OPPO เปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด OPPO Watch X มาพร้อมสโลแกน “ยกระดับทุกช่วงเวลาของชีวิต” ด้วยการอัปเกรดฟีเจอร์วัดสุขภาพและติดตามการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ชูจุดเด่นที่ฟีเจอร์ Professional Sports Modes เสมือนมีเทรนเนอร์ส่วนตัว ติดตามการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำด้วยระบบ GPS ความถี่คู่ มีโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด ให้อายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ชั่วโมง อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาอย่างพรีเมียม ประกอบด้วยวัสดุคุณภาพสูง และทำงานบน Wear OS ของ Google
แกะกล่อง OPPO Watch X
OPPO Watch X ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีดำ หน้ากล่องระบุชื่อผลิตภัณฑ์ไว้อย่างชัดเจน พร้อมตัวอักษร X สีดำเข้ม วางอยู่ในกรอบสีขาวที่มีลายเส้นตรง ข้างกล่องติดโลโก้ Wear OS by Google
เมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมา จะพบกับ OPPO Watch X เป็นอย่างแรกตัวเรือนห่อกระดาษมาอย่างดี โดยติดสายนาฬิกามาให้แล้ว ถัดมาจะมีกล่องใส่คู่มือเอกสารการรับประกัน สำหรับสายชาร์จแยกเก็บไว้อีกกล่อง มาพร้อมแท่นชาร์จแบบแม่เหล็ก
ดีไซน์คอสมอส
นับตั้งแต่เปิดตัว OPPO Watch สมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของแบรนด์ ตั้งแต่ปี 2020 จนมาถึง OPPO Watch 4 Pro ในปีที่แล้ว ทุกรุ่นล้วนมีรูปทรงตัวเรือนแบบสี่เหลียมที่คล้ายกัน แต่สำหรับ OPPO Watch X ถูกดีไซน์ให้แตกต่างออกไป โดยเปลี่ยนมาใช้ตัวเรือนวงกลมที่ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิกาสมัยใหม่และคลาสสิกมารวมกันให้ความรู้สึกเหมือนนาฬิกาข้อมือระดับพรีเมียม อีกทั้งยังใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงระดับเรือธง ไม่ว่าจะเป็นตัวเรือนสแตนเลสที่มีความทนทาน และหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ ป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างดี
ตัวเรือนของ OPPO Watch X ทำมาจากวัสดุสแตนเลสขนาด 46 มม.ให้ภาพลักษณ์หรูหราพรีเมียม และยังให้ความทนทานสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน MIL-STD-810H ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -20 จนถึง +55 องศาเซลเซียส อีกทั้งยังผ่านการทดสอบทั้งแรงกระแทก และสภาพแรงดันต่ำ และยังได้รับมาตรฐานป้องกันน้ำในระดับ 5ATM และ IP68
OPPO Watch X ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว เป็นตัวเรือนสีเงินมาพร้อมสายสีน้ำตาล Mars Brown ขนาดมาตรฐาน 22 มิลลิเมตร สามารถถอดเปลี่ยนสายได้ง่ายๆ ด้วยการเลื่อนสลักที่อยู่ด้านหลัง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย และยังมีอีกตัวเลือกเป็นโทนสีดำ Platinum Black ทั้งตัวเรือนและสาย
จอแสดงผลของ OPPO Watch X ขนาดใหญ่ 1.43 นิ้วความหนาแน่นพิกเซล 326 PPI สว่างสูงสุด 1000 nitsให้สีสันคมชัด มองเห็นชัดเจนเมื่ออยู่ภายนอกอาคาร อีกทั้งยังรองรับโหมด Always On Display เปลี่ยนหน้าปัดได้หลายรูปแบบ และ รองรับฟีเจอร์ Raise to wake หรือปลุกหน้าจออัตโนมัติ เมื่อยกข้อมือขึ้นมาดูหน้าปัด
ด้านข้างมีปุ่มเม็ดมะยมอยู่ด้านบน ซึ่งเรียกว่าปุ่ม Home และปุ่มที่อยู่ด้านล่าง เรียกว่าปุ่ม Multifunction ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปตั้งค่าการทำงานของทั้ง 2 ปุ่มได้
อีกข้างมีช่องลำโพง (ติดตั้งอยู่ในส่วนฝาหลัง)
ด้านหลังตัวเรือนติดตั้งเซ็นเซอร์ติดตามสุขภาพไว้ตรงกลาง พร้อมหมุดแม่เหล็ก 4 จุด สำหรับเชื่อมต่อกับแท่นชาร์จที่แถมมาให้ในกล่อง
GPS ความถี่คู่
OPPO Watch X ถูกสร้างมาให้สามารถติดตามการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถใช้งานได้ทั้งผู้ที่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพ ไปจนถึงนักกีฬาระดับมืออาชีพ โดยมีจุดเด่นที่ระบบ GPS ความถี่คู่ ทั้ง L1 และ L5 GPS ที่ใช้สำหรับนักวิ่งระดับพรีเมี่ยมให้ความแม่นยำกว่าสมาร์ทวอทช์ทั่วไปที่รองรับ GPS ความถี่เดียว โดยเฉพาะการออกกำลังกายกลางแจ้ง ไม่ว่าจะวิ่ง ปั่นจักรยาน เดินป่า ก็สามารถติดตามเส้นทาง ระยะทาง ตำแหน่ง ได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าจะในที่ชุมชนเมืองหรือป่าที่มีใบไม้หนาทึบ
ติดตามการออกกำลังกายอย่างมืออาชีพ
OPPO Watch X เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มออกกำลังกายใหม่ จนเริ่มจริงจัง และ นักกีฬาระดับมืออาชีพ โดยมาพร้อมโหมด Professional Sports Mode สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างละเอียด เสมือนเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว
Professional Sports Modes รองรับกีฬาทั้งหมด 11 โหมด อย่างเช่น การวิ่ง สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ GTC หรือ Ground Contact Time (ระยะเวลาที่เท้าเหยียบพื้นขณะวิ่ง), GCT Balance (ความสมดุลของเท้าซ้ายและขวาที่เท้าเหยียบพื้น), Vertical Oscillation (การดีดตัวในแต่ละก้าว), Running Posture (ฟอร์มการวิ่ง) รวมถึง Pacing Details แบดมินตันเป็นกีฬาอีกชนิดที่รองรับ Professional Sports Mode ช่วยให้ข้อมูลอย่างละเอียดตั้งแต่ท่าทางการตี ไปจนถึงความเร็วในการเหวี่ยง
OPPO Watch X ยังสามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด อาทิ เดิน วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก ไปจนถึงเครื่องออกกำลังกายนานาชนิดตามฟิตเนส เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ และยังมีฟีเจอร์ตรวจจับการออกกำลังกายโดยอัตโนมัติ สำหรับบางชนิดกีฬา เช่น ว่ายน้ำ เดิน วิ่ง ออกกำลังกายด้วยเครื่องกรรเชียงบก และเครื่องเดินวงรี เป็นต้น
ฟีเจอร์วัดสุขภาพ
นอกจากจะทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว OPPO Watch X ยังช่วยดูแลสุขภาพผู้สวมใส่ด้วยฟีเจอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยใช้โมดูลวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ PPG ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นแบบ 8 ช่อง จึงมีความแม่นยำสูง และสามารถวัดค่าออกซิเจนในเลือด (SpO2) ได้เช่นกัน
OPPO Watch X ยังมีฟีเจอร์ติดตามสุขภาพการนอนหลับ สามารถให้คะแนนการนอนในคืนที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงคุณภาพการนอนในคืนถัดไป รวมถึงวัดระดับความเครียด เพื่อบอกสภาวะอารมณ์แบบเรียลไทม์
ชิปเซ็ตแบบคู่
เบื้องหลังที่ทำให้ OPPO Watch X ตอบสนองการใช้งานได้อย่างลื่นไหล นั่นคือชิปประมวลผล ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon W5 Gen 1 ของ Qualcomm ทำงานร่วมกับชิป BES2700 ช่วยให้สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ของ OPPO สามารถลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
Wear OS by Google
OPPO Watch X ทำงานบน Wear OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ Google พัฒนาขึ้นมาสำหรับสมาร์ทวอทช์โดยเฉพาะ สามารถจับคู่อุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วด้วย OHealth สามารถตั้งค่าหรือดูข้อมูลสุขภาพในแต่ละวันทั้งการออกกำลังกาย การนอนหลับ และอื่นๆได้อย่างละเอียดด้วยแอป Google Health Connect
แน่นอนว่ามี Play Store ในดาวน์โหลดแอปต่างๆบนข้อมือได้ทันที รองรับแอปพลิเคชันและบริการของ Google อาทิ Google Maps, Google Assistant, Gmail, Google Wallet, Google Home เป็นต้น รวมถึงแอปพลิชันยอดนิยมจากนักพัฒนาทั่วโลก เช่น LINE, Spotify และ Instagram
สำหรับฟีเจอร์ทีน่าสนใจอื่นๆก็มีทั้งรองรับการรับสายที่ตัวนาฬิกาเลยมีลำโพงเสียงดังฟังชัด รวมถึงสามารถกดโทรออกได้ และยังสามารถควบคุมเพลงที่ข้อมือได้ทันทีไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
อายุการใช้งานนานสูงสุด 100 ชั่วโมง
ด้วยการใช้สถาปัตยกรรมชิปเซ็ตแบบคู่ ทำให้ OPPO Watch X มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุด 100 ชั่วโมง หรือประมาณ 4 วัน สำหรับการใช้งานทั่วไป และยังมีโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Power Saver Mode ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานถึง 12 วัน และยังรองรับชาร์จไว VOOC อีกด้วยโดยชาร์จเพียง 10 นาทีสามารถใช้งานทั่วไปได้นานถึง 24 ชั่วโมง และชาร์จเต็ม 100% ในเวลา 60 นาที
สรุปราคาและการจำหน่าย
ถึงแม้ OPPO จะเปิดตัวสมาร์ทวอทช์มาแล้วหลายรุ่น แต่มีเพียง OPPO Watch รุ่นแรกเท่านั้น ที่เข้ามาทำตลาดในไทยอย่างทางการ และนั่นก็ผ่านมานาน 4 ปีแล้ว ดังนั้น OPPO Watch X จึงมาในช่วงเวลาที่เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับเจ้าของ OPPO Watch ที่ต้องการอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ และยังเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ ที่ให้ทั้งดีไซน์พรีเมียม สวยงามทนทาน และตอบสนองการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะติดตามสุขภาพหรือการออกกำลังกาย ก็ให้ความแม่นยำ เรียกได้ว่าเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวที่วางใจได้อย่างแท้จริง
OPPO Watch X เปิดราคาทางการในประเทศไทยที่ 11,990 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ รับของสมนาคุณมูลค่าสูงสุด 3,599 บาท ดังนี้ OPPO Watch X Strap มูลค่า 599 บาท ,MyOPPO Coupon รับคูปองส่วนลด 2,000 บาท และ Bundle Promotion ลดทันที 1,000 บาท
#OPPOWatchX_th #ยกระดับทุกช่วงเวลาของชีวิต