HONOR เขย่าตลาดสมาร์ตโฟนจอพับได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังจากเปิดตัว HONOR Magic V2 ในระดับโลก และล่าสุดพร้อมแล้วสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยชูจุดเด่นที่ดีไซน์บางเบาที่สุดในโลก สมกับสโลแกน Foldable Ultra Slim พับที่บางกว่า
สเปก HONOR Magic V2
- จอแสดงผลหลัก OLED ขนาด 7.92 นิ้ว อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz
- จอแสดงผลด้านนอก OLED ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz
- กล้องหลัก 50MP + 50MP + 20MP (Wide + Ultra Wide + Telephoto Camera)
- กล้องหน้า 16MP (ทั้งด้านนอกและด้านใน)
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2
- ความจำ RAM 16GB + ROM 512GB
- การเชื่อมต่อไร้สาย 5G, 4G LTE, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, NFC, Infrared Remote Control, USB Type-C
- เซ็นเซอร์ Gravity Sensor, Gyroscope, Compass, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Infrared Sensor, Fingerprint Sensor
- ระบุตำแหน่ง GPS (L1+L5) / AGPS / GLONASS / BeiDou (B1I+B1C+B2a) / Galileo (E1 + E5a)
- ระบบปฏิบัติการ MagicOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 13
- แบตเตอรี่ 5,000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 66W Super Charge
ดีไซน์บางเบาที่สุดในเซกเมนต์
ดีไซน์โดยรวมของ HONOR Magic V2 มีความโดดเด่นที่ความบางและน้ำหนักเบาที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนจอพับได้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อตัวเครื่องถูกพับอยู่ และใช้งานจอแสดงผลด้านนอก จะให้ประสบการณ์แบบเดียวกับสมาร์ตโฟนรูปทรงแท่ง แต่เมื่อกางออกมาก็จะมีความบางกว่าคู่แข่ง จึงจับถือได้สบายมือ และพอพับเก็บก็พกพาได้ง่ายกว่า
HONOR Magic V2 ในไทย มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีม่วง และ สีดำ ซึ่งมีวัสดุภายนอกแตกต่างกัน ทำให้มีขนาดและน้ำหนักแตกต่างกันเล็กน้อย ตัวเลือกสีม่วงใช้ฝาหลังกระจก มีน้ำหนักประมาณ 237 กรัม (รวมแบตเตอรี่) เมื่อถูกพับจะมีขนาด 156.7 x 74.0 x 10.1 มิลลิเมตร และ เมื่อกางออก จะมีขนาด 156.7 x 145.4 x 4.8 มิลลิเมตร
HONOR Magic V2 สีดำ ฝาหลังใช้วัสดุหนัง PU มีน้ำหนักประมาณ 231 กรัม (รวมแบตเตอรี่) เมื่อถูกพับจะมีขนาด 156.7 x 74.0 x 9.9 มิลลิเมตร และ เมื่อกางออก จะมีขนาด 156.7 x 145.4 x 4.7 มิลลิเมตร
ขอบด้านข้างเมื่อกางออกจะพบว่ามีความบางเฉียบไม่ถึงครึ่งเซนติเมตร มาพร้อมปุ่มเพาเวอร์ขนาดใหญ่ เนื่องจากรวมเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย ส่วนปุ่มปรับระดับเสียง ถูกติดตั้งแยกไว้อีกข้าง
ด้านบนจะพบกับไมโครโฟนตัวที่ 2, เซ็นเซอร์ Infrared สำหรับใช้งานเป็นรีโมทคอนโทรล และ ลำโพงสเตอริโอ (ขับเสียงร่วมกับลำโพงด้านล่าง) รองรับเอฟเฟกต์เสียง DTS:X Ultra
ด้านล่างมีไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C (USB 3.1 Gen 1), ถาดใส่ซิมการ์ด (รองรับ 2 ซิมการ์ด Dual Nano SIM) และ ลำโพง
จอใหญ่ 7.92 นิ้วพันล้านสี รีเฟรช 120Hz
HONOR Magic V2 ได้รับการออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องกางอุปกรณ์ โดยใช้จอแสดงผลด้านนอกแบบ OLED ที่ให้สีสันถึง 1.07 พันล้านสี รองรับช่วงสีกว้าง DCI-P3 ความละเอียด 2376 x 1060 พิกเซล ขนาด 6.43 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Nanocrystal Glass รุ่นที่ 2 ทนทานต่อการตกหล่นมากกว่า 10 เท่า (เทียบกับกระจกธรรมดาบนวัสดุที่มีน้ำหนักเท่ากัน)
หากต้องการรับชมความบันเทิงหรือใช้งานได้อย่างเต็มที่ ให้กางอุปกรณ์ออกเพื่อพบกับจอแสดงผลหลัก OLED แบบพับได้ มีความลึกสี 1.07 พันล้านสี รองรับช่วงสีกว้าง DCI-P3 และให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz เช่นเดียวกัน แต่มีความละเอียด 2344 x 2156 พิกเซล ขนาด 7.92 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 9.7:8 รองรับการใช้งาน 2 แอปแบบแยกหน้าต่างได้อย่างลงตัว หรือ จะเปิดแอปที่ 3 แบบหน้าต่างลอยก็ทำได้เช่นกัน
จอแสดงผลทั้ง 2 จอของ HONOR Magic V2 สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น หมายความว่า ขณะที่กำลังใช้งานจอแสดงผลด้านนอก แล้วต้องการขยายให้ใหญ่ขึ้น ก็สามารถกางอุปกรณ์ออก แล้วรับชมได้อย่างต่อเนื่องบนจอแสดงผลหลัก ในทางกลับกัน เมื่อพับอุปกรณ์กลับมาใช้จอแสดงผลด้านนอก คอนเทนต์ที่กำลังใช้งานอยู่บนจอด้านใน ก็จะย้ายมาแสดงผลบนจอด้านนอก และถ้าไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ ทั้ง 2 หน้าจอ ยังรองรับการใช้งานร่วมกับสไตลัส HONOR Magic-Pen แต่เป็นอุปกรณ์เสริม วางจำหน่ายแยกต่างหาก
จอแสดงผลของ HONOR Magic V2 ยังมาพร้อมเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูง 3840Hz ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยลดอัตราการกระพริบและลดแสงของหน้าจอ ซึ่งได้รับการรับรองโดย TÜV Rheinland Flicker Free ทำให้จ้องหน้าจอเป็นเวลานานได้อย่างสบายตา
นอกจากนี้ จอแสดงผลของ HONOR Magic V2 ยังมีฟีเจอร์ Dynamic Dimming ที่เลียนแบบจังหวะแสงธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อตา และลดความเมื่อยล้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งระดับความสว่างของจอแสดงผลจะปรับตามสภาพแสงภายนอก และระยะเวลาบนหน้าจอโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Circadian Night Display ช่วยปรับหน้าจอให้เป็นสีโทนอุ่นและลดสีที่เป็นตัวกระตุ้นสำคัญในตอนกลางวัน เพื่อเพิ่มระดับเมลาโทนิน มีส่วนส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับดีขึ้นและพักผ่อนได้ยาวนาน
บานพับไทเทเนียมใช้งาน 10 ปี
ถึงแม้จะมีดีไซน์ที่บางกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน แต่ในด้านความทนทาน HONOR Magic V2 ก็ไม่แพ้สมาร์ตโฟนจอพับได้รุ่นอื่นๆ ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างของบานพับมาใช้ไทเทเนียมเป็นรุ่นแรก ซึ่งมีความพิเศษที่น้ำหนักเบา แต่ยังให้ความแข็งแกร่ง และเพิ่มศักยภาพด้านความแข็งแกร่งและความทนทานให้กับกลไกบานพับ ด้วยเหล็กกล้าที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ HONOR และได้รับการรับรองความทนทานจาก SGS หน่วยงานระดับโลก ทนทานต่อการพับมากกว่า 400,000 ครั้ง และรับประกันอายุการใช้งานสูงสุดยาวนานถึง 10 ปี สำหรับการพับ 100 ครั้งต่อวัน
กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลใช้ถ่ายเซลฟี่ได้
การถ่ายภาพถือเป็นอีกจุดเด่นของ HONOR Magic V2 เนื่องจากเป็นอุปกรณ์พับได้ จึงสามารถกางหน้าจอออก 180 องศา เพื่อใช้กล้องหลังถ่ายภาพเซลฟี่ได้ โดยใช้จอแสดงผลด้านนอกแสดงตัวอย่างภาพแบบเรียลไทม์ หรือจะกางอุปกรณ์ 90 องศา ก็สามารวางสมาร์ตโฟนได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง จึงไม่ต้องอาศัยขาตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อถ่ายรูป
กล้องหลังของ HONOR Magic V2 ประกอบด้วย กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล (OIS), กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และ กล้อง Telephoto ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS รองรับการซูมสูงสุด 40 เท่า สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
นอกจากกล้องหลัง 3 ตัว ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับข้อมูลเชิงลึก, ระบบเลเซอร์โฟกัส ช่วยจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ, เซ็นเซอร์อุณหภูมิสี ช่วยถ่ายภาพในสภาวะแสงที่ซับซ้อน และยังมีเซ็นเซอร์ช่วยลดการกะพริบของภาพ
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า HONOR Magic V2 สามารถกางออก 90 องศา เพื่อวางตัวเครื่องแทนใช้ขาตั้งได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร ผ่านฟีเจอร์ AI Motion Sensing Capture เปิดใช้งานได้จากการตั้งค่า Smart Photoshoot ในแอปกล้อง
หลังจากเปิดใช้งานฟีเจอร์ AI Motion Sensing Capture กล้องหลังของ HONOR Magic V2 จะจับภาพโดยอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับคน วัตถุ หรือ สิ่งมีชีวิตที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จึงเหมาะสำกรับการถ่ายผู้คนที่กำลังเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการกระโดด ตีแบดมินตัน ตีปิงปอง วิ่ง แต่ก็สามารถตรวจจับผู้คนที่กำลังยิ้ม รวมถึงการเคลื่อนไหวของแมวและสุนัขได้เช่นกัน
กล้องหน้า 2 ตัวถ่ายวิดีโอ 4K
เนื่องจาก HONOR Magic V2 สามารถใช้กล้องหลักถ่ายเซลฟี่ได้ ดังนั้น กล้องหน้าอาจไม่มีความจำเป็นเท่าไรในการถ่ายเซลฟี่ แต่ก็ติดตั้งมาให้ 2 ตัว วางในหลุมบนหน้าจอด้านนอกและหน้าจอหลักด้านใน กล้องหน้าทั้ง 2 ตัว มีสเปกเดียวกัน ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และสามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
กล้องหน้าของ HONOR Magic V2 ถูกออกแบบมาเพื่อเน้นใช้งานวิดีโอแชทหรือประชุมออนไลน์ สามารถกางอุปกรณ์ 90 องศา แล้ววางในแนวนอน เพื่อวิดีโอคอลได้อย่างอิสระ ไม่ต้องคอยถือสมาร์ตโฟนให้เมื่อยมือ นอกจากนี้ ยังใช้กล้องหน้าเพื่อปลดล็อคสมาร์ตโฟน แทนการสแกนลายนิ้วมือก็ได้เช่นกัน
ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 2
HONOR Magic V2 ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 ซึ่งเป็นชิประดับเรือธงของ Qualcomm ผลิตบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร ของ TSMC มาพร้อมซีพียู 64-bit Octa Core และจีพียู Adreno 740 ตอบสนองงานด้านกราฟิกและเล่นเกมระดับ AAA ได้อย่างลื่นไหล ด้านความจำ HONOR Magic V2 ในไทยมีตัวเลือกเดียว RAM 16GB จับคู่กับ ROM 512GB
แบตใหญ่กว่า แต่บางกว่า
มาถึงช่วงท้ายของรีวิวแล้ว คงต้องขอย้ำกันอีกครั้งว่า HONOR Magic V2 เป็นสมาร์ตโฟนจอพับได้ ที่ต้องย้ำเพราะกลัวว่าทุกคนจะลืม เนื่องจาก HONOR Magic V2 ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh ไม่เพียงแต่มีความจุมากกว่าสมาร์ตโฟนจอพับได้รุ่นอื่น แต่ยังมีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนเรือธงรูปทรงแท่งหลายรุ่นในตลาด จึงมั่นใจได้ว่าจะให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน
เบื้องหลังที่ทำให้ HONOR สามารถบรรจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ไว้ในตัวเครื่องที่บางเฉียบเพียง 4.7 มิลลิเมตรได้ คือ การใช้แบตเตอรี่แบบคู่ Silicon-Carbon ที่พัฒนาขึ้นโดย HONOR ทำให้แบตเตอรี่มีความบางเพียง 2.72 มิลลิเมตร แต่ให้ความจุมากที่สุดเมื่อเทียบกับระบบแบตเตอรี่ที่ใช้กราไฟต์ด้วยเทคโนโลยีรวบรวมพลังงานประจุไฟฟ้าแรงดันต่ำที่ปฏิวัติวงการของ HONOR สามารถส่งออกพลังงานได้มากขึ้นขณะที่ใช้แรงดันไฟฟ้าเท่าเดิม
นอกจากจะให้ความจุแบตเตอรี่ที่มากกว่า HONOR Magic V2 ยังสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 66W Super Charge โดยแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 66W Power Adapter มาให้แล้วในกล่องไม่ต้องซื้อเพิ่ม
สรุปราคาและการจำหน่าย
HONOR Magic V2 มีจุดเด่นที่ดีไซน์บางเบา พกพาได้ง่ายเหมือนสมาร์ตโฟนรูปทรงแท่งทั่วไป และยังให้ความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานในทุกๆ วัน เมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนจอพับได้รุ่นอื่นๆ ในตลาด ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนการนำสมาร์ตโฟน 2 เครื่องมาประกับเข้าหากัน แต่ด้วยความบางของ HONOR Magic V2 ไม่ได้ทำให้รู้สึกแบบนั้นเลย ดังนั้น สโลแกนที่ว่า “Foldable Ultra Slim พับที่บางกว่า” จึงไม่ได้เป็นการพูดเกินจริง นอกจากนี้ ยังมีประสิทธิภาพระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลที่คมชัดขนาดใหญ่ ใช้ชิปตัวแรงจาก Qualcomm แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน และ ยังมีกล้องถ่ายรูปคุณภาพสูง สามารถใช้กล้องหลักถ่ายเซลฟี่ได้อย่างสะดวก
ถึงแม้สมาร์ตโฟนจอพับได้จะถูกป้อนสู่ตลาดมานาน 5 ปีแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์เช่นเดียวกับ HONOR Magic V2 ที่วางจำหน่ายในไทยแล้ว ด้วยราคา 59,990 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูงสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่ไม่ได้แพงเกินไปสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหานวัตกรรมใหม่ที่คาดหวังจากได้สมาร์ตโฟนจอพับได้ที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน