สัมผัสอิสระแห่งเสียงกับ HUAWEI FreeClip หูฟังไร้สายแบบ Open-ear ที่ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่สบายในทุกโอกาส ด้วยการผสานเทคโนโลยีเข้ากับแฟชั่นสุดล้ำ ทำให้เกิดดีไซน์ C-bridge ที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีลดเสียงรบกวนรอบข้างด้วย AI และใช้ฟังได้นานจุใจ 36 ชั่วโมง
สเปก HUAWEI FreeClip
- ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 10.86 มิลลิเมตร
- ไมโครโฟน 2 ตัว พร้อมไมโครโฟน VPU
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3, USB-C สำหรับการชาร์จ
- เซ็นเซอร์ VPU sensor, IMU sensor, Hall sensor, CAP sensor
- มาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP54 (เฉพาะหูฟัง)
- แบตเตอรี่หูฟังแต่ละข้าง 55mAh
- แบตเตอรี่เคสชาร์จ 510mAh รองรับการชาร์จไร้สาย 2W
- ขนาดหูฟัง 26.70 x 22.00 x 25.30 มิลลิเมตร
- น้ำหนักหูฟังแต่ละข้าง 5.6 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ 59.70 x 51.95 x 27.35 มิลลิเมตร
- น้ำหนักเคสชาร์จ 45.5 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และ สีม่วง
แกะกล่อง
HUAWEI FreeClip จัดส่งมาในกล่องสีขาวดูเรียบง่ายสบายตา หน้ากล่องไม่มีการพิมพ์รูปภาพของหูฟังที่อยู่ข้างใน มีเพียงโลโก้ HUAWEI และชื่อผลิตภัณฑ์ HUAWEI FreeClip ภายในกล่องแน่นอนว่ามีหูฟังทั้ง 2 ข้าง ถูกเก็บอยู่ในเคสชาร์จ นอกจากนี้ ยังมีคู่มือ, ใบรับประกัน และ สายชาร์จ USB-C
ดีไซน์สุดล้ำ Open-ear เบาจนไม่รู้สึกว่าสวมใส่
จุดเด่นของ HUAWEI FreeClip คือดีไซน์สุดล้ำไม่ซ้ำใคร ด้วยการผสานแฟชั่นเข้ากับเทคโนโลยีอย่างลงตัว อีกทั้งยังคำนึงถึงการใช้งานจริงเป็นสำคัญ ทำให้ HUAWEI FreeClip เป็นหูฟังแบบ Open-ear และใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า C-bridge
ดีไซน์ของหูฟัง HUAWEI FreeClip ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก อย่างแรกก็คือ Comfort Bean ซึ่งจะอยู่หลังใบหูเมื่อสวมใส่ โดยได้รับการออกแบบมาให้มีรูปทรงคล้ายเมล็ดถั่วที่หล่อตามส่วนโค้งของใบหู จึงเป็นดีไซน์ที่ตรงตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อให้สวมใส่ได้สบายยาวนานตลอดทั้งวัน
ส่วนที่สองเรียกว่า Acoustic Ball เป็นลำโพงทรงกลมที่จะจ่ออยู่ตรงหน้าช่องหู วัสดุภายนอกเป็นมิตรกับผิวหนัง ไม่ระคายเคือง และส่วนที่สาม คือก้านที่มีความโค้ง ซึ่งเป็นที่มาของดีไซน์ C-bridge มีความสำคัญในการช่วยหนีบหูฟังกับใบหูของผู้ใช้งานด้วยแรงหนีบเบาๆ 0.15 นิวตัน เพียงพอที่จะทำให้หูฟังยึดติดกับหูได้อย่างแน่นหนา ไม่ตกหล่นแม้สวมใส่ระหว่างออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่างๆ
ก้านหูฟัง HUAWEI FreeClip ผ่านการคำนวณมาเป็นอย่างดีให้มีความโค้ง 11.4 องศา ซึ่งเป็นความโค้งที่เข้ากับใบหูมากที่สุด โดยทดสอบกับข้อมูลใบหูของมนุษย์มากกว่า 10,000 คน จนได้ความโค้งที่สบายและเหมาะสมที่สุด อีกทั้งยังใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ยืดหยุ่น ทนทาน ผ่านการทดสอบกว่า 25,000 ครั้ง ภายในประกอบด้วยวัสดุนิกเกิลและไทเทเนียม หุ้มด้วย TPU คุณภาพสูง ให้สัมผัสที่สบายผิว และทนทานต่อคราบสกปรก
หูฟัง HUAWEI FreeClip ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 5.6 กรัม ต่อข้าง ถึงแม้จะไม่ได้เบาที่สุดในกลุ่มหูฟัง TWS แต่ด้วยดีไซน์แบบ C-bridge ที่มีทั้ง Acoustic Ball และ Comfort Bean ทำให้เกิดการกระจายน้ำหนักออกไป ไม่รวมเป็นจุดเดียวเหมือนหูฟัง TWS ทั่วไป ทำให้การสวมใส่หูฟัง HUAWEI FreeClip มีความสบายมากกว่า และยังสวมใส่ได้อย่างกระชับไม่หลุดหล่นง่าย ไม่ว่าจะสวมใส่ระหว่างเดิน, วิ่งจ๊อกกิ้ง, ปั่นจักรยาน ทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตตามปกติในแต่ละวัน
ขณะเดียวกัน HUAWEI FreeClip ยังเป็นหูฟังแบบ Open-ear ซึ่งส่งผลดีกับหูมากกว่าแบบ In-ear หมดปัญหาเรื่องแรงดันภายในหู ไม่ระคายหู ลดความเสียหายต่อแก้วหู เมื่อเสียงดังเกินไป และยังรู้สึกเป็นอิสระมากกว่าหูฟังแบบ In-ear นอกจากนี้ หูฟังแบบ Open-ear ยังเปิดให้เสียงรอบข้างผ่านเข้ามาให้ได้บ้าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งานอยู่บนทางเท้า ที่มีการจราจรรอบๆ รวมถึงสวมใส่ระหว่างเดินหรือวิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ และยังช่วยให้ได้ยินเสียงประกาศสำคัญตามสถานที่ต่างๆ เช่น สถานีรถไฟ, ศูนย์การค้า, กำลังรอเรียกคิว
หูฟัง HUAWEI FreeClip มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีม่วง และ สีดำ มาพร้อมเคสชาร์จที่ใช้สีเดียวกัน ภายนอกติดตั้งไมโครโฟนมาให้ 3 ตัว ประกอบด้วย ไมโครโฟนสำหรับสนทนา วางคู่กับไมโครโฟน VPU ในส่วนของ Acoustic Ball และมีลำโพงอีกตัวอยู่ในส่วนของ Comfort Bean ใช้เพื่อดักเสียงรบกวนจากลม และยังได้รับการออกแบบมาให้ป้องกันฝุ่นและน้ำตามมาตรฐาน IP54 ซึ่งเพียงพอสำหรับต้านทานน้ำกระเซ็นหรือเหงื่อออกขณะออกกำลังกาย
สำหรับเคสชาร์จของ HUAWEI FreeClip มีรูปทรงกลมรีคล้ายก้อนหินตามธรรมชาติ ผลิตออกมา 2 สี เฉดสีเดียวกับหูฟัง แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ป้องกันน้ำหรือฝุ่นได้ จะมีเฉพาะหูฟังเท่านั้นที่ได้รับมาตรฐาน IP54
ด้านหน้าเคสชาร์จมีไฟแสดงสถานะ LED อยู่ใต้โลโก้ HUAWEI มีปุ่มควบคุมมาให้ 1 ปุ่มที่ด้านข้าง และ ด้านล่างมีพอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ และยังรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 2W
จับคู่ง่าย สวมใส่ง่ายยิ่งกว่า
หูฟัง HUAWEI FreeClip ถูกออกแบบมาให้หนีบเข้ากับด้านข้างของใบหู โดยให้ส่วนของ Comfort Bean อยู่ด้านหลังใบหู และส่วนของ Acoustic Ball อยู่ในตำแหน่งช่องหู ที่ง่ายไปกว่านั้นก็คือ ผู้ใช้งานไม่ต้องสังเกตว่าหูฟังที่หยิบขึ้นมาก่อนนั้น เป็นข้างซ้ายหรือข้างขวา เรียกได้ว่าสามารถสวมใส่ได้ทันที เมื่อใส่หูฟังทั้ง 2 ข้างแล้ว หูฟังจะปรับช่องสัญญาณซ้าย-ขวาให้อัตโนมัติ จึงสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเก็บหูฟังกลับลงไปในเคสแล้วปิดฝา ช่องสัญญาณก็จะถูกรีเซ็ตโดยอัตโนมัติ
การจับคู่หูฟัง HUAWEI FreeClip ก็ทำได้ง่ายเช่นกัน เพียงเปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth บนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตที่จะใช้งานร่วมด้วย จากนั้นให้เปิดฝาเคสชาร์จของหูฟัง หน้าจอของสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต ก็จะแสดงหน้าต่างการเชื่อมต่อทันที เมื่อกดปุ่ม Connect ก็จะจับคู่โดยอัตโนมัติ แต่ต้องเป็นอุปกรณ์ของ HUAWEI เท่านั้น
สำหรับอุปกรณ์จากแบรนด์อื่น สามารถเชื่อมต่อด้วยตัวเองผ่านการตั้งค่า Bluetooth โดยเริ่มจากเปิดฝาเคสชาร์จของหูฟัง แล้วกดปุ่มด้านข้างของเคสชาร์จค้างไว้ราว 2 วินาที จนไฟ LED ด้านหน้ากระพริบเป็นสีขาว แสดงว่าเข้าสู่โหมดจับคู่แล้ว จากนั้นให้ไปที่การตั้งค่า Bluetooth บนสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อค้นหา HUAWEI FreeClip เพื่อทำการเชื่อมต่อ
ควบคุมด้วยระบบสัมผัส แตะส่วนไหนก็ได้
หูฟัง HUAWEI FreeClip ทั้ง 2 ข้าง รองรับ Gesture Controls สำหรับควบคุมหูฟังด้วยการสัมผัส ไม่ว่าจะแตะที่ก้าน C-bridge, Acoustic Ball หรือ Comfort Bean ก็สามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าคำสั่งหรือวิธีการแตะได้ที่แอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life บนสมาร์ตโฟนที่จับคู่กับหูฟัง
สำหรับค่าเริ่มต้นของคำสั่ง Gesture Controls มี 2 วิธีในการแตะ ได้แก่ Double-tap (แตะสองครั้ง) และ Triple-tap (แตะสามครั้ง) ระหว่างฟังเพลง สามารถ Double-tap เพื่อหยุดการเล่นชั่วคราวหรือเล่นต่อจากที่หยุดไว้ หรือ Triple-tap เพื่อข้ามไปเล่นเพลงถัดไป และในขณะสนทนา สามารถ Double-tap เพื่อวางสายได้ หรือ Double-tap เพื่อรับสายเมื่อมีสายเรียกเข้า
ระบบเสียงคุณภาพสูง
หูฟัง HUAWEI FreeClip มาพร้อมไดรเวอร์ความไวสูงแบบแม่เหล็กคู่ ขนาด 10.8 มิลลิเมตร จึงให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่เสียงร้องที่ชัดเจน ไปจนถึงเสียงเบสที่หนักแน่น ปัญหาสำคัญของหูฟังแบบ Open-ear คือ เสียงที่หลุดรอดออกมา เนื่องจากหูฟังไม่ได้ถูกยัดเข้าไปในช่องหู แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดกับ HUAWEI FreeClip ด้วยระบบคลื่นเสียงย้อนกลับอันซับซ้อน ทำให้เสียงที่ส่งออกมาจาก Acoustic Ball จะถูกส่งเข้าไปในช่องหูโดยตรงอย่างแม่นยำ สามารถลดเสียงหลุดรอดได้สูงถึง 6 – 17 เดซิเบล
HUAWEI FreeClip ยังมี Multi-EQ สำหรับปรับเสียงให้เหมาะกับแนวเพลงที่แตกต่างกัน โดยสามารถปรับเปลี่ยน EQ ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Bass boost, Treble boost และ Voices ซึ่งเอฟเฟกต์เสียงแต่ละแบบได้รับการปรับแต่งมาให้เหมาะกับแนวเพลงที่แตกต่างกันไป เช่น Bass boost เหมาะสำหรับแนวเพลงร็อค Voices เหมาะสำหรับแนวเพลงป๊อป
โทรคุยได้อย่างชัดเจนด้วย AI Crystal-Clear Call
นอกเหนือจากการฟัังเพลง HUAWEI FreeClip ยังให้ประสบการณ์การโทรคุยแบบแฮนด์ฟรีที่ยอดเยี่ยม โดยติดตั้งไมโครโฟนมาให้ 3 ตัว ประกอบด้วย ไมโครโฟนสำหรับสนทนา วางคู่กับไมโครโฟน VPU ในส่วนของ Acoustic Ball และมีลำโพงอีกตัวอยู่ในส่วนของ Comfort Bean ใช้เพื่อดักเสียงรบกวนจากลม ทำงานร่วมกันระหว่างอัลกอริทึม Deep Neural Network (DNN) แบบหลายช่องสัญญาณ ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีเสียงลมมาขัดจังหวะระหว่างสนทนาในที่กลางแจ้งหรือนอกอาคาร
จับคู่อุปกรณ์ได้ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน
HUAWEI FreeClip รองรับฟีเจอร์ Audio Sharing เมื่อจับคู่กับสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตที่ทำงานบน EMUI 13 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า จะสามารถจับคู่หูฟังกับอุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน เพื่อฟังเพลงหรือชมภาพยนตร์บนอุปกรณ์ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ HUAWEI FreeClip ยังสามารถสลับการจับคู่อุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีทั้งสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต โดยสามารถจัดการอุปกรณ์ที่จับคู่กับหูฟังผ่านแอป HUAWEI AI Life
ใช้งานยาวนานสูงสุด 36 ชั่วโมง
หูฟัง HUAWEI FreeClip แต่ละข้าง มีความจุแบตเตอรี่ 55mAh ขณะที่เคสชาร์จมีแบตเตอรี่ขนาด 510mAh เมื่อใช้งานร่วมกันจะทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานสูงสุดถึง 36 ชั่วโมง โดยที่หูฟังสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
HUAWEI FreeClip ยังรองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นาน 3 ชั่วโมง อีกทั้งยังรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 2W แต่ถ้าชาร์จผ่านสาย USB-C แบตเตอรี่จะเต็มเร็วกว่า
สรุปราคาและการวางจำหน่าย
HUAWEI FreeClip มีดีไซน์โดดเด่นกว่าหูฟัง TWS รุ่นอื่นในตลาด เน้นความสบายในการสวมใส่ แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานยาวนาน รองรับทั้งการฟัง และสนทนาแบบแฮนด์ฟรี แต่ด้วยดีไซน์แบบ Open-ear จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ต้องการตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ แต่เน้นฟังเพลงเป็นเพื่อนระหว่างเดินทาง หรือใช้ฟังในบ้านหรือสำนักงาน
ทั้งนี้ HUAWEI FreeClip เปิดให้จับจองในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ราคา 6,490 บาท สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้าในช่วงเวลาดังกล่าว จะได้รับของสมนาคุณ HUAWEI Band 8 มูลค่า 1,499 บาท, กระเป๋าหูฟังมูลค่า 599 บาท และรับประกันหูฟังมูลค่า 499 บาท นอกจากนี้ ยังได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี Easy e-Receipt เมื่อซื้อก่อนวัน 15 กุมภาพันธ์ 2567 เงื่อนไขเป็นไปตามกรมสรรพากรกำหนด