เตรียมพบกับมหกรรมมือถือ – แท็ปเล็ตครั้งแรกของปี “Thailand Mobile Expo 2013″ ตั้งแต่วันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รอบนี้ขอบอกว่ามีสารพัดสมาร์ทโฟน – แท็ปเล็ตเปิดตัวอย่างคับคั่งจากแบรนด์ชื่อดังทั้งหลาย พร้อมโปรโมชั่นสุดอลัง ผ่อน 0% ลดแลกแจกแถมเต็มที่ และที่สำคัญ มีเครื่องจริงให้คุณสัมผัสก่อนตัดสินใจซื้อทุกรุ่น ทุกแบรนด์ ห้ามพลาด ! สำหรับวันนี้เรามีสมาร์ทโฟน – แท็ปเล็ตหลากหลายรุ่นมาแนะนำกัน จัดเต็มทุกแบรนด์ ลองตัดสินใจดูได้เลย
[adsense]
ราคาของมือถือและแท็ปเล็ตที่ปรากฏในบทความนี้เป็นราคาขาย ณ ปัจจุบัน
สำหรับราคาพิเศษพร้อมโปรโมชั่นโปรดรอดูในงาน TME2013
หรือติดตามได้ในเว็บ thailandmobileexpo.com
เพิ่งวางขายล่าสุดเลยสำหรับฟีเจอร์โฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Nokia โดดเด่นด้วยสีสันแรงสะใจ “Nokia 206” สเปคหน้าจอ 2.4 นิ้ว (ความละเอียด 240 x 320 พิกเซล), ระบบปฏิบัติการ S40, ปุ่มกดขนาดใหญ่ เหมาะกับผู้ใช้ทุกเพศทุกวัย ที่น่าสนใจคือ รองรับการใช้งาน Social Network ชั้นนำอย่าง Twitter, Facebook ฯลฯ รวมถึงการลงแอพพลิเคชั่น เกมต่างๆ บน Nokia Store อีกด้วย ติดกล้อง 1.3 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 1,110 mAh คุยได้นานทั้งวัน สำหรับราคารุ่นนี้อยู่ที่ 1,990 บาทครับ
อัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อยจะพบกับฟีเจอร์โฟนทัชสกรีนจากตระกูล Asha Series สเปคแรงพอตัวกับ “Nokia Asha 311” มาพร้อมกับหน้าจอทัช 3.0 นิ้ว, ซีพียูความเร็ว 1 GHz, ระบบปฏิบัติการ Nokia S40 อินเตอร์เฟสการใช้งานรองรับทัชสกรีนเต็มรูปแบบ, ลงแอพฯ ผ่าน Nokia Store รองรับ 3G Wi-Fi ครบเครื่อง เห็นความสามารถเยอะแบบนี้ใช้งานไม่ยากครับ สนนราคาที่ 3,990 บาทเท่านั้น
สุดยอดสมาร์ทโฟนกล้องเทพแห่งยุค ยากจะมีใครมาทัดเทียมกับ ‘Nokia 808 PureView” ติดกล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาดมหึมา พร้อมแฟลชซีนอนสำหรับถ่ายกลางคืน สามารถใช้งานแทนกล้องคอมแพคได้เลย หน้าจอ AMOLED 4.0 นิ้ว, ซีพียู 1.3 GHz รองรับวิดีโอ Full HD เต็มรูปแบบ, ระบบปฏิบัติการซิมเบี้ยน Belle FP2 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้พอสมควรจาก Nokia Store เล่น Social Network ได้หลากหลาย รองรับการเชื่อมต่อ 3G Wi-Fi ทุกค่าย ที่น่าสนใจคือใช้งานนำทางผ่าน Nokia Maps ฟรีตลอดชีพอีกด้วย หากคุณต้องการเป็นเจ้าของมือถือกล้องเทพแห่งปีจัดได้ในราคา 14,900 บาทจ้า
นี่คือวินโดว์โฟน 8 ที่คุ้มค่าที่สุดในเวลานี้ครับ สำหรับ Nokia Lumia 620 น้องเล็กสเปคแรง โดดเด่นด้วยสีสันสดใส หน้าจอขนาด 3.7 นิ้ว ซีพียู Dual-Core 1 GHz ตอบสนองการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้ดี รองรับ 3G ทุกเครือข่าย, Wi-Fi แถมรองรับ NFC ไว้เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม หรือส่งข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนด้วยกันได้อีก ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอระดับ HD ถ้าอยากลองใช้งานวินโดว์โฟน 8 ราคาไม่แพง “Lumia 620” พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ในราคา 8,250 บาท รอบนี้ในงาน Thailand Mobile Expo 2013 มีโปรโมชั่นเด็ดสุดๆ แน่นอน !
งบไม่พอสอย Lumia 920 วันนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ Lumia 820 พระรองในราคาที่ย่อมเยากว่า ด้วยประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ใช้ซีพียู Snapdragon S4 ตอบสนองฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างลงตัว จะเล่นเกม Social Network ครบถ้วน หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว รองรับวิดีโอ Full HD ทั้งการชมคลิป หรือบันทึกจากกล้อง 8 ล้านพิกเซลในตัว ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย รองรับการชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charging) และสามารถเพิ่มเมมโมรี่ภายนอกสูงสุด 32 GB เป็นอีกรุ่นทีน่าสนใจไม่แพ้ Lumia 920 ครับ สนนราคาที่ 16,500 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่แพงเท่าไหร่
ที่สุดของวินโดว์โฟน 8 จาก Nokia ฮิตติดลมบนทั่วโลก สำหรับ “Nokia Lumia 920” โดดเด่นด้วยกล้อง PureView ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพกลางคืนดีเกินคาด และรองรับ Optical Image Stabilization ป้องกันภาพสั่นจากฮาร์ดแวร์โดยตรง หน้าจอ Puremotion HD+ ขนาด 4.5 นิ้ว แสดงผลคมชัด ตอบสนองการสัมผัสขั้นเทพ, ระบบการนำทางฟรีเต็มรูปแบบผ่าน Nokia Maps – Nokia Drive และรองรับการชาร์จไร้สายในตัว ส่วนอื่นๆ Lumia 920 คล้ายคลึงกับวินโดว์โฟนรุ่นอื่นๆ ครับ ทั้งแอพฯ เสริม การใช้งาน Service ต่างๆ หากคุณอยากสัมผัสวินโดว์โฟน 8 สเปคดีทีสุดในขณะนี้ สนนราคาที่ 21,500 บาทครับ ราคาสูงแต่ขอบอกว่าขายดิบขายดีเลยทีเดียว
ใครคิดว่าซัมซุงขายแต่รุ่นแพงๆ ลองมาดู Samsung Hero ได้ครับ เบสิคโฟนราคา 590 บาท นอกจากโทรออกรับสาย ส่งข้อความ SMS ตั้งนาฬิกาปลุก ฯลฯ แล้วยังมีวิทยุ FM อีกด้วย ตัวเครื่องทนทาน สแตนด์บายได้ยาวนาน (ประมาณ 5-7 วัน) เหมาะกับซื้อไว้เป็นเครื่องสำรอง หรือเอาให้เด็กๆ ใช้งานก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวหายหรือพังมากเท่าสมาร์ทโฟนราคาแพง นอกจากนี้ยังนำไปเป็นของฝาก ของขวัญได้ด้วย คุ้มจริงๆ
สมาร์ทโฟนราคาประหยัดพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาเพียง 3,000 ต้นๆ กับ “Galaxy Y” ถึงจะไม่ใช่รุ่นใหม่ แต่คุณสมบัติภายในรองรับการใช้งานต่างๆ ได้หลากหลายทีเดียว จะลงแอพพลิเคชั่นเสริม ยูทิลิตี้ Social Network หรือเกมก็รองรับสบายๆ ตัวเครื่องขนาดเล็ก พกพาสะดวก และมีหลากหลายสีให้เลือกไม่แพ้ “Galaxy Pocket” ที่อยู่ในระดับราคาเดียวกัน ด้านการรองรับ 3G มีทั้งเวอร์ชั่น 850/2100MHz และ 900/2100MHz ใช้ค่ายไหนอยู่ก็เลือกไปตามนั้นได้เลย คุ้มดีครับถ้าคุณอยากได้แอนดรอยด์ราคาประหยัดใช้สักเครื่อง
เป็นอีกรุ่นที่คุ้มมากไม่แพ้กันครับ เนื่องจากสเปคค่อนข้างดีทีเดียวกับ “Galaxy Ace 2” ขนาดหน้าจอ 3.8 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 800 MHz รองรับคอนเทนท์ระดับ HD เต็มรูปแบบ ลงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ผ่าน Google Play Store เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซลพร้อมออโต้โฟกัส บันทึกวิดีโอความละเอียด HD แบตเตอรี่ 1,500 mAh อึดเอาเรื่องเลยล่ะครับ นอกจากนี้ยังรองรับการอัพเกรดเป็น Android 4.1.2 ได้ด้วย สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาประมาณ 9,900 บาทจ้า
ชอบสไตล์ Galaxy S III แต่งบไม่พอ “Galaxy S III mini” ย่อส่วนขนาด สเปค และราคาให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ด้วยสเปคหน้าจอ Super-AMOLED 4.0 นิ้ว สีสันสด เหมาะกับดูภาพ-วิดีโอ, ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีเช่นเดียวกับ Galaxy S Advance, กล้อง 5 ล้านพิกเซล และรองรับการใช้งาน 3G Wi-Fi GPS ครบเครื่อง ราคา 12,900 บาท พบกันในงาน TME 2013 ครับ
ด้วยดีไซน์สวยงาม หน้าจอ AMOLED สุดคมชัด ทำให้ “Galaxy S Advance” ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ สเปคภายในใช้ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz รองรับวิดีโอ เกม HD รันแอพพลิเคชั่นต่างๆ ลื่นไหล แถมใกล้ได้อัพเกรดเป็น Android 4.1.2 แล้ว ยิ่งทำให้รุ่นนี้น่าสนใจขึ้นมาทีเดียว ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล รองรับ 3G ทุกเครือข่าย เครื่องเล็กพกพาง่าย ทั้งหมดนี้ราคาแค่ 12,900 บาทครับ
“Galaxy Grand” รุ่นใหม่ล่าสุดประจำต้นปี 2013 โดดเด่นด้วยหน้าจอ 5.0 นิ้ว ใหญ่สมชื่อครับ เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการหน้าจอใหญ่ ตัวหนังสือใหญ่สบายตา รันบน Android 4.1.2 ซีพียู Dual-Core 1.2 GHz ลื่นสะใจแน่นอน ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD และแบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh ใช้งานได้ยาวนานในหนึ่งวัน สำหรับราคา 13,900 บาท ซึ่งก็สามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยากเท่าไหร่จ้า
แท็ปเล็ตราคาประหยัดจาก Samsung ที่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ด้วยกับ “Galaxy Tab 2 7.0” หน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล), ซีพียู Dual-Core 1 GHz พร้อมรัน Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly bean 4.1 ได้) ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้มากมาย รวมถึง Line, WhatsApp ฯลฯ เล่นได้แบบสมาร์ทโฟนทุกประการ น้ำหนักเบาเพียง 345 กรัม แบตอึดใช้งานได้ตลอดวัน สนนราคาที่ราวๆ 11,900 บาทครับ
ขยายไซส์ขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ขนาด 10.1 นิ้วในสเปคเดียวกันสำหรับ “Galaxy Tab 2 10.1” คุณสมบัติโดยรวมเหมือน Galaxy Tab 2 7.0 ครับ ซีพียู Dual-Core 1 GHz รันบน Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly bean 4.1 ได้) ลงแอพพลิเคชั่นสารพัดอย่างได้เช่นเดียวกับบนสมาร์ทโฟน ลำโพงสเตอริโอเสียงดังฟังชัด ที่น่าสนใจคือโทรออกได้ ! แต่ต้องใช้สมอลทอล์ค หรือบลูทูธในการรับสายแทน รองรับ 3G ทุกค่าย สนใจสามารถสอยมาใช้งานได้ในราคา 14,900 บาทจ้า
สัมผัสวินโดว์โฟน 8 รุ่นแรกจาก Samsung ได้แล้ววันนี้ “ATIV S” หน้าจอ AMOLED HD ใหญ่มหึมา 4.8 นิ้ว เหมาะกับใช้งานทั่วไป จะดูหนัง เล่นแอพฯ เล่นเว็บได้ดีทีเดียว, ซีพียู Dual-Core 1.5 GHz ชิป Snapdragon S4 ตัวแรง ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ Full HD, เพิ่มเมมโมรี่ภายนอกได้ และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย นอกจากนี้ดีไซน์ยังดูหรูหราอีกด้วย บางเฉียบเพียง 8.9 มิลลิเมตรเท่านั้น สำหรับราคาขอบอกว่าไม่แพงครับ เป็น Flagship อีกรุ่นที่ Samsung เปิดราคามาแบบน่าสนใจทีเดียว หากคุณสนใจ Windows Phone 8 แรงๆ ในราคาเบาๆ ก็เปิดตัวเพียง 17,900 บาทเท่านั้น
ยักษ์ใหญ่แห่งปี 2012 “Galaxy S III” ยังคงเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณสนใจสมาร์ทโฟนแรงๆ สักรุ่น หน้าจอ Super-AMOLED HD ขนาด 4.8 นิ้ว ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 8.6 มิลลิเมตร เบาหวิวพกพาง่าย ซีพียู Quad-Core 1.4 GHz ตอบสนองการใช้งานได้สบายๆ จะเล่นเกม ดูหนัง ลงแอพฯ แบบไม่ต้องกังวล ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์เสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น Smart Stay, S-Beam ฯลฯ ที่สำคัญคือหาอุปกรณ์เสริมง่ายครับ เพราะมีผู้ใช้เยอะนั่นเอง โดยราคาสนนอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทครับ
เพิ่งได้โน้สอุดมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สดๆ ร้อนๆ กับสมาร์ทโฟนกึ่งแท็ปเล็ตรุ่นล่าสุด “Galaxy Note 2” หน้าจอขนาดมหึมา 5.5 นิ้ว พร้อมใช้ S-Pen เขียนบนหน้าจอได้ไม่ต่างจากการใช้ปากกาเขียนบนกระดาษ ผ่าน Premium Suite มากความสามารถ ซีพียูเร็วแรงระดับ Quad-Core 1.6 GHz รองรับคอนเทนท์ Full HD ได้สบาย พร้อมสตรีมผ่าน HDTV ได้อีกต่างหาก พร้อมรันแอพฯ 2 ตัวพร้อมกันบนจอเดียว (Multi Screen) กล้อง 8 ล้านพิกเซล, รองรับการใช้งาน 3G Wi-Fi GPS รวมถึง NFC สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ และที่หลายคนชื่นชอบคือแบตเตอรี่ 3,100 mAh อึดเพียงพอใช้งานได้ทั้งวัน สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 22,900 บาท ขอบอกว่าตอนนี้ขาดตลาดอยู่ด้วยนะจ๊ะ และ Samsung ก็ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ว่าจะนำ Galaxy Note 2 สีน้ำตาล (Amber Brown) มาวางขายในงาน TME2013 เป็นที่แรก
หากคุณต้องการพื้นที่ในการจัดบันทึก วาดภาพ เข้าเว็บไซต์ หรือดูหนัง Full HD ได้แบบสบายตา “Galaxy Note 10.1” ตอบโจทย์คุณได้ครับ ด้วยขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว สามารถใช้ S-Pen เขียนบนหน้าจอผ่าน Premium Suite เช่นเดียวกับ Galaxy Note 2 ที่น่าสนใจคือระบบ Multi-Screen ครับ รอบนี้สามารถทำงานได้หลากหลายขนาดหน้าจอ ย่อ/ขยายหน้าต่าง และเปิดได้เกิน 2 แอพฯ พร้อมกัน นับว่าไม่ธรรมดา ! แบตเตอรี่อึดครับ ใช้งานได้เต็มวันสบายๆ และสามารถใส่ซิมเล่น 3G โทรออกได้ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน อันนี้แหละ iPad ทำไม่ได้แน่นอน สำหรับค่าตัวของรุ่นนี้จัดได้ที่ 21,900 บาทเท่านั้น
เริ่มด้วยรุ่นน้องเล็กสุดจาก Sony “Xperia Tipo” สเปคพอใช้งานได้ดีในระดับราคาไม่ถึง 6 พันบาท มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน 3.2 นิ้ว, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 รันบนซีพียูความเร็ว 800 MHz, ลงแอพพลิเคชั่นเสริมได้ตามปกติทั่วไป กล้องความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และดีไซน์เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก นอกจากนี้ยังมีรุ่นรองรับ 2 ซิมการ์ดให้เลือกใช้ด้วยนะครับ (Xperia Tipo Dual) หากคุณชอบโซนี่ราคาประหยัดก็สามารถจับจองมาใช้งานได้ในราคา 5,590-5,990 บาทครับ
ชอบสมาร์ทโฟนที่ดูดีมีสไตล์ ดีไซน์สวยหรู แนะนำ “Xperia J” ครับ การออกแบบโค้งเว้าคล้าย Xperia Arc S ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 9.4 มิลลิเมตร หน้าจอขนาดใหญ่ 4.0 นิ้ว แสดงผลคมชัด, ซีพียูความเร็ว 1 GHz ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และเครื่องเล่นเพลง Walkman เสียงดีเอาเรื่อง อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ไม่รองรับคอนเทนท์ระดับ HD ครับ ด้วยข้อจำกัดของชิปประมวลผล แต่ราคาก็ไม่แพงมากนัก หากคุณชื่นชอบสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Sony ที่ 8,490 บาท
ทน แกร่ง กันน้ำ กันกระแทก พร้อมตอบโจทย์การใช้งานครบเครื่อง เป็นคุณสมบัติเด่นของ “Xperia Go” สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์หน้าตาดีจาก Sony ครับ หน้าจอขนาด 3.7 นิ้ว ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz รันบนระบบ Android 4.0.4 ลงแอพพลิเคชั่นมากมาย รองรับการใช้งาน Line, WhatsApp ฯลฯ กล้อง 5 ล้านพิกเซล และรองรับ 3G Wi-Fi GPS ครบสูตร แน่นอนครับว่าเอาไปเล่นสงกรานต์ได้สบายๆ อย่างไรก็ดี ตัวเครื่องไม่ได้ออกแบบให้เอาไปจุ่มน้ำเล่นนะจ๊ะ สำหรับราคาอยู่ที่ 8,990 บาท ผมว่าไม่แพงเลยล่ะ แถมมีรุ่นให้เลือกไม่เยอะซะด้วย
เป็นอีกรุ่นที่ขายดีมาต่อเนื่องกับ “Xperia SL” มีจุดเด่นที่หน้าจอความละเอียด HD 4.3 นิ้ว คมชัดเนียนสุดๆ เหมาะกับใช้ดููรูปภาพ วิดีโอ หรือเล่นเกม ดีไซน์เหลี่ยมโค้งพร้อมแถบไฟ LED ด้านล่าง เรียกว่าไม่มีใครเหมือนจริงๆ ซีพียู Dual-Core 1.5 GHz, ระบบ Android 4.0.4 และกล้อง 12 ล้านพิกเซล เหนือกว่าหลายรุ่นในระดับเดียวกัน ตอนนี้คุณสามารถหาซื้อ Sony Xperia SL ได้ในราคา 13,990 บาท คุ้มค่าราคาใช้ได้เลยครับ
คล้ายกับ Xperia SL ครับ รุ่นนี้สเปคอัพขึ้นมานิดหน่อยตรงหน้าจอ 4.5 นิ้ว ส่วนอื่นๆ คล้ายกันคือซีพียู Dual-Core 1.5 GHz, ระบบ Android 4.0.4, กล้อง 12 ล้านพิกเซล รองรับ 3G ทุกเครือข่าย แต่ที่ทำให้หลายคนชอบคือดีไซน์ค่อนข้างสวยงามทีเดียว แม้เครื่องจะใหญ่ไปหน่อยก็ตาม ส่วนราคาแพงกว่า Xperia SL ครับ อยู่ที่ 14,990 บาท จะว่าไปแล้วถ้าไม่ได้เน้นจอใหญ่อะไรเล่น Xperia SL ก็ได้เหมือนกันนะ
เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองสำหรับ “Xperia TX” สมาร์ทโฟนตัวแรงจาก Sony ดีไซน์โค้งเว้าเรียบง่าย หน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 4.6 นิ้ว ดูหนัง เล่นเกม เข้าเว็บไซต์ต่างๆ สะดวกกว่าเดิม, ซีพียู Snapdragon S4 (Dual-Core) 1.5 GHz แรม 1 GB, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean 4.1 ได้ในเร็วๆ นี้) ลงแอพพลิเคชั่น เกม ยูทิลิตี้เสริมได้เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ , กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอระดับ Full HD รองรับ 3G ทุกเครือข่ายครับ สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่ 16,990 บาท ถึงจะมาช้าไปหน่อย แต่ก็ไม่น่าทำให้สาวกโซนี่ผิดหวังอย่างแน่นอนจ้า
เพิ่มเงินอีกนิดจาก Xperia Acro S มาดูรุ่นใหม่อย่าง “Xperia V” กันครับ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติกันน้ำ กันกระแทก แถมตอบโจทย์การใช้งานทุกด้านตั้งแต่มัลติมีเดีย โซเชี่ยล แอพฯ เสริมต่างๆ ลงเพิ่มได้จาก Google Play Store ใช้งานบนหน้าจอ HD 4.3 นิ้ว, ซีพียู Snapdragon S4 1.5 GHz เช่นเดียวกับ Xperia TX, กล้อง 13 ล้านพิกเซล รองรับ 3G Wi-Fi GPS และดีไซน์สวยงาม ไม่เทอะทะ เปิดตัวที่ราคา 16,990 บาทเท่ากันครับ อันนี้ก็เหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ค่อยถนอมเครื่องเท่าไหร่ : )
เชื่อว่าหลายคนคงรอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจาก LG อย่าง “Optimus L9” จากการออกแบบสวยงามสไตล์ L-Series เหลี่ยมคลาสสิค บางเฉียบเพียง 9.1 มิลลิเมตร น้ำหนักเบาหวิว ขนาดหน้าจอใหญ่ 4.7 นิ้ว เทียบชั้นรุ่น High-End เลยทีเดียว ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz รองรับคอนเทนท์ HD1080p ไม่หน่วงอีกต่อไปแล้ว ติดกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แถมรองรับการใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย และแบตเตอรี่ 2,150 mAh อึดพอตัว ทั้งหมดนี้สนนราคาแค่ 11,900 บาท ห้ามพลาดเลยล่ะ
ตอนนี้ถึงกระแสสมาร์ทโฟน 3 มิติจะซบเซาลงไป เพราะใช้งานจริงไม่ค่อยเวิร์ค แต่สำหรับ Optimus 3D Max กลับยืนอยู่ได้ด้วยการออกแบบที่สวยงาม และคอนเทนท์ 3D ปัจจุบันก็หาชมได้ไม่ยากนัก หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz กล้อง 5 ล้านพิกเซล สามารถบันทึกภาพ – วิดีโอแบบ 3 มิติได้ทันที ! และสามารถสตรีมขึ้น HDTV ได้อีกต่างหาก นอกจากนี้ Optimus 3D Max ยังคงสามารถลงแอพฯ เสริมต่างๆ ตามปกติ ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟน Android รุ่นอื่นๆ ครับ สำหรับราคาจัดได้ที่ 13,900 บาท
เป็นอีกรุ่นที่มีผู้ใช้พอสมควรเลยครับ กับสมาร์ทโฟน Tegra 3 ราคาประหยัดอย่าง “Optimus 4X HD” หน้าจอ True HD IPS 4.7 นิ้ว แสดงผลคมชัด เนียนสีสันสดใส, บอดี้บางเพียง 8.9 มิลลิเมตร งานประกอบ วัสดุทนทานทีเดียวครับ ใช้ชิป Tegra 3 1.5 GHz ประมวลผลเร็วสะใจ รองรับเกมระดับ HD (โดยเฉพาะ Tegra HD ภาพสวยมาก), กล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอระดับ Full HD สามารถเพิ่มเมมโมรี่การ์ดสูงสุด 32 GB และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย หากคุณชอบมือถือแรงๆ ราคาไม่แพงแล้ว คุ้มครับรุ่นนี้ เชื่อว่าในงาน TME 2013 ราคาจะน่าสอยมากเป็นพิเศษเลยล่ะ
ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เมื่อมันคือสมาร์ทโฟนที่ทั้งโลกรอคอย “LG Nexus 4” หรือ E960 ร่วมมือพัฒนากับ Google นำเสนอความแรงสุดขั้ว คู่กับดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์จาก LG หน้าจอ True HD IPS+ 4.7 นิ้ว ขอบอกว่าจอเนียนมาก ! ซีพียู Snapdragon S4 Pro 1.5 GHz เช่นเดียวกับรุ่น Flagship อื่นๆ ในปัจจุบัน ที่สำคัญคือรัน Android เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 4.2.1 และสามารถอัพเกรดไปได้อีกนาน เช่นเดียวกับ Galaxy Nexus ที่ปัจจุบันยังคงอัพ Jelly Bean 4.2 ได้สบายๆ ด้านราคาอาจจะแพงนิดนึง อยู่ที่ประมาณ 17,900 บาท งานนี้ใครชอบ Google ใครชอบ Android ตัวยงแล้ว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงในงาน TME 2013 ครั้งนี้
อันนี้ก็อินดี้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน กับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 5.0 นิ้ว อัตราส่วน 4:3 กว้างสุดขอบโลก สำหรับ “Optimus Vu” ภายในสเปคคล้ายกับ Optimus 4X HD ครับเช่น ซีพียู Tegra 3 1.5GHz, ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4, กล้อง 8 ล้านพิกเซล, เมมโมรี่ภายใน 32 GB และรองรับการเขียนบนหน้าจอ ผ่าน Stylus (Rubberdium) ออกแบบสวยมากครับ แม้ว่าดีไซน์จะดูแปลก แต่ผู้ใช้บางคนก็ชอบ เพราะหน้าจอกว้าง ใหญ่ ดูสบายตา และสามารถถือแนวตั้งเพื่ออ่านหน้าเว็บ อีเมล ฯลฯ ได้เลย ราคาค่าตัวรุ่นนี้อยู่ที่ 18,900 บาท ก็สูงพอสมควรเหมือนกันนะ
รุ่นนี้ก็รอลุ้นกันว่าจะมีมาให้ลองสัมผัสในงาน TME 2013 หรือไม่สำหรับ “Optimus G” ว่าที่ Flagship ต่อจาก Optimus 4X HD โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหรา เรียบง่ายคล้าย Nexus 4 แต่มาในรูปทรงแท่งสี่เหลี่ยมโค้งมน หน้าจอ True HD IPS+ 4.7 นิ้ว, ซีพียู Snapdragon S4 Pro 1.5 GHz, กล้อง 13 ล้านพิกเซล และรัน Android 4.1.2 เร็ว ลื่นกว่าที่เคยเป็น ต้องลองสัมผัสเองครับ คาดว่าราคาคงไม่แพงเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ถูกกว่ามือถือหน้าจอ Full HD ที่ส่วนใหญ่ราคาเกิน 20,000 บาทครับ
กระแส BlackBerry ในบ้านเราดูเงียบไปบ้าง แต่ยังคงมีผู้ใช้จำนวนมากจากการใช้งาน Social Network & Messaging ที่เฟื่องฟูในปัจจุบัน สำหรับ BlackBerry Curve 9220 มาพร้อมกับสเปคหน้าจอ 2.44 นิ้ว คีย์บอร์ด QWERTY มาตรฐาน เหมาะกับผู้ใช้ที่ถนัดแป้นปุ่มกดมากกว่า On-Screen Keyboard ซีพียูความเร็ว 800 MHz แรม 512 MB ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี รันแอพฯ ต่างๆ ลื่นไหลกว่าเดิม ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 7 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมต่างๆ ได้พอตัว อย่างไรก็ดี รุ่นนี้ไม่สามารถใช้งาน 3G ได้ครับ ส่วนราคาอยู่ที่ 5,990 บาท อาจจะแพงไปหน่อยเมื่อเทียบกับสเปคครับ
อัพสเปคขึ้นมาอีกหน่อยจะได้ BlackBerry Curve 9320 หน้าตาคล้ายรุ่น 9220 แต่สเปคสูงกว่า รองรับ 3G, GPS และแบตเตอรี่อึดใช้ได้ (1,450 mAh) การใช้งานโดยรวมคล้ายคลึงกับ BlackBerry รุ่นอื่นๆ คือ ข้อความ, อีเมล, โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ฯลฯ ติดกล้อง 3.2 ล้านพิกเซล และใช้โอเอส BlackBerry OS 7.1 โดยราคาสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ 7,990 บาท
ไฮไลท์ที่น่าสนใจของ BlackBerry คือโอเอสเวอร์ชั่นใหม่ “BB10” ปรับโฉมใหม่ยกแผง ทั้งอินเตอร์เฟส ระบบภายใน ฯลฯ มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเช่น BlackBerry Hub รวมการใช้งานข้อความ – โซเชี่ยลในหนึ่งเดียว, BlackBerry Keyboard แบบใหม่ รวมถึงระบบความปลอดภัยขนาดได้รับมาตรฐาน FIPS 140-2 ของรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับตัว Device คาดว่าจะมีมาจัดแสดงในงาน TME 2013 ขอบอกว่าสเปคแรงจริงๆ แต่จะถูกใจผู้ใช้ยุค iOS, Android ครองเมืองได้หรือไม่ต้องติดตามกันต่อไปจ้า
นี่คือวินโดว์โฟน 8 ราคาประหยัดรุ่นแรกของแบรนด์ คู่แข่งตัวสำคัญของ Nokia Lumia 620 มาพร้อมกับดีไซน์โดดเด่นเฉพาะตัวของ HTC บางเบาพกพาสะดวก หน้าจอ SLCD 3.7 นิ้ว (ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล), ซีพียู Snapdragon S4 Dual-Core 1 GHz ประมวลผลสบายๆ บนโอเอส Windows Phone 8 ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Windows Phone Store ตอนนี้เริ่มมีแอพฯ ให้เลือกใช้งานเยอะขึ้น รองรับ 3G (850/2100 MHz) Wi-Fi GPS ครบเซ็ท ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล ทั้งหมดนี้จับจองได้ในราคา 9,900 บาทเท่านั้นเอง
เป็นคู่แฝดของรุ่น Desire V แต่รุ่นนี้ไม่รองรับ 2 ซิม และเปลี่ยนสเปคภายในบางส่วน ใช้หน้าจอ Super-LCD 4.0 นิ้ว แสดงผลได้คมชัดกำลังดี ซีพียูระดับ Dual-Core 1 GHz ตอบสนองฟีเจอร์ต่างๆ หลากหลาย เร็วทันใจ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้) ติดกล้อง 5 ล้านพิกเซล ประมวลผลด้วยชิป ImageSense เช่นเดียวกับ One V ดังนั้นภาพถ่ายจึงออกมาดีทีเดียวครับ สำหรับค่าตัวของ Desire X งบ 11,000 บาท ก็เป็นเจ้าของได้แล้ว แต่คู่แข่งในระดับนี้ก็มีค่อนข้างเยอะ ลองตัดสินใจให้ดีๆ : )
วินโดว์โฟน 8 ตัวท็อป “Windows Phone 8X” จาก HTC มีความน่าสนใจตรงดีไซน์เหลี่ยมค่อนข้างแนว ตัวเครื่องบางเฉียบ น้ำหนักเบา แถมสีสันแรงสะใจ มาพร้อมกับหน้าจอ Super-LCD 4.3 นิ้ว ความละเอียด HD, ซีพียู Snapdragon S4 1.5 GHz แรม 1 GB ลื่นหัวแตกบนโอเอสวินโดว์โฟน 8 ครับ ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล (F/2.0 Aperture) ประมวลผลภาพผ่าน ImageSense และเมมโมรี่ภายใน 16 GB รองรับการเชื่อมต่อ 3G Wi-Fi GPS ครบเครื่อง เป็นอีกรุ่นที่ค่อนข้างอินดี้ทีเดียว สนนราคาที่ 19,900 บาท อาจจะตัดสินใจลำบากหน่อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Nokia Lumia 920
ชื่นชอบสมาร์ทโฟนจอสวย ประมวลผลไว เมมโมรี่ภายในมหาศาล “HTC One X+” พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ กับสเปคหน้าจอ Super-LCD2 ขนาด 4.7 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล) สีสันสวยงามตระการตา ชิปประมวลผล Tegra 3 1.7 GHz เล่นเกม ดูหนัง HD เต็มรูปแบบ, รันระบบปฏิบัติการ Android 4.1, กล้อง 8 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล ImageSense เช่นเดียวกับ HTC One X ตัวแรก และเมมโมรี่ภายใน 64 GB ! สำหรับราคาขายรุ่นนี้อยู่ที่ 21,900 บาท หากคุณชอบสมาร์ทโฟนจาก HTC ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ
ไม้เด็ดของ HTC ต้อนรับปีใหม่ 2013 คือสมาร์ทโฟนจอ Full HD รุ่นแรกที่จะวางจำหน่ายในประเทศ สำหรับ “HTC Butterfly” (หรือ DLX) โดดเด่นด้วยหน้าจอ Super-LCD3 ขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว ความละเอียด Full HD ! เนียนจนมองไม่เห็นพิกเซลด้วยตาเปล่า ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro (Quad-Core) 1.5 GHz แรงสมฐานะ ทำได้ทุกอย่างในเครื่องเดียว, กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ชิปประมวลผล ImageSense รองรับบันทึกวิดีโอ Full HD 1080p เช่นเดียวกับ Flagship หลายๆ รุ่นครับ ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 พร้อม Sense UI 4+ ไม่เหมือนใคร แน่นอนว่าในงาน TME 2013 พร้อมให้คุณจับจองเป็นเจ้าของก่อนใคร ราคา 22,900 บาท
มาดูที่แบรนด์ OPPO ขนาดรุ่นเล็กอย่าง “Find Melody” ก็ยังดีไซน์ได้ดูดีเกินราคา ขนาดหน้าจอ 3.5 นิ้ว (ความละเอียด 320 x 480 พิกเซล) ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก สเปคซีพียูความเร็ว 1 GHz รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 ครอบด้วยอินเตอร์เฟสจาก OPPO เอง ติดกล้อง 3 ล้านพิกเซล แต่ที่หลายท่านน่าจะชอบก็คือ รองรับ 3G ทุกเครือข่าย และใช้งาน 2 ซิมพร้อมกันได้ครับ ซึ่งมีน้อยรุ่นที่ทำได้ นอกจากนี้บแบตเตอรี่ยังค่อนข้างอึดซะด้วย รับด้านราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 4,990 บาท
อัพสเปคขึ้นมาพอประมาณ “OPPO Find Gemini+” เป็นสมาร์ทโฟน Android ซีพียู Dual-Core ที่น่าสนใจมากรุ่นนึง เพราะราคาไม่แพง รองรับการใช้งานทั่วไปครบเครื่อง ใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย, Wi-Fi GPS และสามารถใส่ได้ถึง 2 ซิมการ์ดด้วยกัน เหมาะกับใช้โทรออก รับสาย หรือจะแชท ทำได้บนรุ่นเดียว หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานานเกิน 1 ปี เหมาะผู้ใช้สมร์ทโฟน-ไม่เน้นกล้องมากันัก เช่นเดียวกับไม่เน้นความแรง ด้านราคาตอนนี้อยู่ที่ 9,900 บาท ค่อนข้างสมราคาทีเดียว
สมาร์ทโฟนรุ่นตลาสสิคของ OPPO ที่วางจำหน่ายมาค่อนข้างนานแล้ว “Find 3” ดีไซน์ทรงเหลี่ยมคลาสสิค ค่อนข้างหรูหรา มาพร้อมกับหน้าจอ IPS 4.0 นิ้ว แสดงผลได้ค่อนข้างดี, ซีพียู Dual-Core 1.5 GHz ตอบสนองฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ มากมาย ลงแอพพลิเคชั่นเสริมผ่าน Google Play Store แชท เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ ติดกล้อง 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอระดับ Full HD อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้น้ำหนักตัวมากนิดนึงครับ แต่ก็จับถือได้กระชับมือ สำหรับ OPPO Find 3 เป็นเจ้าของได้ในราคาประมาณ 10,900 บาท เพิ่มงบจาก Find Gemini+ นิดเดียวเท่านั้น
ต้นปี 2556 แบบนี้ OPPO มี 2 รุ่นใหม่เปิดตัวก็คือ Find Way และ Find 5 สำหรับ “Find Way” (หรือ OPPO Ulike2 ในจีน) ออกแบบมาเพื่อสาวๆ โดยเฉพาะด้วยคุณสมบัติเด่น กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ! พร้อมโหมด Beauty Plus หน้าเนียนใส ขาวปิ๊งโดยไม่ต้องง้อแอพฯ ใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนกล้องหลังติดมาให้ 8 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD และมีโหมดให้ปรับเยอะพอตัว รวมถึงการใช้ฟังก์ชั่นกล้องโลโม เช่นเดียวกับบนสมาร์ทโฟน OPPO หลายรุ่น หน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 1.2 GHz และรัน Android 4.0.4 ดีไซน์สวยงามเอาเรื่อง รับรองว่าหลายคนต้องชอบแน่นอน
หนึ่งในม้ามืดของสมาร์ทโฟน Flagship ที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติระดับเทพ ทั้งหน้าจอ Full HD ขนาด 5.0 นิ้ว เนียนคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ดีไซน์สุดอลังการ วัสดุบอดี้โลหะ ซีพียู Snapdragon S4 Pro 1.5 GHz ประมวลผลแอพฯ ลื่นทุกสถาบัน ระบบปฏิบัติการ Android 4.1, กล้อง 13 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพสวยงาม พร้อมบันทึกวิดีโอ Full HD มีโหมด HDR ด้วย ! แบตเตอรี่ 2,500 mAh และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย มีให้เลือก 2 ความจุครับ – 16, 32 GB คาดว่าจะเปิดตัวไม่ถึง 20,000 บาท เอ .. งานนี้ค่ายอื่นคงอึ้งพอประมาณเลยล่ะ
น้องเล็กสุดของ Acer “Liquid Z1 Duo” ที่สเปคภายในอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ เมื่อเทียบกับราคา มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ซีพียูความเร็ว 1 GHz รองรับการใช้งานแอพฯ ต่างๆ ได้ดี รันบนระบบปฏิบัติการ Android 2.3.6, กล้อง 3 ล้านพิกเซล และรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Dual-Standby กับราคาเพียง 3,990 บาท ก็ถือว่าสมราคาทีเดียวครับ
นอกจากรุ่นล่างแล้ว Acer ยังมีสมาร์ทโฟน Android 2 ซิมการ์ดระดับกลางให้เลือกใช้ด้วย “Liquid Gallant S Duo” หน้าจอทัชสกรีนขนาด 4.3 นิ้วความละเอียด qHD แสดงผลเนียนพอตัว ซีพียู Dual-Core 1 GHz รันระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean 4.1 ได้), กล้อง 5 ล้านพิกเซล บันทึกวิดีโอ HD 720p, ระบบเสียง Dolby Mobile Plus รุ่นนี้ค่อนข้างแปลกอย่างนึงคือ ปุ่ม Power ย้ายไปอยู่ข้างหลังเครื่อง ดังนั้นเวลาใช้งานอาจจะไม่ชินมือสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี ราคารุ่นนี้ถือว่าไม่แพงครับ 8,990 บาท
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Acer ทำรุ่นนี้ให้น่าใช้งานกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา สำหรับ “CloudMobile” ได้รับรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมจาก iF Design Award ปีที่ผ่านมา สเปคภายในค่อนข้างดีทีเดียวครับ หน้าจอความละเอียด HD ขนาด 4.3 นิ้ว เนียนคมชัดมาก ซีพียู Snapdragon S4 1.5 GHz ใช้งาน Social Network เล่นเกม ลงแอพฯ เสริมเฉพาะด้านได้มากมาย ใส่กล้องมาให้ 8 ล้านพิกเซล รองรับการบันทึกวิดีโอ Full HD รัน Android 4.0.4 (อัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้เร็วๆ นี้) กับราคาค่าตัวประมาณ 13,900 บาท ชอบของแนวดีไซน์เด็ดไม่ควรพลาดครับกับ “Acer CloudMobile”
ส่วนใหญ่เราจะเห็นแต่แท็ปเล็ต Android จนเบื่อแล้ว วันนี้มาชมแท็ปเล็ต Windows 8 จาก Acer กันดีกว่า “Iconia Tab W511” ขอบอกว่าน้ำหนักเบาจริงๆ เมื่อเทียบกับแท็ปเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้วทั่วไป ใช้ซีพียู Intel ATOM Z2760 1.8 GHz แรม 2 GB, ระบบปฏิบัติการ Windows 8 ลงโปรแกรมได้เหมือนคอมพิวเตอร์ทุกประการ พิมพ์งาน เข้าเว็บ แม้กระทั่งเล่นเกมเล็กๆ ไม่มีปัญหาอะไร ที่สำคัญคือรองรับ 3G ด้วยนะครับ ไม่ต้องหา Wi-Fi Hotspot ให้เสียเวลา เหมาะกับซื้อมาใช้ทำงานนอกบ้าน แค่หาขาตั้ง, คีย์บอร์ดไร้สายสักตัวเพิ่ม ราคาสนนอยู่ที่ 20,900 บาท ถ้าเอา Keyboard Dock เพิ่มก็ 23,900 บาทจ้า
เพิ่งออกข่าวเปิดตัวมาสดๆ ร้อนๆ เลยครับ หากคุณอยากได้แท็ปเล็ต Android ราคาประหยัดสุดขั้วในราคาเพียง 3,990 บาท วันนี้ Acer จัดให้แล้ว “Iconoa Tab B1-A71” สเปคหน้าจอ 7.0 นิ้ว (ความละเอียด 1024 x 600 พิกเซล) ซีพียู Dual-Core 1.2 GHz รันระบบ Android 4.1.2 แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้วกับการใช้งานทั่วไป ลงแอพฯ ดูหนัง HD เล่นเกม จัดการงาน อ่านอีเมล เล่นเว็บ ฯลฯ เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้แท็ปเล็ตเป็นครั้งแรกครับ ได้ยินข่าวว่าจะมาปรากฎตัวในงาน TME 2013 พร้อมขายในราคาเบาๆ 3,990 บาท เตรียมเงินรอไว้ได้เลยจ้า
สัมผัสภาคต่อของนวัตกรรมแปลงสมาร์ทโฟนเป็นแท็ปเล็ตจอยักษ์กับ “Asus PadFone 2” ตัวสมาร์ทโฟนหลักสเปคแรงสุดขั้ว ดีไซน์สวยงาม ใช้วัสดุบอดี้งานประกอบทนทานมาก หน้าจอ Super-IPS+ ขนาด 4.7 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล) ชิปประมวลผล Snapdragon S4 Pro เช่นเดียวกับ OPPO Find 5, LG Nexus 4 ติดกล้อง 13 ล้านพิกเซล, รองรับ 3G Wi-Fi GPS ครบเซ็ท และแบตเตอรี่ 2,140 mAh ที่น่าสนใจคือ Tablet Dock ครับ หน้าจอ 10.1 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล) แบตเตอรี่ 5,000 mAh เมื่อเสียบสมาร์ทโฟนเข้าแล้ว สามารถชาร์จแบตมือถือได้ด้วย รันบน Android 4.1.2 ครับ ทั้งนี้ค่าตัวของ PadFone 2 ค่อนข้างสูงเล็กน้อยที่ 26,900 บาท จะว่าไปถ้าตัด Tablet Dock ออกได้คงถูกกว่านี้ได้อีกนะ อิอิ
อันนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีก่อนแล้วว่าจะวางจำหน่าย แต่สุดท้ายก็เลื่อนออกไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่ทราบราคาขายจริง (11,900 บาท) สำหรับ “Nexus 7” คือแท็ปเล็ตหน้าจอ 7.0 นิ้ว ประมวลผลเร็วแรงด้วยชิป Tegra 3 เท่ากับรองรับคอนเทนท์ระดับ Full HD ได้สบายๆ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 และสามารถอัพเดทได้เรื่อยๆ ตราบใดที่ Google ยังคงสนับสนุนอยู่ แบตเตอรี่ 4,325 mAh แน่นอนว่าใส่ซิมการ์ดใช้งาน 3G ทุกเครือข่าย ! มาลุ้นกันดีกว่าว่าในงาน TME 2013 จะวางจำหน่ายทันหรือไม่ ? หรือต้องรอเก้อต่อไป : )
สังเกตดีๆ จะเห็นว่า i-mobile เริ่มกลับมาฮิตอีกครั้ง หลังออกสมาร์ทโฟน Android ราคาสุดประหยัดมาให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ยุค Q2 Duo เป็นต้นมา จนกระทั่ง “i-mobile IQ1″ หน้าจอขนาดใหญ่ 4.5 นิ้ว (ความละเอียด qHD), ซีพียู Dual-Core 1 GHz ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 ลงแอพพลิเคชั่นใช้งานได้ปกติ เหมือนบน Android รุ่นอื่นๆ กล้อง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ 1,800 mAh กับราคาแค่ 6,190 บาท .. คุ้มจริงๆ
อีกรุ่นนึงจาก i-mobile ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน สำหรับ “i-mobile IQ5A” โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.0 นิ้ว เหมาะกับผู้ใช้ที่ชอบดูเว็บไซต์ อ่านอีเมล เอกสาร ฯลฯ แบบสบายๆ ไม่ต้องเพ่งสายตา ซีพียู Dual-Core 1 GHz ตอบสนองการใช้งานได้ดี ลงแอพพลิเคชั่นหลากหลายในตัว กล้อง 8 ล้านพิกเซล, แบตเตอรี่ 2,000 mAh และรองรับการใช้งาน 3G Wi-Fi GPS ครบ รุ่นนี้เคาะราคาที่ 6,790 บาท สูงสุดในบรรดาซีรี่ส์ดังกล่าวจ้า
ล่าสุดไอโมบายได้นำเสนอ IQ6 (และ IQ6A) สมาร์ทโฟน Android ตัวท็อปของแบรนด์ ด้วยสเปคเทียบชั้นไฮเอนด์เช่น หน้าจอความละเอียด HD ขนาด 5.0 นิ้ว, ซีพียู Dual-Core 1.1 GHz แรม 1 GB ประมวลผลลื่นใหล ตอบสนองการใช้งานทุกฟีเจอร์, ระบบปฏิบัติการ Android 4.1 เวอร์ชั่นล่าสุด รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ! เรียกว่าจัดเต็มจริงๆ กับราคาเพียง 9,900 บาท ไม่ต้องลังเลนาน ราคานี้คุ้มจริงๆ ครับ
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้วยังมีแท็ปเล็ตให้เลือกใช้งานอีกด้วยกับ “i-note 3” หน้าจอขนาด 7.0 นิ้ว (ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล) รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 ใช้ซีพียู Dual-Core 1.2 GHz รองรับคอนเทนท์ HD ทั้งวิดีโอ เกม ภาพ พร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล ! แบตเตอรี่ 4,000 mAh เหมาะกับผู้ใช้งานด้านมัลติมีเดีย ดูหนัง เล่นเว็บ เล่นเกมค่อนข้างดีเลยล่ะ รุ่นนี้น่าจะวางจำหน่ายทันงาน TME 2013 ครับ ทั้งนี้ยังมีแท็ปเล็ตสเปคใกล้เคียงกันให้เลือกอีกเยอะทีเดียว
เป็นครั้งแรกที่แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังอย่าง Sharp นำสมาร์ทโฟนเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา หากใครติดตามข่าวสารมือถือญี่ปุ่นบ่อยๆ จะทราบกิตติศัพท์ดีครับ สำหรับ “AQUOS Phone” ที่จะประเดิมตลาดต้นปี 2013 โดดเด่นด้วยหน้าจอ IGZO 5.0 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD คมชัดถึงรูปขุมขนกันเลยทีเดียว, ซีพียู Snapdragon S4 1.5GHz, กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรันระบบปฏิบัติการ Android 4.1 รุ่นนี้เหมาะกับใช้เล่นเกม ดูหนังโดยแท้จริงจากหน้าจอสุดอลังการ ต้องมาเห็นกับตาแล้วจะอึ้ง
มาดูกันอีกหนึ่งรุ่นที่ Sharp ส่งมาลุยตลาดประเทศไทย กับสมาร์ทโฟนดีไซน์เรียบเท่ มีวัสดุแบบ Uni-body ชิ้นเดียวไร้รอยต่อ พร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว คมชัดระดับ HD 720p ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้อย่างลงตัว กับ ซีพียู Dual-core 1.2 GHz, RAM 1 GB รันระบบปฏิบัติการ Android 4.0.4 แตกต่างด้วยส่วนติดต่อผู้ใช้งานแบบใหม่อย่าง Feel UX พร้อมกล้องหลัก 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล เห็นทีต้องรอลุ้นเปิดราคาในงาน TME 2013 ว่าจะออกมายั่วใจแค่ไหน
รุ่นนี้มาในมาดขรึมกับตัวเครื่องสีเทาดำ ให้อารมณ์ความแกร่งเหมือนไทเทเนียม ยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์โค้งมนเรียบหรูด้วยขอบโครเมียม มีหน้าจอขนาดกำลังดีอยู่ที่ 4.5 นิ้ว พร้อมประสิทธิภาพระดับ Dual-core 1 GHz, RAM 512 MB ควงคู่มากับ Android 4.0.4 และส่วนติดต่อผู้ใช้งาน Feel UX อีกทั้งยังมีกล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาวแอนดรอยด์มือใหม่
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครที่ชอบของใหญ่ กับ Sharp SH530U ที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง5 นิ้ว ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่สามารถรองรับการใช้งาน 2 ซิม มีซีพียู Dual-core 1 GHz พร้อม ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0.4 ตอบโจทย์การใช้งานมัลติมีเดียได้อย่างเต็มที่ด้วยพื้นที่หน่วยความจำภายใน 16 GB สามารถเพิ่ม microSD ได้อีก 32 GB พร้อมกล้องดิจิตอลความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
คงจะขาดไปไม่ได้สำหรับมือถือท็อปฮิตติดลมบน ที่หลายคนยังคงหาทางจับจองมาเป็นเจ้าของกันอยู่ อย่างเจ้า Apple iPhone 5 ที่อัพเกรดขนาดหน้าจอให้ใหญ่ยาวขึ้นด้วยขนาด 4 นิ้ว พร้อมชิป Apple A6 และระบบปฏิบัติการ iOS 6 ที่เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ขึ้นมาเยอะพอสมควร นอกจากนี้ยังมีกล้อง 8 ล้านพิกเซลที่ถ่ายปุ๊บสวยปั๊บ โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรมากมายติดมาให้ใช้งานกัน ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าภายในงาน TME 2013 นั้นมี Apple iPhone 5 มาให้เลือกซื้อกันทุกรุ่นความจุ จากทุกเครือข่ายเลยจ้า
อัพไซส์ขึ้นมาอีกนิดกับ Apple iPad mini ทางเลือกใหม่สำหรับใครที่คิดว่าขนาดเดิมๆ ของ iPad มันใหญ่จนเกินไป ด้วยหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว น้ำหนักเบาเพียง 312 กรัม ช่วยให้พกพาได้สะดวก พร้อมชิปหน่วยประมวลผล Apple A5 ขนมาวางจำหน่ายในงาน TME 2013 ทุกรุ่น ทั้ง Wi-Fi และ Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นเพียง 11,200 บาท
ทั้งหมดที่เขียนนั้นพบกันในงาน Thailand Mobile Expo 2013″ ตั้งแต่วันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่เดียว !
Follow @flashfly
[adsense2]