และ American Airlines ประกาศหยุดทำการบินชั่วขณะ เที่ยวบินไหนที่บินอยู่ ก็ยังทำการบินต่อไป แต่จะไม่มีเที่ยวบินใด ๆ ขึ้นบินอีกต่อจากนี้
- JetStar สายการบินของออสเตรเลีย ประกาศไม่สามารถเช็กอินผู้โดยสารได้ เพราะไม่สามารถเรียกดูข้อมูลผู้โดยสารได้
- สายการบินเวอร์จินออสเตรเลีย ประกาศหยุดบินชั่วคราวทั้งขาเข้าและขาออก ประมาณ 30 นาทีก็ทำการบินต่อ
- ท่าอากาศยานนานาชาติไครสต์เชิร์ชในนิวซีแลนด์ ระบุว่ากำลังประสบปัญหาด้านไอที อาจส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินขาเข้าและขาออก เช่นเดียวกับ โฆษกรัฐสภาของนิวซีแลนด์กล่าวว่า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ของพวกเขาก็ประสบปัญหาเช่นกัน
- ท่าอากาศยานนาริตะของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าสายการบินต่าง ๆ เช่น JetStar, Jeju Air, Qantas, HK Express และ Spring Japan กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบเช็กอิน
- ท่าอากาศยานเดลีแจ้งว่าบริการบางส่วนได้รับผลกระทบชั่วคราว
- สนามบินสคิปโฮลของอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์ ประกาศได้รับผลกระทบเช่นกัน เครื่องบินไม่สามารถบินเข้า-ออกได้
- AirAsia แจ้งว่า เหตุขัดข้องของระบบ Microsoft Azure ส่งผลกระทบต่อระบบการสำรองที่นั่งและระบบเช็คอินในทุกท่าอากาศยานฯ ทางสายการบินขอแนะนำให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง
หน่วยงานของไทยเริ่มได้รับผลกระทบ
- โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ แจ้งว่า เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์บางระบบล่มทั่วโลกทำให้ระบบไอทีของโรงพยาบาลขัดข้อง อาจเกิดความล่าช้าในการให้บริการ โดยโรงพยาบาลของดการให้บริการในวันนี้
- ท่าอากาศยานภูเก็ต แจ้งเช็กอินระบบ Manual ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาที่สนามบิน เนื่องจากระบบ Microsoft ล่มทั่วโลก ทำให้กระทบระบบการเช็กอินสนามบินทั่วโลก
นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผอ.ท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดเผยว่า มีปัญหาเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์จริง แต่มีเฉพาะสายการบินแอร์เอเชีย ในขั้นตอนระบบเช็กอินที่เคาท์เตอร์ ซึ่งขณะนี้ ทอท.ได้ทำการช่วยเหลือแล้ว โดยผู้โดยสารที่ไม่มีสัมภาระ สามารถใช้ระบบเซล์ฟ เช็กอินของท่าอากาศยานดอนเมืองได้เลย แต่หากมีสัมภาระก็อาจจะต้องรอให้สายการบินดำเนินการ
นอกจากนี้ นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ชี้แจงว่าสาเหตุที่ระบบล่มนั้น ไม่ได้เป็นของระบบของ Microsoft โดยตรง แต่เป็นระบบที่เรียกว่า Navitaire ซึ่งเป็นระบบการเช็กอินของแต่ละสายการบิน โดยแต่ละสายการบินก็จะมีระบบ การเช็กอินแยกจากกัน ตอนนี้ระบบ Navitaire นี้ใช้โดย AirAsia ซึ่งเมื่อมีปัญหาทั่วโลกก็เลยเกิดเป็นปัญหาว่าที่ไทยก็เช็กอินไม่ได้เ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ที่มา – ThaiPBS