วันนี้ Apple เปิดตัวชุดเครื่องมือและแหล่งข้อมูลใหม่ที่เหนือชั้น ออกแบบมาเพื่อทำให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถสร้างสรรค์แอปที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นบนแพลตฟอร์มทั้งหมดของ Apple โดย Xcode 16 จะช่วยให้นักพัฒนาประหยัดเวลาในกระบวนการพัฒนา และทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นเพราะมีคุณสมบัติอย่าง Swift Assist และคุณสมบัติการทำโค้ดให้สมบูรณ์ด้วยการคาดคะเน อีกทั้งยังมี API ใหม่และที่เพิ่มเติมความสามารถเข้าไป เพื่อมอบเครื่องมือแก่นักพัฒนาในการยกระดับแอปให้ล้ำหน้าและนำเสนอคุณสมบัติที่น่าสนใจ
“ที่ Apple เราทุ่มเทต่อการจัดหาเทคโนโลยีและแหล่งข้อมูลที่ทันสมัยให้นักพัฒนาทั่วโลกเพื่อใช้สร้างสรรค์แอปสุดล้ำ” Susan Prescott รองประธานฝ่าย Worldwide Developer Relations กล่าว “ด้วยนวัตกรรมเบื้องหลัง Xcode 16 ที่ผ่านกระบวนการคิดมาอย่างถี่ถ้วน ตลอดจน API แพลตฟอร์มล่าสุด เราได้สร้างสุดยอดเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเพื่อใช้สร้างสรรค์แอปที่โดดเด่น และตั้งหน้าตั้งตารอว่าพวกเขาจะรังสรรค์สิ่งใดต่อไป”
Xcode 16
Xcode 16 สร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพของนักพัฒนา โดยมาพร้อมคุณสมบัติและการปรับปรุงการทำงานในหลายด้าน ที่จะช่วยปลุกพลังในการพัฒนาแอปที่โดดเด่นได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าครั้งไหนๆ
Swift Assist ทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่ใจนักพัฒนาสำหรับงานเขียนโค้ดในทุกๆ ด้าน เพื่อที่นักพัฒนาจะได้จดจ่อกับปัญหาและแนวทางแก้ไขในเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น โดยจะทำงานผสานเป็นหนึ่งเดียวกับ Xcode และรู้จักคุณสมบัติใน Software Development Kit (SDK) และภาษา Swift ล่าสุด ทำให้นักพัฒนาได้รับโค้ดที่รองรับคุณสมบัติล่าสุดซึ่งผสานอย่างลงตัวเข้ากับโปรเจ็กต์ของตนเองทุกครั้ง ดังนั้นงานต่างๆ เช่น การศึกษาเฟรมเวิร์กใหม่และการทดลองไอเดียใหม่ๆ จะทำได้ง่ายดายด้วย Swift Assist เพียงแค่ป้อนคำขอครั้งเดียว นอกจากนี้ Swift Assist ยังใช้โมเดลอันทรงพลังที่ทำงานบนคลาวด์ และสร้างขึ้นมาโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย เช่นเดียวกับบริการอื่นๆ ทั้งหมดสำหรับนักพัฒนาของ Apple โดยระบบจะใช้โค้ดของนักพัฒนาเพื่อการประมวลผลตามคำขอเท่านั้น และไม่มีการจัดเก็บโค้ดไว้บนเซิร์ฟเวอร์โดยเด็ดขาด อีกทั้ง Apple จะไม่ใช้โค้ดของนักพัฒนาเพื่อฝึกฝนโมเดลการเรียนรู้ของระบบด้วย
Swift Assist ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ใน Xcode 16 จะทำหน้าที่เป็นเพื่อนคู่ใจนักพัฒนาสำหรับงานเขียนโค้ดในทุกๆ ด้าน เพื่อที่นักพัฒนาจะได้จดจ่อกับปัญหาและแนวทางแก้ไขในเรื่องที่สำคัญยิ่งขึ้น
เอนจิ้นการทำโค้ดให้สมบูรณ์ด้วยการคาดคะเนใหม่ใน Xcode จะใช้โมเดลพิเศษที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อใช้กับ Swift และ Apple SDK โดยเฉพาะ และสามารถแนะนำโค้ดแก่นักพัฒนาได้ตามที่ต้องการ คุณสมบัติการทำโค้ดให้สมบูรณ์ทั้งหมดขับเคลื่อนด้วย Apple Silicon และการปรับปรุงใหม่ด้านการเรียนรู้ของระบบใน macOS Sequoia โดยจะทำงานบนอุปกรณ์ของนักพัฒนาเท่านั้น นั่นหมายความว่าโค้ดดังกล่าวจะได้รับการเก็บรักษาเอาไว้เป็นส่วนตัว โดยที่นักพัฒนายังคงได้รับคำแนะนำที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วทันใจแม้จะทำงานแบบออฟไลน์ก็ตาม
เอนจิ้นการทำโค้ดให้สมบูรณ์ด้วยการคาดคะเนใหม่ใน Xcode จะใช้โมเดลพิเศษที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อใช้กับ Swift และ Apple SDK โดยเฉพาะ และสามารถแนะนำโค้ดแก่นักพัฒนาได้ตามที่ต้องการ
ตอนนี้คุณสมบัติการแสดงตัวอย่างใน Xcode มาพร้อมสถาปัตยกรรมการเชื่อมโยงไดนามิกแบบใหม่ ซึ่งใช้ไฟล์แบบเดียวกันจากการบิลด์ทั้งสำหรับการแสดงตัวอย่างและการสั่งให้โค้ดทำงาน ทำให้เวิร์กโฟลว์การพัฒนาดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเมื่อต้องสลับการทำงานระหว่าง 2 ขั้นตอนดังกล่าว
Xcode 16 ยังมาพร้อมการปรับปรุงเพิ่มเติมในด้านสภาพแวดล้อมการทดสอบ ทำให้นักพัฒนาเห็นการทำงานของแอปในสภาวะจริงได้ง่ายขึ้นทันทีที่เริ่มสั่งบิลด์แอป เช่น ตอนนี้นักพัฒนาสามารถแปลภาษาและทดสอบแอปได้ทั้งในส่วนของนโยบายความเป็นส่วนตัว ข้อตกลงสิทธิ์การใช้งาน และชื่อแสดงผลสำหรับกลุ่มสมัครใช้งาน เป็นต้น
Swift 6
Swift 6 มาพร้อมความสามารถใหม่ๆ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่นักพัฒนาและทำให้โค้ดมีความชัดเจนเข้าใจง่าย สถาปัตยกรรมแบบหลายคอร์ทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ทรงพลังยิ่งขึ้น ดังนั้น Swift จึงมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การเขียนโปรแกรมแบบทำงานพร้อมกันเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยใน Swift 6 นั้นมีความสามารถใหม่ด้านความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันการแย่งเข้าถึงข้อมูลพร้อมกัน ณ ช่วงที่ทำการคอมไพล์ โดยจะมีการวินิจฉัยการเข้าถึงหน่วยความจำในลักษณะพร้อมกันในทุกส่วนของโปรเจ็กต์ของนักพัฒนา ณ ช่วงที่ทำการคอมไพล์ ความล้ำหน้าดังกล่าวทำให้สามารถตรวจจับข้อผิดพลาดและแก้ไขซอร์สโค้ดได้โดยไม่ยุ่งยาก ยกระดับความปลอดภัยและช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลจัดการโค้ดในอนาคต
งาน WWDC24 เป็นวาระครบรอบ 10 ปี ของ Swift โดยนับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งนั้น Swift ก็ได้ช่วยเพิ่มศักยภาพแก่นักพัฒนาให้สามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าประทับใจได้ทั่วทั้งระบบนิเวศของ Apple และในวันนี้ก็มีแอปเกือบ 1 ล้านแอปที่ใช้ Swift ผ่านทางชุดเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ของ Apple อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่แอป เฟรมเวิร์ก ไปจนถึงเฟิร์มแวร์ เช่น Secure Enclave
ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา Apple ยังคงมุ่งมั่นผลักดันความสามารถของ Swift ให้พัฒนาไปข้างหน้า และสนับสนุนความร่วมมือกันภายในชุมชนนักพัฒนา โดย Apple ได้ขยายโอกาสการใช้ Swift ไปยังกลุ่มนักพัฒนาและโปรแกรมเมอร์ในวงกว้าง ทั้งยังใช้ได้กับโปรแกรมที่ใช้เขียนโค้ดอีกหลายตัวที่รองรับ Language Server Protocol นอกเหนือจากความสามารถที่เพิ่มขึ้นแล้ว GitHub Organization ที่ปรับปรุงใหม่สำหรับ Swift โดยเฉพาะยังมีการโฮสต์โปรเจ็กต์สำคัญสำหรับระบบนิเวศ Swift เอาไว้หลายตัว ซึ่งรวมถึงคอมไพเลอร์ Swift, เฟรมเวิร์ก Foundation และไลบรารีสำคัญอื่นๆ
Swift Testing
เฟรมเวิร์ก Swift Testing ใหม่มี API ที่นักพัฒนาเข้าใจง่าย ทำให้สามารถเขียนคำสั่งเพื่อรันการทดสอบได้ไม่ยาก อีกทั้งยังทำงานในแบบข้ามแพลตฟอร์มและเรียนรู้ได้ง่าย นักพัฒนาจึงใช้ในการเขียนคำสั่งการทดสอบสำหรับแพลตฟอร์มและโดเมนที่หลากหลาย เฟรมเวิร์กนี้ยังมีระบบแท็กที่ยืดหยุ่น ช่วยให้นักพัฒนาจัดระเบียบการทดสอบและแผนการทดสอบได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Swift Testing ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Swift ในหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่ระดับแอปไปจนถึงระดับเซิร์ฟเวอร์
Game Porting Toolkit 2
นับตั้งแต่มีการเปิดตัว Game Porting Toolkit ก็ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์เกมบนอุปกรณ์ Apple ได้เร็วกว่าครั้งไหนๆ ขณะที่เกมเมอร์ตัวจริงก็มีเกมให้เลือกเล่นบน Mac มากยิ่งขึ้นด้วย โดยที่ Game Porting Toolkit 2 นั้นก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยความสามารถบางส่วนซึ่งนักพัฒนาต่างถามหากันมากที่สุด ทำให้การนำเกมสุดล้ำมาสู่ Mac รวมถึง iPhone และ iPad ง่ายขึ้นไปอีก เรียกว่า Game Porting Toolkit 2 ช่วยประหยัดเวลาที่ล้ำค่าได้อย่างมาก ไม่ว่านักพัฒนากำลังพอร์ตเกมเดิมไปที่อุปกรณ์ Apple หรือกำลังพัฒนาเกมใหม่ก็ตาม ไม่มีครั้งใดอีกแล้วที่การสร้างสรรค์สุดยอดเกมบน iPhone, iPad และ Mac จะง่ายเท่านี้ ทั้งหมดก็เพราะการปรับปรุงความเข้ากันได้กับเกม Windows, เครื่องมือการดีบั๊ก Shader และการอัปเดตใหม่ให้กับ Xcode ที่ทำให้นักพัฒนาผสานโค้ดเกมและ Shader ของอุปกรณ์ต่างๆ รวมไว้ด้วยกันได้เป็นหนึ่งเดียว
visionOS 2
Apple Vision Pro ยังคงดึงดูดนักพัฒนาจากทั่วโลกที่ให้ความสนใจในความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์เชิงมิติพื้นที่แบบใหม่ ทั้งหมดขับเคลื่อนด้วย visionOS ระบบปฏิบัติการเชิงมิติพื้นที่สุดล้ำที่ผสานคอนเทนต์ดิจิทัลเข้ากับโลกจริงได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่ง visionOS 2 นั้นมาพร้อม API และเฟรมเวิร์กใหม่ที่จะช่วยนักพัฒนาในการสร้างประสบการณ์เชิงมิติพื้นที่ที่มีความซับซ้อนและมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแบบที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน
API ด้านปริมาตรใหม่ที่ให้มิติสมจริงทำให้นักพัฒนาควบคุมลักษณะวัตถุ 3D ในแอปได้มากขึ้น และแม้แต่แอปเชิงมิติพื้นที่ที่มีความซับซ้อนมากที่สุดก็ยังสามารถรันเคียงข้างกันเพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์มัลติทาสก์ ส่วน TabletopKit นั้น ก็ทำให้นักพัฒนาสร้างประสบการณ์แอปเชิงมิติพื้นที่ในลักษณะที่ตรึงไปบนพื้นราบได้ง่ายดาย เช่น โต๊ะทำงานในสายการผลิตหรือเกมกระดานและเกมไพ่ เช่นเดียวกับ RealityKit ที่ทำให้การพัฒนาแอปเป็นเรื่องง่าย รองรับอุปกรณ์ Apple หลากหลายรุ่น ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนา และทำให้เวิร์กโฟลว์มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับแอป Universal
ส่วน TabletopKit นั้น ก็ทำให้นักพัฒนาสร้างประสบการณ์แอปเชิงมิติพื้นที่ในลักษณะที่ตรึงไปบนพื้นราบได้ง่ายดาย เช่น โต๊ะทำงานในสายการผลิตหรือเกมกระดานและเกมไพ่
นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่สวยงามและเต็มอิ่มสมจริงภายในแอปของตนเองได้ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย API ใหม่ ชุดเครื่องมือที่ปรับปรุงใหม่ และกระบวนการพัฒนาที่เรียบง่ายกว่าเดิม อีกทั้งยังพัฒนาประสบการณ์ SharePlay เชิงมิติพื้นที่อันน่าทึ่งได้ง่ายยิ่งขึ้น และตอนนี้นักพัฒนาที่ไม่มีอุปกรณ์ Apple Vision Pro ก็สามารถสร้างและดูตัวอย่างแอปแบบ SharePlay ได้แล้วใน Simulator นอกจากนี้ visionOS 2 ยังรองรับ HealthKit ทำให้แอปต่างๆ เข้าถึงและแชร์ข้อมูลสุขภาพได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว
ขณะที่ API ใหม่ด้านองค์กรจะช่วยให้องค์กรและนักพัฒนาระดับธุรกิจอัดฉีดพลังให้เวิร์กโฟลว์ได้อย่างสุดแรงในด้านต่างๆ เช่น สุขภาพ การผลิต อวกาศ ยานยนต์ และอีกมากมาย
API แพลตฟอร์มเพิ่มเติม
นักพัฒนาสามารถใช้ Controls API ใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้จัดการงานต่างๆ ได้สำเร็จมากยิ่งขึ้นจากสถานที่อื่นๆ มากมาย เช่น ปลดล็อครถยนต์ได้เร็วทันใจ หรือเปิดกล้องในแอป Third-Party ที่ชื่นชอบได้โดยตรงจากศูนย์ควบคุม
ขณะที่ AccessorySetupKit ก็ช่วยให้นักพัฒนาจับคู่อุปกรณ์เสริม Bluetooth ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยผ่านแอปของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาการเข้าถึงอุปกรณ์เสริม Bluetooth ที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด ทำให้อุปกรณ์อื่นๆ มีความเป็นส่วนตัว
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะบน Apple Watch ก็ได้รับการอัปเดตเช่นกัน โดยนักพัฒนาจะสามารถกำหนดเงื่อนไขเพื่อสั่งให้แอปปรากฏขึ้นในลักษณะวิดเจ็ตที่แนะนำ เช่น ตามเวลาและวันที่ สถานที่ เวลาตื่นนอนและเข้านอน และอีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่แอปต่างๆ ที่รองรับกิจกรรมสดจะแสดงผลบน Apple Watch ได้โดยอัตโนมัติ
นักพัฒนายังสามารถเข้าถึง API ใหม่อย่างการแตะสองครั้งบน watchOS เพื่อที่จะได้กำหนดคำสั่งนิ้วให้กับส่วนหลักต่างๆ ในการใช้งานแอป Apple Watch ของตนเอง
TestFlight
TestFlight ช่วยนักพัฒนาในการเก็บรวบรวมความคิดเห็นที่มีคุณค่าในรุ่นเบต้าจากนักทดสอบ เพื่อใช้ปรับปรุงแอปในกระบวนการพัฒนาและการเปิดตัวแอปต่อไป โดยมีการปรับปรุง TestFlight ในด้านการส่งคำเชิญและการลงทะเบียนอุปกรณ์ ทำให้นักพัฒนาสามารถทำงานร่วมกับนักทดสอบได้ตามชนิดอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ เพื่อที่จะได้รับความคิดเห็นในการปรับปรุงแอปที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น
คำเชิญ TestFlight จะมีข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับแอปรุ่นเบต้า เช่น คำอธิบาย หมวดหมู่แอป และภาพถ่ายหน้าจอ (ไม่บังคับ) เพื่อไฮไลท์คุณสมบัติและคอนเทนต์ใหม่ๆ แก่นักทดสอบที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งยังมีตัวชี้วัดแบบใหม่ที่ช่วยนักพัฒนาในการประเมินความสนใจผ่านลิงก์สาธารณะ และดูการตอบรับหรือปฏิเสธคำเชิญได้
App Store
มากกว่า 15 ปี ที่ App Store ทำให้นักพัฒนาสามารถเผยแพร่แอปและเกมไปสู่ผู้คนทั่วโลกและทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างง่ายดาย โดยในปีนี้ App Store ได้เพิ่มวิธีการใหม่ๆ เพื่อทำให้แอปของนักพัฒนากลายเป็นที่รู้จัก และมีคุณสมบัติใหม่ในการสร้างรายได้ผ่านการสมัครเข้าใช้งาน
นักพัฒนาสามารถใช้คุณสมบัติการเสนอชื่อเป็นรายการแนะนำ ทำให้ง่ายต่อการเสนอคอนเทนต์ของแอปและการปรับปรุงแอปล่าสุดเข้ารับการพิจารณาเป็นรายการแนะนำบน App Store โดยนักพัฒนาสามารถเสนอชื่อผ่าน App Store Connect พร้อมใส่รายละเอียดต่างๆ เช่น วันที่เผยแพร่ ประเทศหรือภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น จากนั้นทีมบรรณาธิการผู้เชี่ยวชาญของ App Store จะพิจารณาข้อมูลที่ได้รับ เพื่อช่วยแนะนำแอปและเกมดีๆ ไปสู่ผู้คนจำนวนมากให้ได้ชื่นชมกัน
หน้าผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบได้เองยังช่วยให้นักพัฒนาสามารถแนะนำคอนเทนต์และคุณสมบัติต่างๆ ที่มีให้บริการในแอปของตนเอง และวันนี้หน้าผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบได้เองยังรองรับการสร้างลิงก์ตรงไปยังส่วนเฉพาะบนแอป (deep link) นักพัฒนาจึงส่งผู้ใช้จากหน้าผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบได้เองบน App Store ไปยังหน้าของแอปที่ต้องการได้โดยตรง นอกจากนี้ลิงก์ตรงดังกล่าวยังใช้ได้กับแคมเปญ Search Ads เพื่อมอบประสบการณ์ที่ต่อเนื่องยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้ นับตั้งแต่ที่เห็นโฆษณาจนกระทั่งถูกส่งไปยังหน้าแอป
สำหรับแอปที่รองรับการสมัครเข้าใช้งาน นักพัฒนาสามารถเชิญชวนอดีตผู้สมัครใช้งานให้กลับมาสมัครใช้งานใหม่ด้วยข้อเสนอพิเศษ ลูกค้าที่เข้าเกณฑ์จะเห็นข้อเสนอเหล่านี้โดยทั่วใน App Store ตลอดจนในแอปของตนเองด้วย สำหรับแอป macOS นั้น นักพัฒนาสามารถเสนอการสมัครใช้งานฟรีหรือให้ส่วนลดเป็นระยะเวลาหนึ่งผ่านโค้ดข้อเสนอพิเศษ เพื่อเชิญชวน รักษา และดึงดูดอดีตผู้สมัครใช้งานให้กลับมาใช้งานอีกครั้ง
มุมมอง StoreKit ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้นักพัฒนามีตัวเลือกในการจัดการและนำเสนอการซื้อภายในแอปแบบใหม่ๆ
App Analytics ยังมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น เพื่อให้นักพัฒนารู้ผลประกอบการของธุรกิจและแอปของตนเองได้โดยละเอียด โดยมีตัวชี้วัดใหม่หลายร้อยรายการในรายงานแบบต่างๆ ทำให้นักพัฒนามองเห็นโอกาสในการปรับปรุงด้านต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น
App Store Connect
แอป App Store Connect สำหรับ iOS และ iPadOS มาพร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่อัปเดตใหม่ และยังมีวิธีการใหม่สำหรับนักพัฒนาในการโปรโมตช่วงเวลาพิเศษของแอปของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวแอปใหม่หรือการออกอัปเดตที่น่าสนใจให้แอปเดิม ตอนนี้นักพัฒนาก็สามารถสร้างสื่อการตลาดได้ง่ายๆ จาก App Store Connect เพื่อแชร์ไปตามช่องทางโซเชียลของตนเองได้โดยตรง หากแอปได้รับการแนะนำเป็นแอปประจำวัน นักพัฒนาจะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน App Store Connect เพื่อเชิญชวนให้สร้างสื่อการตลาดพิเศษเพื่อฉลองโอกาสสำคัญดังกล่าว
การอัปเดตในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งในบรรดาเครื่องมือ เทคโนโลยี และแหล่งข้อมูลอันนับไม่ถ้วนที่เติบโตอย่างต่อเนื่องที่ Apple ได้จัดเตรียมไว้ให้สำหรับนักพัฒนาตลอดมา ดูรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีสำคัญและความสามารถที่น่าสนใจที่พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ที่ developer.apple.com/whats-new