OPPO นำกล้องถ่ายรูปมืออาชีพมาสู่สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ OPPO Find X7 Ultra ด้วยระบบกล้องหลังคุณภาพสูง 50 ล้านพิกเซล ทั้ง 4 ตัว ผสานการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพที่ล้ำหน้าไปอีกขั้นอย่าง AIGC (GenAI Object Removal) และ HyperTone Image Engine พร้อมด้วยโหมดถ่ายภาพ Hasselblad Portrait และ Master Mode โดยมีดีไซน์ที่สวยงามราวกล้องคลาสสิคระดับพรีเมียม แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับชาร์จไว 100W และตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็วทันใจจากชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดของ Qualcomm
สเปก OPPO Find X7 Ultra
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.82 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 4500 นิต
- กล้องหลัง 50MP Quad Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
- ความจำ RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB + ROM UFS 4.0 สูงสุด 512GB
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, IR Blaster, NFC, USB Type-C
- สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ Under-display Fingerprint Scanner
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็วแบบใช้สาย 100W SUPERVOOC
- รองรับชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W AIRVOOC และ 10W Reverse Wireless Charging
- ขนาดตัวเครื่อง 164.3 x 76.2 x 9.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 221 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Ocean Blue ,Sepia Brown และ Tailored Black
แกะกล่อง OPPO Find X7 Ultra
OPPO Find X7 Ultra ถูกเก็บไว้ในกล่องสีดำ หน้ากล่องระบุชื่อรุ่น Find X7 Ultra ไว้อย่างชัดเจน โดยมีเลข 7 ขนาดใหญ่อยู่ในกรอบสีเงิน และใต้กรอบจะพบโลโก้ OPPO วางคู่กับโลโก้ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลก ซึ่งทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมกันทำงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการถ่ายภาพให้กับกล้องบนสมาร์ตโฟนของ OPPO
เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับกล่องแบนๆ สีดำ ภายในแถมเคสมาให้ 1 อัน พร้อมคู่มือ Quick Guide และ เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด
สำหรับสมาร์ตโฟน OPPO Find X7 Ultra ถูกห่อหุ้มมาอย่างดี วางอยู่บนถาดรอง หลังจากยกถาดรองสมาร์ตโฟนออกไป จะพบกับสายชาร์จ USB-A to USB-C และหัวชาร์จ 100W Power Adapter
ครั้งแรกของสมาร์ตโฟนเรือธงที่มาพร้อมกล้อง 50MP ประสิทธิภาพสูง 4 ตัว
ระบบกล้องหลังเป็นจุดเด่นที่สำคัญของ OPPO Find X7 Ultra เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้รับกล้อง 50 ล้านพิกเซล ประสิทธิภาพสูง 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก, กล้อง Ultra Wide และมีกล้อง Telephoto แบบ Periscope มาให้ 2 ตัว ครอบคลุมทางยาวโฟกัส 14 มม. ถึง 135 มม.
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว (รุ่นที่ 2) รูรับแสง f/1.8 ชุดเลนส์ 1G + 7P มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ทางยาวโฟกัส 23 มม.
- กล้อง Ultra Wide ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว รองรับระบบออโต้โฟกัส ระยะโฟกัส 4 ซม. ทางยาวโฟกัส 14 มม.
- กล้อง Telephoto (1) แบบ Periscope ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/2.6 ซูม 3x มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Prism OIS ระยะโฟกัส 25 ซม. ทางยาวโฟกัส 65 มม.
- กล้อง Telephoto (2) แบบ Periscope ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 ขนาด 1/2.51 นิ้ว รูรับแสง f/4.3 ซูม 6x มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Prism OIS ระยะโฟกัส 35 ซม. ทางยาวโฟกัส 135 มม.
HyperTone Image Engine
HyperTone Image Engine ที่มาพร้อมกล้องหลัง 50MP ทั้ง 4 ตัว แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการถ่ายภาพด้วยการประมวลผลที่ดีของ OPPO Find X7 Ultra เพื่อให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามคมชัดเป็นธรรมชาติมากที่สุด ดังนั้น อัลกอริทึมการถ่ายภาพขั้นสูงของ HyperTone Image Engine จะทำให้องค์ประกอบโดยรวมของภาพถ่ายมีความผิดเพี้ยนน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นไฮไลท์ เงา และโทนสี ต้องดูสมบูรณ์แบบ ไม่เปิดรับแสงน้อยเกินไปหรือมากเกินไป
ผู้ใช้งาน OPPO Find X7 Ultra จะเห็นประโยชน์ของ HyperTone Image Engine อย่างชัดเจนในการถ่ายภาพ HDR ในฉากย้อนแสง ซึ่งมีการเปิดรับแสงอย่างพอดี ทำให้ภาพถ่ายดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าของแบบไม่สว่างเกินไป หรือการถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ซึ่งให้ความคมชัดและควบคุม Noise ได้อย่างดี ไม่ทำให้ภาพถ่ายออกมาดูเหมือนภาพวาด
รองรับการซูมแบบออปติคัล 6x ซูมสูงสุด 120x
การซูมถือเป็นอีกจุดเด่นที่ OPPO Find X7 Ultra แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างชัดเจน ด้วยกล้อง Ultra Wide 14 มม. (0.6x) ไปจนถึงกล้อง Telephoto 135 มม. (6x) พร้อมทางยาวโฟกัสออปติคัล 4 ทาง และเหนือกว่าด้วยพลังของการซูมด้วยเซ็นเซอร์
การผสมผสานระหว่างทางยาวโฟกัสแบบออปติคัล 4 ทาง ของ OPPO Find X7 Ultra เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูง และความสามารถในการซูม AI ขั้นสูง ช่วยลดช่องว่างที่สมาร์ตโฟนรุ่นอื่นๆ ไม่สามารถทำได้ การผสมผสานนี้สร้างช่วงที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับภาพถ่ายที่คมชัดที่สุด ตั้งแต่ ultra-wide 14 มม. (0.6x) ไปจนถึง 270 มม. (12x) ที่เข้าถึงได้ไกล แม้จะซูม 20x หรือสูงกว่านั้น ก็ให้ผลลัพธ์ที่ทัดเทียมและเหนือกว่าการซูมด้วยกล้องมือถือที่ทรงพลังที่สุด
กล้องหลัก หรือกล้อง Wide ของ OPPO Find X7 Ultra มีทางยาวโฟกัส 23 มม. (1x) ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว รุ่นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเซ็นเซอร์ Sony IMX989 ถึง 32% และเมื่อจับคู่กับเลนส์ที่ปรับแต่งเองของ OPPO ก็ทำให้การเสียดสีของเลนส์ลดลง 50% ช่วยปลดล็อกการถ่ายภาพด้วยการประมวลผลขั้นสูงที่เคยมีบนสมาร์ตโฟน
OPPO Find X7 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้รับการติดตั้งกล้อง Telephoto แบบ Periscope มาให้ 2 ตัว โดยตัวแรกใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว รูรับแสง f/2.6 มีทางยาวโฟกัส 65 มม. (3x) และมีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ 25 ซม. จึงสามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้อย่างยอดเยี่ยม
กล้อง Telephoto อีกตัว ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX858 มีทางยาวโฟกัส 135 มม. (6x) เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลออกไป และยังอาศัยเทคโนโลยี AI ช่วยปรับปรุงคุณภาพการซูมที่ระยะ 20x ถึง 30x รวมไปถึงการซูมดิจิทัลสูงสุด 120x
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ของ OPPO Find X7 Ultra มีทางยาวโฟกัส 14 มม. (0.6x) ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.95 นิ้ว จับคู่กับรูรับแสง f/2.0 ให้ความสมดุลของส่วนไฮไลท์ รายละเอียด ช่องรับแสง สีที่แม่นยำ และขอบเขตการมองเห็นที่กว้างเป็นพิเศษแบบไดนามิก
Hasselblad Portrait
OPPO Find X7 Ultra รองรับการถ่ายภาพแบบ Hasselblad Portrait ซึ่งสามารถสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ที่ชัดเจนแบบภาพยนตร์ เมื่อผู้ใช้งานถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait ทางยาวโฟกัสจะจับคู่กับคุณลักษณะเฉพาะของเลนส์ Hasselblad ตามตัวอย่างด้านล่าง
- ถ่ายภาพที่ระยะ 1x จะตรงกับเลนส์ XCD 3,5/30 ของ Hasselblad
- ซูม 2x จะตรงกับเลนส์ XCD 2,8/65 ของ Hasselblad
- ซูม 3x จะตรงกับเลนส์ XCD 1,9/80 ของ Hasselblad
- ซูม 6x จะตรงกับเลนส์ XCD 2,8/135 ของ Hasselblad
โหมด Hasselblad Portrait ยังสร้างมิติที่เป็นธรรมชาติทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของฉาก เช่นเดียวกับเลนส์ Telephoto Portrait หมายความว่าทุกองค์ประกอบในภาพจะให้ระยะที่มีมิติสมจริง ตัวอย่างเช่น วัตถุที่อยู่เบื้องหน้าจะมีความคมชัดกว่า ส่วนวัตถุที่อยู่ไกลออกไปจะเบลอไปตามความลึก และยังทำงานร่วมกับ HyperTone Image Engine จึงสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบแต่เส้นผมที่อยู่เบื้องหน้าฉากที่มีความซับซ้อน
นอกจากนี้ โหมด Portrait ที่พัฒนาโดย Hasselblad ยังให้โทนสีที่สมจริงตามธรรมชาติ โดยมีความล่าช้าของชัตเตอร์น้อยที่สุด และมีระยะโฟกัสถึง 9 เมตร จึงสามารถถ่ายภาพบุคคลในระยะไกลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนบนกล้องสมาร์ตโฟน
Master Mode
สำหรับผู้ใช้งานที่มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายภาพ จะต้องถูกใจกับ Master Mode ของ OPPO Find X7 Ultra ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการตั้งค่ากล้องได้แบบแมนนวล และได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ให้ตรงกับคุณลักษณะของ Hasselblad X2D 100C อันเป็นเอกลักษณ์
ใน Master Mode ผู้ใช้งานสามารถควบคุม ISO, ความเร็วชัตเตอร์, ค่าแสง, โฟกัส และ สมดุลสีขาว ได้อย่างอิสระขึ้นอยู่กับฉากที่ต้องการถ่ายภาพ อีกทั้งยังสามารถปรับความอิ่มตัว, คอนทราสต์, ความคมชัด และ ขอบภาพ ได้อย่างแม่นยำ เพียงเปิดใช้งาน Master Effect
OPPO Find X7 Ultra ยังรองรับการถ่ายภาพรูปแบบ RAW ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ด้วยความลึกสี 16-bit และช่วงไดนามิก 13 Stops ซึ่งตรงกับมาตรฐาน BT.2020
การถ่ายวิดีโอก็ได้รับการอัปเกรดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้าหรือกล้องหลัง ก็สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ด้วยอัตรา 60 เฟรมต่อวินาที โดยกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล ยังมีตัวเลือกในการซูม 0.8x, 1x, 2x ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ส่วนกล้องหลัง สามารถบันทึกวิดีโอในรูปแบบ Dolby Vision 10-bit ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที สำหรับกล้องหลัก และ 30 เฟรมต่อวินาที สำหรับกล้อง Ultra Wide หรือ Telephoto โดยมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization) ทำให้ภาพเคลื่อนไหวออกมาราบรื่นนุ่มนวล
AIGC Remover ลบวัตถุออกจากภาพถ่ายด้วย AI
ไม่เพียงแต่ได้รับฮาร์ดแวร์กล้องคุณภาพสูง OPPO Find X7 Ultra ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน ที่จะมายกระดับผู้ใช้งานทั่วไปให้กลายเป็นช่างภาพมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี Generative AI มาช่วยในการแก้ไขภาพถ่ายผ่านฟีเจอร์ AIGC Remover (GenAI Object Removal เวอร์ชัน Beta)
ด้วยเทคโนโลยี GenAI Object Removal ทำให้ OPPO Find X7 Ultra สามารถทำความเข้าใจกับฉากทั้งหมดในภาพถ่ายที่มีความซับซ้อน จึงสามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการให้ปรากฏในรูปภาพ รวมถึงเพิ่มความสวยงามตามธรรมชาติให้กับภาพถ่ายได้อย่างชาญฉลาด
เมื่อต้องการแก้ไขภาพถ่ายให้เข้าไปที่แอป Photos เลือกภาพถ่ายที่ต้องการแล้วแตะ Edit จากนั้นเลือกเครื่องมือ AIGC Remover จากนั้นเลือกวัตถุที่ต้องการลบออก โดยใช้เครื่องมือ Smart lasso หรือ Paint over ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายๆ เพราะเทคโนโลยี GenAI Object Removal สามารถรับรู้ได้ว่าผู้ใช้งานต้องการลบวัตถุใดออกไป จึงไม่ต้องบรรจงลากเส้นล้อมรอบวัตถุอย่างพิถีพิถัน
ตัวอย่างภาพถ่าย
ให้สัมผัสพรีเมียม ในสไตล์ที่ล้ำสมัย
ดีไซน์โดยรวมของ OPPO Find X7 Ultra ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก OPPO Find X6 Pro แต่ถูกปรับแต่งให้มีสไตล์ที่ล้ำสมัย มาพร้อมฝาหลังแบบหนังวีแกนขอบโค้งมนรับกับกรอบโลหะที่ง่ายสำหรับการจับถือ ให้สัมผัสที่หรูหราพรีเมียม และสร้างความโดดเด่นด้วยดีไซน์กล้องหลังแบบ Cosmos Ring พร้อม Starlight Track ที่สะท้อนถึงวงแหวนมุมกว้างของเลนส์ระดับโปร
นอกเหนือจากดีไซน์ที่หรูหรา OPPO Find X7 Ultra ยังถูกสร้างมาให้มีความทนทานสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ผ่านการรับรองมาตรฐานป้องกันฝุ่นและกันน้ำในระดับ IP68 (สามารถต้านทานน้ำจืดได้ลึกสูงสุด 1.5 เมตร นานสูงสุด 30 นาที และป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรก และทราย ได้เต็มรูปแบบ)
OPPO Find X7 Ultra มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Ocean Blue ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของน้ำทะเลลึก, สีดำ Tailored Black ให้ความหรูหราคลาสสิกด้วยการเดินตะเข็บคู่ และ สีน้ำตาล Sepia Brown ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว ดูเหมือนว่าได้รับอิทธิพลมาจากสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO Find X6 Pro โดยสี Ocean Blue และ Sepia Brown มีดีไซน์แบบทูโทนอย่างชัดเจน ระหว่างฝาหลังหนังวีแกนตัดกับโลหะขัดเงาของพื้นที่กล้องหลัง
ด้านข้างฝั่งซ้ายมีปุ่มแบบสไลด์ในการปิด เปิดเสียง และเข้าสู่ VIP Mode สำหรับใช้งานปกป้องข้อมูลส่วนตัวขั้นสุด
จอแสดงผลให้ความสว่างถึง 4500nit
จอแสดงผล AMOLED ของ OPPO Find X7 Ultra เรียกได้ว่าเป็นหน้าจอที่มีความสว่างที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนปัจจุบัน ด้วยความสว่างสูงสุด 4,500 นิต เมื่อรับชมคอนเทนต์ HDR และให้ความสว่างสูงสุดแบบเต็มหน้าจอ 1600 นิต โดยมีความละเอียด 3168 x 1440 พิกเซล ขนาด 6.82 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 510 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้สีสันคมชัด 1.07 พันล้านสี
จอแสดงผลของ OPPO Find X7 Ultra รองรับขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 สนับสนุนมาตรฐาน Dolby Vision, HDR10+, HDR10, HLG และ HDR Vivid อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ ProXDR ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพหน้าจอ เมื่อเปิดดูภาพถ่ายในอัลบั้ม โดยจอแสดงผลจะปรับสีและความสว่าง เพื่อแสดงสีสัน แสงและเงา ของภาพถ่ายได้แม่นยำสมจริงยิ่งขึ้น ตามฉากและบรรยากาศที่ผู้ใช้งานไปถ่ายมา รับประกันได้ว่าภาพที่เห็นจะไม่สูญเสียข้อมูลที่มีช่วงไดนามิกสูงและสเปกตรัมสีที่หลากหลาย สามารถรับชมได้อย่างละเอียดบนจอแสดงผลของสมาร์ตโฟน
และด้วยเทคโนโลยี LTPO ยังช่วยให้จอแสดงผลของ OPPO Find X7 Ultra สามารถสลับระหว่างอัตราการรีเฟรชที่ 1Hz ถึง 120Hz โดยอัตโนมัติ ซึ่งมีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ ขณะเดียวกันยังเป็นจอแสดงผลที่ช่วยถนอมดวงตา สามารถปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ได้ที่ความถี่สูง 2160Hz เพื่อลดการกะพริบของหน้าจอ และผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland Eye Comfort Certified
ชิปเรือธง Snapdragon 8 Gen 3
OPPO Find X7 Ultra ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ถือเป็นชิป SoC (System On Chip) ที่ทรงพลังที่สุดของอุปกรณ์ Android ในปัจจุบัน ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร ที่มี CPU แบบ 64-bit Octa Core วางคลัสเตอร์ 1 + 5 + 2 ประกอบด้วย Arm Cortex-X4 ขนาดใหญ่พิเศษ 1 คอร์ ความถี่สูงสุด 3.3GHz, Arm Cortex-A720 ขนาดใหญ่ 5 คอร์ และ Arm Cortex-A520 ขนาดเล็ก 2 คอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น
- Arm Cortex-X4 (1 Prime core) ความเร็วสูงสุด 3.30GHz
- Arm Cortex-A720 (5 core) แบ่งความเร็วเป็น 3.20GHz (3 core) + 3.00GHz (2 core)
- Arm Cortex-A520 (2 core) ความเร็วสูงสุด 2.30GHz
ด้านความจำ ได้รับ RAM แบบ LPDDR5X ขนาดสูงสุด 16GB รองรับ RAm expansion ได้สูงสุด 12GB จับคู่กับ ROM แบบ UFS 4.0 ขนาดสูงสุด 512GB ด้วยสเปกแรงขนาดนี้ทำให้ OPPO Find X7 Ultra ทำคะแนนจากแอปทดสอบประสิทธิภาพยอดนิยมอย่าง Antutu ทะลุ 2 ล้านคะแนนไปได้แบบสบายๆ
ชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC
OPPO Find X7 Ultra ได้รับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เพียงพอต่อการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบใช้สาย 100W SUPERVOOC ใช้เวลาชาร์จจาก 0 ถึง 50% เพียง 10 นาที และชาร์จจนเต็ม 100% ในเวลาเพียง 26 นาที อีกทั้งยังสนับสนุนการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W AIRVOOC และมีฟีเจอร์ Reverse Wireless Charging สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นแบบไร้สายได้สูงสุด 10W
สรุปราคาและการจำหน่าย
OPPO Find X7 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ที่เน้นการถ่ายภาพเป็นพิเศษ จึงมีดีไซน์ที่ได้รับอิทธิพลมาจากกล้องคลาสสิค ได้รับเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากแบรนด์กล้องชั้นนำอย่าง Hasselblad โดยมีจุดเด่นที่ระบบกล้องหลังคุณภาพสูง 4 ตัว ที่มีความละเอียดเท่ากัน 50MP และยังเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่มีกล้อง Telephoto แบบ Periscope มาให้ 2 ตัว สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้อย่างโดดเด่นเทียบเท่ากล้องมืออาชีพของ Hasselblad
นอกจากนี้ OPPO Find X7 Ultra ยังได้รับจอแสดงผลที่ให้ความสว่างสูงถึง 4500 นิต ให้สีสันคมชัดเหมาะสำหรับการรับชมคอนเทนต์ HDR โดยมีประสิทธิภาพที่ทรงพลังจากชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ให้อายุการใช้งานยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh และยังชาร์จไวผ่านระบบ 100W SUPERVOOC ทั้งหมดนี้ทำให้ OPPO Find X7 Ultra เป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่ครบเครื่อง ไม่เพียงแต่ถ่ายภาพได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ยังตอบสนองการใช้งานรอบด้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียดายที่ว่ารุ่นนี้ OPPO ยังไม่วางจำหน่ายนอกประเทศจีน จึงทำให้ยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยทางการ