Apple พร้อมวางจำหน่าย MacBook Air รุ่นใหม่ในไทยแล้ว หลังจากเปิดตัวทางการเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดย MacBook Air เวอร์ชัน 2024 มาพร้อมชิป M3 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เน้นดีไซน์บางเบา แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน มีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ซึ่งทีมงาน @Flashfly ได้รับรุ่น 13 นิ้วสีน้ำเงินมิดไนท์ที่เคลือบสารลดรอยนิ้วมือใหม่มาทดสอบใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สเปก MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3
- จอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 นิ้ว พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone
- ชิปประมวลผล Apple M3
- หน่วยความจำแบบรวม (RAM) ขนาด 8GB / 16GB / 24GB
- พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256GB / 512GB / 1TB / 2TB
- Magic Keyboard มาพร้อม Touch ID และ แทร็คแพด Force Touch
- กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p
- การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6E, Bluetooth 5.3
- พอร์ตชาร์จ MagSafe 3, Thunderbolt/USB 4 (2 ช่อง), ช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- ลำโพง 4 ตัว รองรับระบบเสียง Spatial Audio เมื่อเล่นเพลงหรือวิดีโอที่มาพร้อม Dolby Atmos
- ไมโครโฟน 3 ตัว พร้อมบีมฟอร์มมิ่งตามทิศทางของเสียง
- แบตเตอรี่ Lithium Polymer 52.6Wh
- เล่นภาพยนตร์ในแอป Apple TV นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
- ขนาดตัวเครื่อง 304.1 x 215.0 x 11.3 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 1.24 กิโลกรัม
- มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีสตาร์ไลท์, สีเงิน, สีเทาสเปซเกรย์ และ สีมิดไนท์
แกะกล่อง MacBook Air ชิป M3
บรรจุภัณฑ์ของ MacBook Air รุ่นใหม่ในปีนี้ ใช้เยื่อไม้เป็นหลัก 99% ตามเป้าหมายของ Apple ที่ต้องการขจัดพลาสติกออกจากบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2025 โดย MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 มาพร้อมกล่องสีขาวตามสไตล์ Apple หน้ากล่องมีรูปภาพด้านข้างของ MacBook Air ซึ่งเป็นด้านที่มีพอร์ตชาร์จ MagSafe 3 และ พอร์ต Thunderbolt (2 ช่อง)
หลังกล่อง มีการระบุขนาดความจำ RAM ความจุ SSD ถัดลงมาบอกชื่อผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจน พร้อมรายละเอียดเกี่ยวกับสเปกหลักๆ รวมถึงอุปกรณ์ภายในกล่อง และตรงขอบกล่องจะถูกซีลด้วยเทปกาว (ที่ขอบด้านบนกับด้านล่าง) เมื่อลอกออกแล้วก็จะสามารถยกฝากล่องขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
หลังจากยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับ MacBook Air ถูกห่อด้วยซองกระดาษเพื่อป้องกันริ้วรอยระหว่างขนส่ง เมื่อแกะซองออกไปแล้วกาง MacBook ขึ้นมา ก็จะพบกับแผ่นกระดาษกันรอยหน้าจอ ขณะที่ตัวเครื่องก็จะเปิดทำงานโดยอัตโนมัติ
ภายในกล่องยังมีซองเอกสาร ที่บรรจุคู่มือ, บัตรรับประกัน, เอกสารยืนยันการรับรองจาก กสทช. และ สติกเกอร์โลโก้ Apple
นอกจากนี้ ยังแถมสาย USB-C เป็น MagSafe 3 (ยาว 2 เมตร) ใช้สีเดียวกับตัวเครื่อง และมีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ และหัวชาร์จสีขาว (USB-C Power Adapter)
ดีไซน์บางเบา
MacBook Air รุ่นชิป M3 ผลิตออกมาให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับรุ่น 13 นิ้ว สีมิดไนท์โดยครั้งนี้ Apple ยังได้เคลือบสารลดลอยนิ้วมือมาให้ใหม่มารีวิว แต่ยังมีให้เลือกอีก 3 สี ได้แก่ สีสตาร์ไลท์, สีเงิน และ สีเทาสเปซเกรย์ สำหรับภาพรวมของดีไซน์ ยังคงใช้ดีไซน์เดิมจากรุ่นก่อน ซึ่งมีความโดดเด่นที่ความบางของกรอบหน้าจอ และมีรอยบากที่ขอบด้านบน วัสดุหลักเป็นอะลูมิเนียมแบบ Unibody ที่ให้ความแข็งแรงทนทาน และพรีเมียมเหมือนเคย
เนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านดีไซน์ ทำให้ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 มีขนาดและน้ำหนักตัวเครื่องเท่ากับรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ชิป M2 โดยมีความบาง 11.3 มิลลิเมตร และหนัก 1.24 กิโลกรัม
ด้านข้างมีพอร์ตชาร์จ MagSafe 3 และ พอร์ต Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 ช่อง
อีกข้างจะพบช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ใต้ฐานมีแผ่นยางวงกลมติดตั้งไว้ทั้ง 4 มุม ช่วยยึดเกาะพื้นผิวเมื่อวาง MacBook บนโต๊ะ
ด้านบนของฝาเครื่องมีโลโก้ Apple ติดอยู่กึ่งกลาง
เมื่อเปิดฝาเครื่องขึ้นมา จะพบกับจอแสดงผลขนาด 13.6 นิ้ว โดยมีรอยบากที่ขอบด้านบนสำหรับติดตั้งกล้อง FaceTime HD 1080p
ในส่วนของ Magic Keyboard มาพร้อม Touch ID และมีแบ็คไลท์ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ (Ambient light sensor) เพื่อปรับความสว่างอัตโนมัติ บนแผงคีย์บอร์กไม่มีรูตะแกรงลำโพงให้เห็น แต่ติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ลำโพง ประกอบด้วย วูฟเฟอร์ 2 ตัว และทวีตเตอร์ 2 ตัว รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio) ให้มิติเสียงแบบ 3D เมื่อฟังเพลงหรือภาพยนตร์ที่มาพร้อม Dolby Atmos
สำหรับแทร็คแพดมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ถนัด รองรับ Force Touch ที่ไวต่อแรงกด สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้อย่างแม่นยำ รับรู้แรงกดในการคลิกลงน้ำหนัก การเร่งความเร็วตามแรงกด การวาดนิ้วที่ไวต่อแรงกด รวมถึงรองรับคำสั่ง Multi-Touch
นอกจากนี้ MacBook Air รุ่นใหม่ในปี 2024 ยังเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Apple ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลถึง 50% ไม่ว่าจะเป็นอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเครื่อง, แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น หรือทองแดงรีไซเคิล 100% ในแผงวงจรหลัก อีกทั้งยังได้มาตรฐานระดับสูงของ Apple ด้านการประหยัดพลังงาน และยังปลอดสารปรอท สารหน่วงการติดไฟกลุ่มโบรมีน และ PVC
จอแสดงผล 13.6 นิ้วพันล้านสี
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 มาพร้อมจอแสดงผล Liquid Retina แบ็คไลท์แบบ LED พร้อมเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2560 x 1664 พิกเซล ขนาด 13.6 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 224 พิกเซลต่อนิ้ว ให้สีสันถึง 1 พันล้านสี ความสว่าง 500 นิต รองรับขอบเขตสีกว้างแบบ P3 และเทคโนโลยี True Tone ซึ่งอาศัยใช้เซ็นเซอร์แบบหลายช่องสัญญาณระดับสูง ช่วยในการปรับสีและความเข้มของจอภาพ
MacBook Air พร้อมชิป M3 ยังสามารถต่อจอภาพภายนอกได้สูงสุด 2 จอ โดยจะต้องปิดฝาพับหน้าจอ ถ้าเปิดฝาพับหน้าจอขึ้นมาจะต่อออกจอภายนอกได้จอเดียว ซึ่งตามสเปกการต่อจอภายนอกจะรองรับความละเอียดสูงสุดขนาด 6K ที่ 60Hz อีกจอได้สูงสุด 5K ที่ 60Hz เหมาะสำหรับผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ หรือใครก็ตามที่ต้องการใช้จอภาพหลายจอสำหรับทำงานแบบ Multitasking สลับไปมาระหว่างแอป หรือเปิดดูเอกสารหลายอย่างพร้อมกัน
ชิป M3 แบบเดียวกับที่พบใน MacBook Pro
MacBook Air รุ่นใหม่ในปี 2024 ได้รับชิป Apple M3 แบบเดียวกับที่พบใน MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2023 ถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 8-core ที่มีคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ + คอร์ด้านประหยัดพลังงาน 4 คอร์ และ GPU สูงสุดแบบ 10-core
GPU ของชิป M3 ยังทำให้ MacBook Air รุ่นใหม่รองรับการให้แสงเงาแบบเมชที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและประสิทธิภาพในการประมวลผลรูปทรงเรขาคณิตในฉากที่ละเอียดซับซ้อนมากขึ้น และรองรับเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ ทำให้เกมสามารถเรนเดอร์เงาและภาพสะท้อนได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งกว่าเดิม เพื่อใช้ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมจริงยิ่งขึ้น
ชิป M3 ยังมาพร้อม Neural Engine แบบ 16‑core และมีเดียเอนจิ้นล่าสุดที่รองรับการถอดรหัส AV1 เพื่อให้การสตรีมวิดีโอจากบริการต่างๆ มีคุณภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น ด้านความจำ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s รองรับหน่วยความจำแบบรวมขนาด 8GB และสามารถอัปเกรดเป็น 16GB หรือ 24GB ส่วนพื้นที่จัดเก็บข้อมูล SSD เริ่มต้นที่ความจุ 256GB และสามารถอัปเกรดเป็น 512GB, 1TB หรือ 2TB
จากการทดสอบของ Apple พบว่า MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่มาพร้อมชิป M3 มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเล่นเกม No Man’s Sky, การทำงานในสเปรดชีต Excel เร็วขึ้นสูงสุด 35%, การตัดต่อวิดีโอใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 60%, การปรับแต่งภาพด้วย AI โดยใช้คุณสมบัติ Super Resolution ของ Photomator เร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบประสิทธิภาพกับ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่ใช้ชิป M1
แล็ปท็อปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป
ชิป M3 ช่วยยกระดับให้ MacBook Air รุ่นใหม่ กลายเป็นแล็ปท็อประดับผู้ใช้งานทั่วไปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI โดยใช้ประโยชน์จาก Neural Engine แบบ 16-core ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น รวมถึงตัวเร่งความเร็วใน CPU และ GPU เป็นขุมพลังให้กับระบบ Machine Learning เพื่อขับเคลื่อนฟีเจอร์ต่างๆ ด้าน AI ไม่ว่าจะเป็น การแปลภาษา, การแปลงเสียงพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์, การคาดเดาข้อความ, การทำความเข้าใจภาพ, ฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึง รวมไปถึง การใช้งานกล้อง
นอกเหนือจากแอปพลิเคชันพื้นฐานของ macOS ความสามารถด้าน AI ยังรองรับการใช้งานกับแอปพลิเคชันจากนักพัฒนาอื่นๆ ด้วย ตั้งแต่การตรวจทานการบ้านด้วย AI Math Assistance ใน Goodnotes 6 ไปจนถึงการปรับแต่งรูปให้สวยขึ้นโดยอัตโนมัติใน Pixelmator Pro หรือแม้แต่การตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกจากวิดีโอด้วย CapCut
MacBook Air รุ่นชิป M3 ยังสามารถรันโมเดล AI ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) หรือโมเดล Diffusion ที่ใช้ในการสร้างภาพขึ้นมาด้วยตัวของอุปกรณ์เอง และยังรองรับโซลูชันแบบคลาวด์ด้วย จึงสามารถใช้แอปเพื่อการทำงานและสร้างสรรค์ที่อาศัยความสามารถของ AI อย่างเช่น Microsoft Copilot สำหรับ Microsoft 365, Canva และ Adobe Firefly
Wi-Fi 6E
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 ได้รับการปรับปรุงมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11ax จาก Wi-Fi 6 เป็น Wi-Fi 6E ซึ่งมีความเร็วในการดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นสูงสุด 2 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่ใช้ชิป M2 ส่วนการเชื่อมต่อ Bluetooth ยังเป็นเวอร์ชัน 5.3 รวมถึงพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นก่อน
กล้อง FaceTime HD 1080p
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 ติดตั้งกล้อง FaceTime HD ความละเอียด 1080p ไว้ในรอยบาก พร้อมด้วยไมโครโฟน 3 ตัว ช่วยให้การโทร FaceTime ในรูปแบบเสียงและวิดีโอ มีความชัดเจนทั้งภาพและเสียง เหมาะสำหรับวิดีโอคอลกับเพื่อนๆ และครอบครัว ไปจนถึงประชุมออนไลน์อย่างจริงจัง
นอกจากนี้ ยังรองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio) ที่เต็มอิ่มสมจริงพร้อมด้วย Dolby Atmos ให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับมิติเสียงแบบ 3D ไม่ว่าจะฟังเพลงหรือรับชมภาพยนตร์
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 ใช้แบตเตอรี่ Lithium Polymer 52.6Wh ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 18 ชั่วโมง สำหรับรับชมภาพยนตร์ผ่านแอป Apple TV หรือ ท่องเว็บไซต์ผ่าน Wi-Fi ได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง แถมสาย USB-C เป็น MagSafe 3 (ยาว 2 เมตร) สีเดียวกับตัวเครื่อง พร้อมไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ แต่หัวชาร์จ USB-C Power Adapter มีสีขาว และมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการปรับแต่งฮาร์ดแวร์
MacBook Air รุ่นชิป M3 ที่มี GPU แบบ 8‑core จะได้รับหัวชาร์จ 30W USB-C Power Adapter แต่ถ้าเป็นเวอร์ชันที่มี GPU แบบ 10‑core และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 512GB ขึ้นไป จะได้รับหัวชาร์จ 35W Dual USB-C Port Power Adapter ซึ่งมีพอร์ต USB-C มาให้ 2 ช่อง สามารถชาร์จ MacBook พร้อม iPhone หรือ อุปกรณ์อื่นได้ในเวลาเดียวกัน
สรุปราคาและการจำหน่าย
MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M3 ถูกสร้างมาแทนที่รุ่นชิป M2 ที่เปิดตัวในปี 2022 โดยมุ่งเน้นไปที่การอัปเกรดประสิทธิภาพของชิปประมวลผลที่มีความแรงมากขึ้น ให้ประสิทธิภาพเทียบเท่า MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ที่เปิดตัวในปี 2023 จึงเป็นแล็ปท็อปที่ตอบสนองการทำงานทั่วไปได้อย่างลื่นไหล ขณะเดียวกัน ยังเล่นเกมระดับ AAA ได้อย่างราบรื่น แต่ด้วยดีไซน์แบบไร้พัดลม ทำให้ MacBook Air ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเล่นเกมโดยตรง แต่ถ้าเป็นเรื่องการทำงานทั่วไป MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ชิป M3 ถือว่าตอบสนองการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเคย
ส่วนที่คนใช้ MacBook Air M1 และ M2 จำเป็นไหมที่จะต้องอัปเกรด ตอบได้ว่าไม่จำเป็นเพราะประสิทธิภาพของชิปดังกล่าวยังใช้งานได้ดี ไม่ค่อยสมเหตุ ผลนักหากจะซื้อเพื่อใช้งาน 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา แต่หากใช้ชิปรุ่นอินเทล หรือใช้โน้ตบุ๊กจากแพลตฟอร์มวินโดวส์จะเห็นความแตกต่างประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างเห็นชัดมากที่สุดในแล็ปท็อป สำหรับผู้บริโภคที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ทั้งนี้ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M3 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 39,900 บาท และมีราคาส่งเสริมการศึกษาเริ่มต้นที่ 36,300 บาท โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเงิน และ สีเทาสเปซเกรย์ สำหรับคนที่มองหา MacBook Air M1 ที่ Apple ได้เลิกทำตลาดไปแล้วยังคงหาซื้อได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วไป อาจหาได้ในราคาไม่ถึงสามหมื่นบาท
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.apple.com/th/shop/buy-mac/macbook-air
