Apple เริ่มจัดส่ง iPad Pro รุ่นชิป M4 และ iPad Air รุ่นชิป M2 ให้กับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว ตามกำหนดการที่วางไว้ในวันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2024 โดยชาวนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ได้รับ iPad รุ่นใหม่เป็นกลุ่มแรก เนื่องจากเข้าสู่วันที่ 15 พฤษภาคม ก่อนประเทศอื่น
ถัดจากนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย iPad Pro และ iPad Air รุ่นใหม่ จะเริ่มจัดส่งในประเทศต่างๆ ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย, ตะวันออกกลาง, ยุโรป และ สุดท้ายในอเมริกาเหนือ
iPad Pro รุ่นใหม่ ชูจุดเด่นที่ดีไซน์บางเป็นพิเศษ โดยรุ่น 11 นิ้ว บางเพียง 5.3 มิลลิเมตร ขณะที่รุ่น 13 นิ้ว บางเฉียบ 5.1 มิลลิเมตร ทั้งคู่มาพร้อมจอแสงผล OLED ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เรียกว่า Ultra Retina XDR ให้ความสว่างสูงสุด 1600 นิต ตัวเครื่องทำมาจากวัสดุอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน และ สีดำสเปซแบล็ค
iPad Pro รุ่นใหม่ กระโดดข้ามจากชิป M2 มาใช้ชิป M4 ให้ประสิทธิภาพของ CPU เร็วกว่าชิป M2 ใน iPad Pro รุ่นก่อนถึง 50% และมีประสิทธิภาพในการเรนเดอร์เร็วกว่าชิป M2 ถึง 4 เท่า
iPad Pro รุ่นใหม่ ยังมีระบายความร้อนโดยการใช้แผ่นกราไฟท์ในตัวเครื่องหลักและทองแดงในโลโก้ Apple ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้สูงสุด 20% สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการระบายความร้อนได้เร็วกว่า iPad Pro รุ่น M2 ถึง 4 เท่า และเร็วกว่า iPad Pro รุ่นเดิมถึง 10 เท่า
แผนกกล้องของ iPad Pro รุ่นใหม่ ได้รับกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล พร้อม LiDAR Scanner และ แฟลช TrueTone อีกทั้งยังมีไมโครโฟน 4 ตัว ขณะที่กล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล ก็ถูกย้ายไปวางในแนวนอนเช่นเดียวกับ iPad Air รุ่นใหม่
iPad Pro รุ่นใหม่ มีความจุให้เลือก 4 รุ่น 256GB, 512GB, 1TB, 2TB ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐ (39,900 บาท) สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ เริ่มต้น 1,299 ดอลลาร์สหรัฐ (52,900 บาท) สำหรับรุ่น 13 นิ้ว
สำหรับ iPad Air รุ่นใหม่ เป็นครั้งแรกที่มีรุ่น 13 นิ้ว มาให้เลือก พร้อมรุ่น 11 นิ้ว ทั้งคู่ได้รับชิป M2 จัดวางกล้องหน้าในแนวนอน มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีฟ้า, สีม่วง, สตาร์ไลท์ และ สีเทาสเปซเกรย์ มีความจุให้เลือก 4 รุ่น 128GB, 256GB, 512GB, 1TB ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์สหรัฐ (23,900 บาท) สำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ เริ่มต้น 799 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่น 13 นิ้ว (29,900 บาท)
ที่มา – MacRumors