Apple ประกาศยกระดับ Siri ให้ฉลาดมากขึ้น โดยอาศัยขุมพลังของ Apple Intelligence ที่ผสานรวมกับ iOS 18, iPadOS 18 และ macOS Sequoia ภายในปีนี้ แต่รายงานล่าสุดของ Mark Gurman นักข่าวจาก Bloomberg เชื่อว่า Apple ต้องการเวลาอีกพักใหญ่ เพื่อทำให้ Siri เวอร์ชันใหม่ ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Mark Gurman คาดว่า Siri เวอร์ชันใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence จะพร้อมทำงานอย่างเต็มรูปแบบใน iOS 18.4 ที่จะปล่อยออกมาในช่วงนฤดูใบไม้ผลิปี 2025 (มีนาคม-พฤษภาคม) โดยเวอร์ชัน Beta จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2025 ขณะที่ Apple Intelligence มีแผนเปิดตัวสู่ผู้ใช้งานทั่วไปในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ (กันยายน-พฤศจิกายน)
หมายความว่า Siri เวอร์ชันใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence ในช่วงแรกของการเปิดตัว จะรองรับบางฟีเจอร์เท่านั้น เช่นการทำงานร่วมกับ ChatGPT รวมถึงดีไซน์ใหม่ ที่เรืองแสงรอบๆ ขอบหน้าจอขณะที่ Siri ทำงานอยู่
Siri ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence สามารถเข้าใจภาษาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึงมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เข้ากับบริบทมากขึ้น และรู้ใจผู้ใช้มากขึ้น ทำให้สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันกลายเป็นเรื่องง่าย ตัวอย่างเช่น Siri สามารถจับใจความได้ถึงแม้ผู้ใช้งานจะพูดตะกุกตะกัก และรักษาบริบทที่ส่งต่อจากคำขอหนึ่งไปสู่อีกคำขอหนึ่งได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถพิมพ์โต้ตอบกับ Siri และสลับไปมาระหว่างข้อความและเสียงพูดเพื่อสื่อสารกับ Siri ด้วยวิธีไหนก็ได้ที่สะดวกสำหรับช่วงเวลานั้น
ความสามารถของ Siri เวอร์ชันใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence
Siri สามารถให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับอุปกรณ์ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน และตอบคำถามได้หลายพันเรื่องเกี่ยวกับวิธีทำอะไรบางอย่างบน iPhone, iPad และ Mac โดยผู้ใช้สามารถเรียนรู้ทุกเรื่องตั้งแต่การตั้งเวลาส่งอีเมลในแอปเมล จนถึงวิธีสลับจากโหมดสว่างเป็นโหมดมืด
Siri รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอด้วย จึงสามารถเข้าใจและทำสิ่งต่างๆ กับคอนเทนต์ของผู้ใช้ในหลายๆ แอปได้มากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เช่น หากเพื่อนส่งข้อความถึงผู้ใช้เพื่อบอกที่อยู่ใหม่ในแอปข้อความ ผู้รับก็สามารถพูดว่า “เพิ่มที่อยู่นี้ลงในบัตรรายชื่อ” แล้ว Siri ก็จะจัดการให้
Siri สามารถทำสิ่งใหม่ๆ หลายร้อยอย่างทั้งในแอปของ Apple และของบริษัทอื่น และยังทำข้ามไปมาระหว่างแอปได้ด้วย เช่น ผู้ใช้สามารถพูดว่า “แสดงบทความเกี่ยวกับจิ้งหรีดจากรายการอ่านขึ้นมาหน่อย” หรือ “ส่งภาพบาร์บีคิวเมื่อวันเสาร์ไปให้ Malia” แล้ว Siri ก็จะจัดการให้
Siri สามารถส่งมอบข้อมูลข่าวสารที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ และข้อมูลบนอุปกรณ์ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถพูดว่า “เล่นพ็อดคาสท์ที่ Jamie แนะนำ” แล้ว Siri ก็จะค้นหาและเล่นพ็อดคาสท์ตอนนั้นให้เองโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องนึกว่าเคยพูดถึงเรื่องดังกล่าวไปในข้อความหรืออีเมล หรืออาจจะถามว่า “เที่ยวบินของคุณแม่จะมาถึงกี่โมง” แล้ว Siri จะค้นหารายละเอียดเที่ยวบินและนำไปตรวจสอบเทียบกับข้อมูลการติดตามเที่ยวบินแบบเรียลไทม์เพื่อบอกเวลาที่จะมาถึง
ที่มา – MacRumors