หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน nubia Z60 Ultra ก็พร้อมทำตลาดไปทั่วโลกแล้ว โดยมีให้เลือกเฉพาะสีดำและสีเงิน แต่ไม่มีสีน้ำเงินให้เลือก ซึ่งฝาหลังของสีน้ำเงินจะมีลวดลายคล้ายภาพวาด The Starry Night ของ Vincent Van Gogh จิตรกรเอกของโลก
nubia Z60 Ultra มีจุดเด่นที่สำคัญ 3 อย่าง ได้แก่ กล้องถ่ายรูป, จอแสดงผล และ ชิปประมวลผล
nubia Z60 Ultra ได้รับกล้องหลัง 3 ตัว ที่มีเทคโนโลยีป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล (OIS – Optical Image Stabilization) ทั้ง 3 ตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัก, กล้อง Ultra Wide และ กล้อง Telephoto
สเปกกล้องหลังของ nubia Z60 Ultra
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล 35 มม. รูรับแสง f/1.59 ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX800 ชุดเลนส์ 1G+6P มีกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide 50 ล้านพิกเซล 18 มม. รูรับแสง f/1.8 ระบบออโต้โฟกัส มีกันสั่น OIS
- กล้อง Telephoto 64 ล้านพิกเซล 85 มม. มีกันสั่น OIS
nubia Z60 Ultra มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ความละเอียด 2480 x 1116 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 400 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้ความสว่างสูงสุด 1500 นิต สีสันคมชัด 1.07 พันล้านสี รองรับขอบเขตสี DCI-P3 100% อัตราการรีเฟรช 120Hz และมีเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่ 2160Hz ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานอย่างต่อเนื่อง
จอแสดงผลของ nubia Z60 Ultra ใช้ดีไซน์ไร้กรอบ ไร้หลุม ไร้รอยบาก โดยซ่อนกล้องหน้า 12 ล้านพิกเซล ไว้ใต้หน้าจออย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยีซ่อนกล้องใต้หน้าจอ Under Display Camera (UDC) รุ่นที่ 5
ด้านประสิทธิภาพ nubia Z60 Ultra ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ความจำ RAM แบบ LPDDR5X พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวแบบ UFS 4.0 แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 6000mAh
nubia Z60 Ultra เวอร์ชัน Global มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ RAM 8GB + ROM 256GB | RAM 12GB + ROM 256GB | RAM 16GB + ROM 512GB ราคาเริ่มต้น 599 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,790 บาท
ที่มา – nubia