Apple ปล่อย iOS 17.3 และ iPadOS 17.3 ออกมาให้ผู้ใช้ iPhone และ iPad ได้อัปเดตแล้ว ซึ่งเป็นการอัปเดตหลักครั้งที่ 3 ของระบบปฏิบัติการ iOS 17 และ iPadOS 17 นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2023
iPhone และ iPad จะได้รับการอัปเดต iOS 17.3 และ iPadOS 17.3 ผ่านระบบ OTA (over-the-air) เพียงผู้ใช้งานเข้าไปที่ Settings > General > Software Update (สำหรับ iPhone และ iPad รุ่นเก่าที่ไม่สนับสนุน iOS 17 และ iPadOS 17 จะได้รับ iOS 15.8.1 และ iOS 16.7.5)
ฟีเจอร์ใหม่ที่มาพร้อม iOS 17.3
Stolen Device Protection
ยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยให้กับ iPhone และ Apple ID ด้วยการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวเมื่ออุปกรณ์ถูกขโมยหรือทำหาย โดยบังคับให้ใช้ Face ID หรือ Touch ID หากต้องการดำเนินการบางอย่าง และด้วยฟีเจอร์ Security Delay ซึ่งจำเป็นต้องใช้ Face ID หรือ Touch ID และ รอหนึ่งชั่วโมง จากนั้นจึงทำการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินการที่ละเอียดอ่อน เช่น การเปลี่ยนรหัสผ่านอุปกรณ์หรือรหัสผ่าน Apple ID
หน้าจอ Lock Screen
ได้รับวอลเปเปอร์ใหม่ Unity Bloom ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเชิดชูประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนผิวดำ ในโอกาส Black History Month
Apple Music
รองรับฟีเจอร์ Collaborative Apple Music Playlists ช่วยให้สมาชิก Apple Music สร้าง Playlists และเชิญให้เพื่อนๆ (ที่เป็นสมาชิก Apple Music) สามารถเข้ามาแก้ไข Playlists เดียวกันได้ ซึ่งใครที่เข้ามาแก้ไข Playlists ก็จะแสดงรูปโปรไฟล์กำกับไว้ด้านข้างแทร็ก อีกทั้งยังสามารถเพิ่มอีโมจิเพื่อโต้ตอบกับเพลงใน Playlists ได้ด้วย
รองรับ AirPlay ในโรงแรม
ผู้ใช้ iPhone, iPad รวมถึง Mac ที่อัปเดตซอต์แวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด สามารถสตรีมคอนเท้นต์ต่างๆ ไปยังทีวีที่เข้าพักตามโรงแรมหรือรีสอร์ทได้โดยตรง ผ่านทาง AirPlay ซึ่งตอนเป็นทีวีที่รองรับ AirPlay ด้วย ดังนั้น ฟีเจอร์นี้จึงใช้ได้กับโรงแรมบางแห่ง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวก เพราะไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ทีวีด้วยบัญชีส่วนตัว
AppleCare
ในแอป Settings > General > AppleCare and Warranty จะแสดงความคุ้มครอง AppleCare สำหรับอุปกรณ์ทั้งหมดที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน
Crash Detection
ฟีเจอร์ Crash Detection ที่มีใน iPhone 14 Series และ iPhone 15 Series ได้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ฟีเจอร์ดังกล่าวทำงานผิดพลาด