Sony เปิดตัวหูฟังไร้สาย Sony ULT WEAR ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ULT POWER SOUND SERIES ที่มีทั้งลำโพงไร้สายและหูฟังไร้สาย ซึ่งทาง Sony ประเทศไทย เริ่มทำตลาดด้วย ULT WEAR ที่มีรหัสรุ่น WH-ULT900N มาพร้อมสโลแกน “เสียงอันทรงพลัง ในแบบฉบับของตัวคุณ” มีจุดเด่นที่ให้เสียงเบสหนักแน่น พร้อมรองรับการตัดเสียงรบกวนที่ดียิ่งขึ้น จึงรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางเทศกาลดนตรีทุกครั้งที่ฟัง
แกะกล่อง Sony ULT WEAR
Sony ULT WEAR (WH-ULT900N) จัดส่งมาในกล่องสีดำ หน้ากล่องพิมพ์รูปหูฟังด้านข้าง พร้อมชื่อ ULT POWER SOUND ขนาดใหญ่ เด่นกว่าชื่อผลิตภัณฑ์ ULT WEAR ที่ติดอยู่มุมล่าง ภายในกล่องจะพบกับคู่มือ, ใบรับประกัน, โค้ดสำหรับทดลองใช้งาน 360 Reality Audio และกระเป๋าที่เก็บหูฟังไว้ภายใน รวมถึงสายชาร์จ และสายหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
สวมใส่สบาย พกพาสะดวก
Sony ULT WEAR ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสบายให้กับผู้ใช้งาน ด้วยวัสดุที่มีความนุ่มทั้งส่วนครอบศีรษะและเอียร์คัพ หูฟังทั้ง 2 ข้าง ยังให้พื้นที่รอบหูมากขึ้น สามารถพับและหมุนได้ เพิ่มความยืดหยุ่นขณะสวมใส่ และยังจัดเก็บไว้ในกระเป๋าได้ง่ายเมื่อต้องการพกพา โดยมีน้ำหนักประมาณ 255 กรัม ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาวออฟไวท์ และ สีฟอเรสต์เกรย์
ที่ครอบศีรษะสามารถปรับขนาดได้เพื่อให้พอดีกับขนาดศีรษะของผู้ใช้งานแต่ละคน และยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยโลโก้ Sony สีเงินแบบสะท้อนแสง
เอียร์คัพใช้วัสดุฟองน้ำที่ผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อน เพื่อลดรอยยับและเพิ่มแรงจับยึดที่สมดุล โดยให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวล และให้ความกระชับ เพื่อถ่ายทอดคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
หูฟัง Sony ULT WEAR มาพร้อมปุ่ม ULT ที่ข้างตัวหูฟัง สามารถกดเพื่อเพิ่มพลังเสียงเบสให้หนักแน่นยิ่งขึ้น และที่หูฟังข้างเดียวกัน ยังมีปุ่ม NC/AMB สำหรับกดเพื่อสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวนกับฟังเสียงรอบข้าง, ปุ่มเพาเวอร์ ใช้เปิด/ปิดหูฟัง รวมถึงจับคู่กับอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth, ช่องเสียบสายชาร์จ USB-C พร้อมไฟ LED แสดงสถานะ และยังมีช่องเสียบสาย 3.5 มิลลิเมตร
นอกจากความสบาย Sony ULT WEAR ยังถูกดีไซน์มาเพื่อการฟังเสียงคุณภาพสูง ด้วยตาข่ายโลหะช่วยเสริมให้โพรไฟล์มีเสียงที่ทรงพลัง และออกแบบโครงสร้างทางกลไก เพื่อตัดเสียงรบกวนจากโลกภายนอก จึงมอบประสบการณ์ฟังระดับพรีเมียม และยังรองรับการโทรได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
ULT POWER SOUND
Sony ULT WEAR เป็นหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ULT POWER SOUND SERIES ซึ่งออกแบบมาสำหรับคนรักเสียงเพลง เน้นจุดเด่นที่ประสบการณ์ฟัง เสมือนอยู่ท่ามกลางการแสดงสด ด้วยเสียงเบสที่ทรงพลัง ดังนั้น Sony ULT WEAR จึงมาพร้อมปุ่ม ULT ที่ช่วยเพิ่มพลังเสียงเบสให้หนักแน่นยิ่งขึ้น โดย ULT1 หรือกดหนึ่งครั้งจะให้เสียงเบสความถี่ต่ำที่ทุ้มลึกเหมาะสำหรับแนว POP, R&B เก็บครบทุกบีท และกดอีกครั้งจะเป็น ULT2 จะให้เสียงเบสที่ทรงพลังหนักแน่นแบบขั้นสุดเอาใจแนว Techno EDM เบสจะแน่นแบบสุดๆ ประมาณว่าถ้าใครที่ไม่ชอบเบสหนักอาจจะปวดหูได้เลย
ด้านควบคุมการใช้งานนั้นนอกจากจะปุ่ม ULT และปุ่ม NC/AMB สำหรับกดเพื่อสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวนกับฟังเสียงรอบข้าง ที่หูฟังด้านซ้ายแล้ว ที่หูฟังด้านขวาจะรองรับการใช้งานระบบสัมผัส ปัดขึ้นหรือลงเพื่อเพิ่มและลดเสียง ปัดไปทางซ้ายขวาเพื่อเล่นเพลงก่อนหน้าและเพลงถัดไป ใช้ 2 นิ้วแตะเพื่อหยุดหรือเล่นเพลง รวมถึงใช้รับสายวางสาย
และถ้าต้องการพูดคุยกับคนอื่นขณะใส่หูฟังให้ใช้ฝ่ามือแตะหูฟังด้านขวาก็จะเป็นหยุดเพลงและเปิดการใช้งานฟังเสียงรอบข้าง เมื่อนำมือออกก็จะเล่นเพลงต่อโดยอัตโนมัติ
ประสบการณ์การฟังที่ยอดเยี่ยม
หูฟัง Sony ULT WEAR มาพร้อมไดรเวอร์ยูนิตทรงโดมขนาด 40 มิลลิเมตร และขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Integrated Processor V1 แบบเดียวกับที่พบในหูฟัง Sony 1000X Series ช่วยให้เสียงคุณภาพสูงที่แม่นยำใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
โปรเซสเซอร์ Integrated Processor V1 ยังทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Dual Noise ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนให้กับหูฟัง Sony ULT WEAR ทำให้ผู้ใช้งานหลุดเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวเพื่อเพลิดเพลินกับเพลงโปรดอย่างดื่มด่ำมากที่สุด
ขณะเดียวกัน Sony ULT WEAR ยังมีโหมดฟังเสียงรอบข้าง ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะฟังเพลงอยู่บนทางเท้า และช่วยให้ได้ยินเสียงประกาศตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก อย่างไรก็ตาม Sony ULT WEAR ยังมีฟีเจอร์หยุดเล่นชั่วคราว เมื่อผู้ใช้งานถอดหูฟังออก และจะเล่นต่ออัตโนมัติ เมื่อสวมหูฟังอีกครั้ง
ด้วยฟีเจอร์ Adaptive Sound Control ทำให้ Sony ULT WEAR สามารถรับรู้ได้ว่าผู้สวมใส่กำลังทำอะไรและอยู่ที่ใด เพื่อคอยปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะสมกับสถานที่ต่างๆ มากที่สุด และยังสามารถจดจำสถานที่ที่ผู้ใช้งานไปบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ที่ทำงาน หรือ ร้านโปรด เพื่อสลับโหมดเสียงให้เข้ากับสถานที่
ผู้ใช้งาน Sony ULT WEAR ยังสามารถปรับเสียงรอบข้างได้ 20 ระดับ หรือใช้การตั้งค่าเน้นที่เสียงพูด (Focus on Voice) เพื่อให้สนทนาได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง ผ่านแอปพลิเคชัน Sony | Headphones Connect
นอกจากนี้ Sony ULT WEAR ยังรองรับเทคโนโลยีเสียง DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) ช่วยอัพสเกลไฟล์เพลงดิจิตอลที่ถูกบีบอัดแบบเรียลไทม์ เพื่อทำให้เสียงเพลงมีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด และยังมาพร้อมระบบเสียง 360 Reality Audio สามารถวิเคราะห์รูปทรงใบหูของผู้ใช้งานแต่ละคน เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริง
การเชื่อมต่อ
Sony ULT WEAR รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบ Multipoint Connect สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ 2 เครื่อง ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น มีเพื่อนโทรเข้ามา ระหว่างชมภาพยนตร์จากแท็บเล็ต Sony ULT WEAR จะสลับไปเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติ
อายุการใช้งานยาวนาน 50 ชั่วโมง
แบตเตอรี่ของ Sony ULT WEAR สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้ฟังก์ชั่น Noise Cancelling และใช้งานได้สูงสุดถึง 50 ชั่วโมง เมื่อปิดฟังก์ชั่น Noise Cancelling นอกจากนี้ ยังมีระบบ Quick Charge ที่สามารถชาร์จไฟเพียง 3 นาที สามารถนำไปใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 90 นาที
สรุปราคาและการจำหน่าย
Sony ULT WEAR เป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อเน้นการฟังเพลงอย่างแท้จริง โดยมีจุดเด่นที่ให้เสียงเบสหนักแน่นทรงพลัง รองรับการตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังเป็นหูฟังที่มีความฉลาด ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Adaptive Sound Control และเซ็นเซอร์ช่วยหยุด/เล่นเพลง เมื่อถอดหูฟังและสวมใหม่อีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถจับคู่กับอุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง และมีแบตเตอรี่ที่ให้อายุการใช้งานยาวนาน เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการหูฟังจากแบรนด์ Sony ที่วางใจได้ในเรื่องเสียง แต่ไม่ต้องการหูฟังที่มีราคาแพงเกินไป เพราะ Sony ULT WEAR วางจำหน่ายในราคาเพียง 6,990 บาท
พิเศษ!! ซื้อ Sony ULT WEAR ภายในเดือนพฤษภาคม 2567 จะได้รับลำโพงไร้สายรุ่น SRS-XB100 มูลค่า 2,390 บาท ฟรี 1 เครื่อง โดยลงทะเบียนสมาชิก My Sony และกรอกแบบสอบถาม