OPPO สานต่อจุดยืนของสมาร์ตโฟน Reno Series ที่เน้นการถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้อย่างโดดเด่นระดับมืออาชีพ ด้วยการเปิดตัว OPPO Reno11 Series 5G อย่างเป็นทางการในไทย โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับ OPPO Reno11 5G มารีวิวเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีจุดเด่นที่กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ (32MP Telephoto Camera) ที่ก้าวไปอีกขั้น สามารถถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังละลายอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนพกพาช่างภาพมือโปรติดตัวไปด้วยทุกที่ แถมยังมีดีไซน์สวยสุดปังพร้อมชื่อสีมงคลเอาใจสายมูรับปีใหม่อีกด้วย
สเปก OPPO Reno11 5G
- จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7050
- ความจำ RAM 12GB + ROM 256GB
- ขยายความจำ RAM ได้สูงสุด 12GB ผ่านฟีเจอร์ Dynamic RAM Expansion
- สนับสนุนการ์ด microSD สูงสุด 2TB
- กล้องหลัง 50MP Main + 32MP Telephoto + 8MP Ultra Wide Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor)
- สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อค (Face Unlock)
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, IR Blaster, NFC, USB-C
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 14 บนพื้นฐาน Android 14
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
- น้ำหนัก 182 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Wave Green สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ และ Rock Grey สีเทาดำดูดทรัพย์
แกะกล่อง OPPO Reno11 5G
OPPO Reno11 5G ถูกบรรจุไว้ในกล่องสีขาว หน้ากล่องระบุชื่อรุ่น OPPO Reno11 5G ไว้อย่างชัดเจน ถัดลงมีตัวเลข 11 ขนาดใหญ่ อยู่ในกรอบสีเหลี่ยมที่มีเอฟเฟกต์ไล่ระดับสีอย่างสวยงาม เมื่อยกฝากล่องขึ้นมา จะพบกับซองเอกสารสีขาว ภายในมีคู่มือ, คู่มือด้านความปลอดภัย, เข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด และ แถมเคสมาให้ 1 อัน
ถัดลงมาเป็นชั้นวางสมาร์ตโฟน ที่ถูกห่อหุ้มอยู่ในซอง พร้อมบอกจุดเด่นไว้บนหน้าซอง ชั้นล่างสุดของกล่องเป็นช่องเก็บสายชาร์จ USB-C to USB-A และ หัวชาร์จ USB Power Adapter ซึ่งรองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC นอกจากนี้ เมื่อแกะสมาร์ตโฟนออกมาจากซอง จะพบว่า OPPO Reno11 5G ได้รับการติดฟิล์มป้องกันรอยหน้าจอมาให้แล้ว
ถ่ายคนอย่างโปร หน้าชัดหลังละลายเป็นธรรมชาติ
OPPO Reno11 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ซึ่งมีไฮไลท์ที่กล้องพอร์ตเทรตเลนส์ Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ขนาด 1/2.74 นิ้ว รูรับแสง f/2.0 ทางยาวโฟกัสแบบออปติคัลเทียบเท่า 47 มม. ขณะที่เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ยังมีการจัดเรียงพิกเซล RGBW ช่วยเพิ่มความไวแสง 60% ลดสัญญาณรบกวนได้ 35% เมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์แบบดั้งเดิม
โหมดถ่ายภาพ Portrait ในแอปกล้องของ OPPO Reno11 5G ช่วยยกระดับให้ผู้ใช้งานกลายเป็นช่างภาพมืออาชีพได้อย่างง่ายดาย ด้วยฮาร์ดแวร์กล้องพอร์ตเทรตคุณภาพสูงตามที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้รองรับทางยาวโฟกัส 2 ระยะ เริ่มที่ทางยาวโฟกัสกว้าง 26 มม. สามารถจับโฟกัสทั้งคน วัตถุ ฉากหลังทั้งหมด แต่เมื่อซูม 2 เท่า จะเทียบเท่าทางยาวโฟกัส 47 มม. โฟกัสไปที่ใบหน้าบุคคล ดูโดดเด่นกว่าฉากหลัง
โหมด Portrait มีฟีเจอร์ละลายฉากหลังได้ตามต้องการ ด้วยการปรับค่า F ในช่วง f/1.4 ถึง f/16 ให้เอฟเฟกต์โบเก้ที่เป็นธรรมชาติ เหมือนกับถ่ายด้วยกล้อง DSLR
OPPO Reno11 5G มาพร้อม Portrait Expert Engine ระบบปรับแต่งภาพคนอย่างโปร ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตให้ออกมาสวยงามราวกับเป็นช่างภาพมืออาชีพ ด้วยระบบจดจำใบหน้าบุคคลที่แม่นยำ เพื่อแยกออกจากฉากหลังได้อย่างแนบเนียน ทำให้ทุกองค์ประกอบในภาพถ่ายถูกปรับให้เหมาะสมอย่างเป็นธรรมชาติ
Portrait Expert Engine มีส่วนสำคัญในการปรับสมดุลสีขาว เพื่อให้โทนสีที่แม่นยำตลอดสเปกตรัมของสีผิว ที่สำคัญคือ AI Portrait Retouching ช่วยปรับแต่งใบหน้าให้ชัดเจนแม้ถ่ายในที่แสงน้อย สามารถกำจัดตำหนิหรือริ้วรอยบนใบหน้าได้ และมีการใช้ HDR เพื่อปรับปรุงแสงและเงาให้เข้ากับทุกฉากอย่างเหมาะสมที่สุด
กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น OIS
กล้องหลักของ OPPO Reno11 5G มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony LYT600 ขนาด 1/1.95 นิ้ว รูรับแสง f/1.8 ทางยาวโฟกัสเทียบเท่าเลนส์ 26 มม. สามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ด้วย All Pixel Omni-Directional PDAF และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) สามารถได้ 2 ระยะคือ 1x (50MP) และ 2x (32MP)
กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 112 องศา
OPPO Reno11 5G ยังมีกล้อง Ultra Wide สำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่ต้องการมุมมองภาพกว้างเป็นพิเศษ 112 องศา โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX355 รูรับแสง f/2.2 ทางยาวโฟกัส 16 มม.
กล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล
กล้องหน้าของ OPPO Reno11 5G ติดตั้งไว้ในบนหน้าจอตัวเครื่อง โดยมีความละเอียดสูง 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ OMNIVISION OV32C ขนาด 1/3.2 นิ้ว รูรับแสง f/2.4 ทางยาวโฟกัส 22 มม. สามารถถ่ายภาพ Portrait ได้สวยงามไม่แพ้กล้องหลังสามารถปรับค่า f ได้ตั้งแต่ f1.4- f16 พร้อมฟิลเตอร์ยอดนิยมอย่าง AI Color Portait และ Bokeh Flare Portrait ก็ยังคงมีให้เลือกใช้งานด้วย
โหมด Video ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที สามารถเลือกปรับค่า f ได้รวมถึงมีฟิลเตอร์ AI Color Portait และ Bokeh Flare Portrait ให้ใช้งานในโหมดวิดีโออีกด้วยแต่ความละเอียดจะลดลงมาที่ 720p
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ดีไซน์สวยสุดปัง พร้อมชื่อสีมงคล
OPPO Reno11 5G สร้างความประทับใจทันทีตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์สวยงามซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ โดยมีไฮไลท์ที่สีสันใหม่ Wave Green เรียกว่าเป็นสีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ ที่สร้างสรรค์มาจากธรรมชาติแนวชายฝั่งทะเล ฝาหลังมีลวดลายที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างผ้าไหมและเลื่อมโลหะ มีความแวววาวเปล่งประกายดั่งริ้วคลื่นทะเล
อีกตัวเลือกเรียกว่า Rock Gray สีเทาดำดูดทรัพย์ โดดเด่นด้วยชั้นผิวที่เปล่งประกายเมื่ออยู่ในที่สว่าง และให้ความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อมีแสงมาตกกระทบ ไม่ต่างจากแสงแดดอ่อนๆ ที่สาดส่องลงบนโขดหินที่วางเรียงรายตามแนวชายฝั่งทะเล อีกทั้งยังผ่านกระบวนการ OPPO Glow อันเป็นเอกลักษ์ ที่มีการแกะสลักในระดับจุลภาคทำให้เกิดเอฟเฟดต์เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนฝังคริสตัลขนาดจิ๋วอยู่ทุกอณูบนฝาหลัง
นอกเหนือจากสีสันที่สวยงามแฝงด้วยความเป็นสิริมงคลต้อนรับปีใหม่ มุมมองด้านหลังยังสะดุดตากับดีไซน์กล้องทั้ง 3 ตัว ที่ติดตั้งอยู่ในกรอบวงแหวนคู่ Sunshine Ring แต่ละวงจะสะท้อนแสงเมื่อราวกับวงแหวนของแสงอาทิตย์ เพิ่มความโดดเด่นและมีชีวิตชีวา
ด้านหน้าเป็นพื้นที่ของจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว มีจุดเด่นที่ขอบจอโค้ง ให้ประสบการณ์การรับชมแบบไร้ขอบ ด้วยขอบจอที่บางเป็นพิเศษ 1.57 มม. ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 93%
ตรงกึ่งกลางส่วนบนของจอแสดงผลติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เหนือขึ้นไปเป็นลำโพงหูฟังสำหรับสนทนา และฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ใต้หน้าจอตามแบบฉบับของสมาร์ตโฟนเรือธง
OPPO Reno11 5G ยังได้รับการออกแบบมาอย่างหรูหราพรีเมียมแบบเดียวกับสมาร์ตโฟนเรือธง ด้วยขอบมุมโค้ง 3D ขอบตัวเครื่องด้านข้างมีความบางเพียง 7.99 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา 182 กรัม จึงสามารถพกพาไว้ในกระเป๋าเสื้อได้อย่างง่ายดาย จับถือใช้งานเป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเมื่อยมือ
ปุ่มปรับระดับเสียง ติดตั้งอยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์
ด้านบนมีไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ใกล้กันเป็นตำแหน่งของ IR Blaster สำหรับควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าแทนรีโมท และมีลำโพงตัวที่ 2
ด้านล่างมีลำโพง, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C, ไมโครโฟน และ ถาดใส่ซิมการ์ด รองรับ 2 ซิมแบบไฮบริด ต้องเลือกว่าจะใส่ซิมการ์ดพร้อมกัน 2 ซิม SIM 1 + SIM 2 หรือ SIM 1 + microSD card
จอ 6.7 นิ้ว 120Hz ลำโพงคู่ทรงพลัง
OPPO Reno11 5G มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ที่มีความลึกสี 10-bit ให้สีสันมากกว่า 1 พันล้านสี รองรับ HDR10+ สำหรับรับชมความบันเทิงด้วยภาพคมชัดสูงแบบ HDR อย่างภาพยนตร์บนแพลตฟอร์ม Prime Video HDR ของ Amazon
จอแสดงผลของ OPPO Reno11 5G มีความละเอียด 2412 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 20:9 ให้ความสว่างสูงสุด 950 นิต สำหรับคอนเทนต์ HDR รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 60Hz / 90Hz และสูงสุดที่ 120Hz จึงแสดงกราฟิกในคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล
นอกจากจอแสดงผลที่คมชัด ด้านเสียงก็มีคุณภาพเช่นกัน โดยติดตั้งลำโพง 2 ตัว ไว้ที่ด้านบนและด้านล่าง จึงให้เสียงสเตอริโอที่ชัดเจน พร้อมด้วยระบบเสียง OReality Audio ให้มิติเสียงกว้างที่น่าประทับใจ อีกทั้งยังมีโหมด Ultra Volume สามารถเพิ่มระดับเสียงได้ถึง 300% สำหรับใช้งานในบริเวณที่มีเสียงดังรบกวน เพื่อให้ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเพลง เสียงของวิดีโอ เสียงเรียกเข้า รวมถึง เสียงแจ้งเตือนต่างๆ
ประสิทธิภาพลื่นไหล ความจำขนาดใหญ่จุใจ
OPPO Reno11 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 7050 ซึ่งถูกสร้างด้วยกระบวนการผลิตขั้นสูง N6 (6 นาโนเมตร) ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ 64-bit Octa Core ที่มี Arm Cortex-A78 @ 2.6GHz (2-Core) และ Arm Cortex-A55 @ 2.0GHz (6-Core) พร้อมด้วย GPU ของ Arm Mali-G68 ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถเล่นเกมดังๆได้อย่างลื่นไหล
ด้านความจำ OPPO Reno11 5G มีความจำ RAM ขนาดใหญ่ 12GB และสามารถขยายได้อีก12GB ผ่านฟีเจอร์ RAM Expansion โดยอาศัยพื้นที่ของหน่วยความจำ ROM มาใช้งาน จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงสุด 24GB ขณะที่ความจุ ROM ก็สูงถึง 256GB และยังสามารถจัดเก็บไฟล์ต่างๆ ไว้ในการ์ด microSD ได้สูงสุด 2TB
เทคโนโลยีใหม่ LinkBoost
OPPO Reno11 5G ได้รับเทคโนโลยีใหม่ LinkBoost ที่พัฒนาโดย OPPO ผสานกับการออกแบบเสาอากาศรอบด้าน 360 องศา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายของสัญญาณไร้สายให้มีกำลังส่งเพิ่มขึ้น 100% ทำให้สัญญาณเสถียรมากขึ้น 44% ไม่ว่าจะใช้สื่อสารในลิฟต์, โรงจอดรถ รถไฟใต้ดิน ก็สามารถโทรคุยและรับ-ส่งข้อมูล ได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด
แบต 5000mAh ชาร์จไว 67W SUPERVOOC
OPPO Reno11 5G มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC ใช้เวลาชาร์จเพียง 10 นาที ได้ระดับแบตเตอรี่ 33% หรือชาร์จจนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 45 นาที โดยใช้ Power Adapter ที่แถมมาให้ในกล่อง ไม่ต้องซื้อเพิ่ม และยังมีเทคโนโลยี Battery Health Engine เอกสิทธิ์เฉพาะของ OPPO ช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ให้สามารถรักษาความจุของแบตเตอรี่ไว้ที่ 80% แม้ผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน 4 ปี เรียกได้ว่ามีอายุการใช้งานยาวนานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป 2 เท่า
ColorOS 14 ใหม่ล่าสุด
OPPO Reno11 5G ทำงานบนพื้นฐาน Android 14 ครอบทับด้วย ColorOS 14 ซึ่งไม่เพียงมี User Interface ที่สวยงาม ใช้งานง่าย แต่ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ทำให้ OPPO Reno11 5G มีความน่าสนใจ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น File Dock, Smart Touch และ Smart Image Matting
File Dock อยู่บนแถบด้านข้างอัจฉริยะ ช่วยให้ผู้ใช้แชร์คอนเท้นต์ระหว่างแอปได้ง่ายขึ้นผ่านหน้าจอแยก หน้าต่างลอย หรือตัว Dock เอง คอนเท้นต์ต่างๆ สามารถจัดเก็บได้โดยอัตโนมัติใน File Dock และสามารถซิงค์กับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต ที่ใช้บัญชีเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Smart Touch ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจับภาพหน้าจอ เพื่อแยกข้อความและรูปภาพออกมาได้อย่างง่ายดาย เพียงจับหน้าจอด้วยคำสั่งท่าทาง (แตะสามนิ้วบนหน้าจอแล้วลางลง) เลือกฟีเจอร์ Extract content จากนั้นจากนั้นสามารถลากข้อความหรือรูปภาพไปเก็บไว้ใน File Dock ได้อย่างสะดวก
Smart Image Matting ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแยก บุคคล วัตถุ หรือ สัตว์ ออกจากภาพถ่ายได้อย่างง่ายดาย เพียงแตะนิ้วค้างไว้บนวัตถุที่ต้องการแยกออกมาจากพื้นหลัง จากนั้นลากไปไว้ที่ File Dock เพื่อไปวางบนแอปอื่นๆ ที่ต้องการใช้งาน
ตัวอย่างเช่น การใช้ภาพถ่ายแมวตัวโปรดมาทำเป็นสติกเกอร์ ก็สามารถแยกเฉพาะตัวแมวออกมาจากภาพถ่าย ก็จะได้ภาพรูปแบบไฟล์ PNG ที่สามารถนำไปวางในแชทหรือแอปจดบันทึกได้ และยังสามารถใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการตัดต่อภาพได้อย่างง่ายดาย
OPPO Pad Neo จอยทุกความสนุกเหลือระดับ
ไม่เพียงสมาร์ตโฟน แต่ OPPO ยังได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ IoT รุ่นใหม่ ได้แก่หูฟัง OPPO Pad Neo และหูฟัง OPPO Enco Air3s โดย OPPO Pad Neo แท็บเล็ตทรงพลังพร้อมรองรับทุกความสนุก เหนือระดับด้วยจอถนอมสายตา 2.4K ขนาด 11.4 นิ้ว ความละเอียดสูงขนาดใหญ่ที่คมชัดเป็นพิเศษ อ่านสบายตาด้วยการมาพร้อมแสงสีฟ้าต่ำ อัตราส่วน 7:5 ขนาดคล้ายกระดาษ A4 และจอ PC มอบประสบการณ์ใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ดีไซน์เพรียวบาง น้ำหนักเบา พกพาสะดวกตลอดวัน
ลำโพงสเตอริโอ 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos เสียงสมจริงรอบด้าน ใช้งานยาวนานตลอดวันไม่มีขาดตอนด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8,000mAh และชาร์จไว 33W SUPERVOOC เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นง่ายๆ ด้วย Auto Connect ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ลื่นไหล รุ่นนี้รองรับซิมการ์ดและ WiFi ชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตง่ายผ่าน Communication Sharing
OPPO Enco Air3s เก็บทุกท่วงทำนอง
หูฟังไร้สายรุ่นล่าสุดจาก OPPO เคสชาร์จสีทอง Champagne Gold สวยงามสะดุดตา พร้อมฝาเปิดแบบ 110 องศา มีแม่เหล็กช่วยยึดหูฟังไร้สายให้เข้าที่ได้อย่างแน่นหนา น้ำหนักเบาพิเศษ 3.7 กรัม สวมใส่สบายตลอดวัน มาพร้อม HiFi 5 DSP ที่ผสมผสานกับไดรเวอร์คอมโพสิตขนาดใหญ่ 13.4 มม. มอบคุณภาพเสียงทรงพลัง OPPO Alive Audio และระบบเซอร์ราวด์ 360° และเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน DDN อัลกอริธึมการตัดเสียงรบกวนแยกเสียงออกจากเสียงพื้นหลังแบบเรียลไทม์
สรุปราคาและการจำหน่าย
สมาร์ตโฟน OPPO Reno11 5G ถูกสร้างมาเพื่อรองรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตโดยเฉพาะ ด้วยกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera สามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบซูมออปติคอลได้ 2 เท่า พร้อมละลายฉากหลังอย่างเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าถ่ายคนอย่างโปรเหมือนใช้กล้อง DSLR แต่ว่าคุณภาพกล้องระดับนี้กลับมาอยู่ในสมาร์ตโฟนที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งแน่นอนว่าขายดีถล่มทลายอีกเช่นเคยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ OPPO Reno11 Series 5G เปิดราคาทางการในประเทศไทยดังต่อไปนี้
- OPPO Reno11 Pro 5G ราคา 19,990 บาท
- OPPO Reno11 5G ราคา 14,990 บาท
- OPPO Reno11 F 5G ราคา 11,990 บาท
พร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 23 – 29 มกราคม 2567 สำหรับผู้ที่สั่งจองในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับของสมนาคุณ มูลค่า 11,297 บาท ประกอบไปด้วย
- OPPO EVIP CARD มูลค่า 6,500 บาท (สิทธิการรับประกันจอแตก จำนวน 1 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ซื้อสินค้าตามบิล โดยจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบ MY OPPO ตั้งแต่วันที่ซื้อจนถึง 29 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น)
- RENO SPECIAL EDITION BACKPACK มูลค่า 2,999 บาท
- FILM 2 TIMES WITHIN 2 YEARS มูลค่า 1,299 บาท
- PHONE CASE 2 PCS WITHIN 2 YEARS มูลค่า 499 บาท
OPPO Pad Neo และ OPPO Enco Air3s
- OPPO Pad Neo ราคา 10,990 บาท
- OPPO Enco Air3s ราคา 1,999 บาท
- เมื่อซื้อ OPPO Pad Neo รับฟรี!! OPPO Pad Neo Smart Case มูลค่า 799 บาท (ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 )
- เมื่อซื้อ OPPO Pad Neo คู่กับผลิตภัณฑ์ IoT รุ่นที่กำหนดไว้ รับส่วนลดสูงสุด 500 บาท (ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2567 – 31 มีนาคม 2567 )
- เมื่อซื้อสมาร์ตโฟน OPPO คู่กับ OPPO Enco Air3s รับส่วนลด 500 บาท (ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2567 – 31 มีนาคม 2567)
#OPPOReno11_5G #ถ่ายคนอย่างโปร #OPPOPADNeoTH #จอยทุกความสนุกเหนือระดับ #OPPOEncoAir3sTH #เก็บทุกท่วงทำนอง