HUAWEI ส่งแท็บเล็ตรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงท้ายปี 2023 ด้วย HUAWEI MatePad Air ที่ตอบโจทย์ทั้งความบันเทิง และการทำงาน โดดเด่นที่จอแสดงผล HUAWEI FullView Display ขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว ให้อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz รองรับการใช้งานร่วมกับ HUAWEI Smart Keyboard และ ปากกา HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 2 ทำงานคู่กับแอป HUAWEI Notes ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพระดับเรือธง พร้อมด้วยลำโพง 4 ตัว ที่มีระบบเสียง HUAWEI Histen 8.0 และทั้งหมดอัดแน่นไว้ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ 6.4 มิลลิเมตร
สเปก HUAWEI MatePad Air
- จอแสดงผล TFT LCD (IPS) ขนาด 11.5 นิ้ว อัตรารีเฟรช 144Hz
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 888
- ความจำ RAM 8GB + ROM 128GB / 256GB
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- ลำโพง 4 ตัว (ระบบเสียง HUAWEI Histen 8.0), ไมโครโฟน 4 ตัว
- การเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2, USB Type-C
- เทคโนโลยีระบุตำแหน่ง GPS, GLONASS, BeiDou, GALILEO, QZSS
- เซ็นเซอร์ Ambient light sensor, Gravity sensor, Hall sensor, Gyroscope, Compass
- ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.1
- แบตเตอรี่ 8300mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 40W SuperCharge
- ขนาดตัวเครื่อง 261.89 x 178.17 x 6.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนักประมาณ 518 กรัม (รวมแบตเตอรี่)
ดีไซน์เพรียวบางสุดพรีเมียม
HUAWEI MatePad Air ถูกสร้างมาเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะพกพาไปไหน จึงมุ่งเน้นไปที่ดีไซน์สวยงามสะดุดตา น้ำหนักเบา ดีไซน์บางเฉียบ เพื่อความคล่องตัวในการใช้งาน จึงมีน้ำหนักเบาเพียง 518 กรัม (รวมแบตเตอรี่) ขอบตัวเครื่องบางเพียง 6.4 มิลลิเมตร แต่มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว จึงให้ประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบาย
มุมมองด้านหน้าเต็มไปด้วยพื้นที่ของจอแสดงผล HUAWEI FullView Display ซึ่งหมายถึงดีไซน์หน้าจอกว้างสุดขอบ ขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว มีพื้นที่ขอบหน้าจอที่บางเท่ากันรอบด้าน ทำให้ภาพรวมมีความสมมาตร โดยมีการซ่อนกล้องหน้าไว้ในขอบหน้าจอด้านบน (เมื่อใช้งานในแนวนอน)
ด้านหลังเน้นความเรียบง่าย ติดโลโก้ HUAWEI ไว้ตรงกึ่งกลาง และวางกล้องหลักไว้ที่มุมบน ใกล้กันมีรูไมโครโฟน กับแฟลช LED ซึ่งทั้งหมดถูกจัดวางไว้ในกรอบวงรี
ขอบด้านข้างมีความบางเพียง 6.4 มิลลิเมตร พบปุ่มเพาเวอร์ และลำโพง 2 ตัว
อีกข้างมีลำโพงอีก 2 ตัว ตรงกลางเป็นพอร์ต USB Type-C (USB 3.2 GEN1)
ด้านบนมีปุ่มปรับระดับเสียง และ ไมโครโฟน 3 ตัว (รวมทั้งหมดมีไมโครโฟน 4 ตัว อีกตัวติดตั้งไว้ใกล้กับกล้องหลัง)
ขอบล่างมีหมุดทองแดง 3 จุด สำหรับเชื่อมต่อกับ HUAWEI Smart Keyboard และช่องใส่ซิม
แท็บเล็ตรุ่นแรกของ HUAWEI ที่มีอัตราการรีเฟรชสูง 144Hz
นอกจากรูปทรงที่เพรียวบาง น้ำหนักเบา HUAWEI MatePad Air ยังมีจุดเด่นที่จอแสดงผลขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่กำลังพอดี เหมาะกับการพกพา ไม่เล็กเกินไปจนทำงานได้ละบาก และไม่ใหญ่เกินไปที่จะพกพา สามารถใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายได้สะดวก
จอแสดงผลของ HUAWEI MatePad Air ใช้ดีไซน์ที่เรียกว่า HUAWEI FullView Display ซึ่งหมายถึงดีไซน์หน้าจอกว้างสุดขอบ จนทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 87% โดยมีความละเอียด 2800 x 1840 พิกเซล ขนาด 11.5 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 291 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ช่วงสีสมจริงดั่งตาเห็นตามมาตรฐานระดับ P3 และให้สีสัน 16.7 ล้านสี
HUAWEI MatePad Air ยังเป็นแท็บเล็ตเครื่องแรกของ HUAWEI ที่มีอัตราการรีเฟรชสูง 144Hz ตอบสนองการสัมผัสได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าจะเลื่อนดูภาพถ่าย วิดีโอ อัปเดตโลกโซเชียล ไปจนถึงเลื่อนดูงานต่างๆ ใน WPS Office อีกทั้งยังสามารถปรับอัตราการรีเฟรชได้แบบไดนามิกในช่วง 30 – 144Hz จึงมอบประสบการณ์การแสดงกราฟิกที่ราบรื่นมีชีวิตชีวา และยังช่วยรักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้อีกทางหนึ่ง
HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 2 ทำงานคู่กับแอป HUAWEI Notes ได้อย่างลงตัว
จอแสดงผลของ HUAWEI MatePad Air รองรับการใช้งานร่วมกับสไตลัส HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 2 ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้จับด้ามได้อย่างถนัด ขีดเขียนได้ลื่นไหล ด้วยค่าความหน่วง (Latency) ที่ต่ำเป็นพิเศษเพียงแค่ 2 มิลลิวินาที และรองรับแรงกดถึง 4,096 ระดับ ให้ความรู้สึกเหมือนใช้ปากกาบนแผ่นกระดาษจริง
HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 2 มีความสามารถหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแปลงลายมือเป็นข้อความ, แปลงลายเส้นเป็นรูปร่างทางเรขาคณิต, การดูดสีจากภาพ, ใช้งานเป็นยางลบไวต่อแรงกด และยังช่วยในการค้นหาที่แม่นยำ สไตลัส HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 2 ช่วยให้เข้าถึง Quick Notes ได้อย่างรวดเร็ว เพียงใช้ M-Pencil แตะหน้าจอสองครั้ง และรองรับฟีเจอร์การจัดวางข้อความแบบผสม จึงสามารถวาดบันทึกได้อย่างง่ายดาย
HUAWEI MatePad Air มาพร้อมแอปพลิเคชัน HUAWEI Notes ที่ไม่ได้มีไว้เพียงแค่จดบันทึกเท่านั้น แต่ยังสามารถวาดรูป และสร้างเอกสารได้อย่างมืออาชีพ โดยรองรับการใช้งานร่วมกับ M-Pencil ในการตัดภาพ ข้อความ เคลื่อนย้าย และเปลี่ยนลายมือเป็นข้อความดิจิตอล โดยหัวแปลงให้เลือกหลากหลาย และได้รับการอัปเกรดเอฟเฟกต์แปรงที่ HUAWEI พัฒนาขึ้นเอง ช่วยให้ประสบการณ์การเขียนราบรื่น และชัดเจนยิ่งขึ้น
แอป HUAWEI Notes ยังสามารถจัดกลุ่มโน้ตในไฟล์เดียวกันได้ เหมือนโฟลเดอร์บนเดสก์ท็อป สามารถแชร์โน้ตเป็นไฟล์ภาพหรือ PDF ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ และมีฟีเจอร์ Laser Pointer ในระหว่างนำเสนองานผ่านคอมพิวเตอร์ได้
HUAWEI MatePad Air ยังมี Super Hub อีกฟีเจอร์ใหม่ที่มีประโยชน์ในการทำงาน สามารถค้นหาโน๊ตได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ค้นคีย์เวิร์ดที่มีในโน๊ต รองรับการโอนย้ายไฟล์ภาพ และข้อความจากเว็บอื่น หรืออุปกรณ์อื่น และเปิดหน้าต่างใช้งานโน๊ตพร้อมกันสองหน้าต่าง
แอป HUAWEI Notes ยังรองรับงานสร้างสรรค์ด้วยฟีเจอร์ Color Capture สามารถเปิดใช้งาน 2 หน้าต่างคู่กัน เพื่อดูดสีจากภาพอีกหน้าต่าง มาใส่ในงานของแอป HUAWEI Notes ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าต้นฉบับจะมาจากแอปเดียวกันหรือคนละแอป
HUAWEI Notes ช่วยให้ผู้ใช้งานจับภาพหน้าจอได้อย่างมืออาชีพด้วย Take Snippet 2.0 โดยใช้ปากกา HUAWEI M-Pencil ลากทแยงมุมที่ฝั่งขวาของจอจากนั้นเลือก Take Snippet แล้วลากส่วนที่ต้องการ เครื่องจะทำการจับภาพส่วนที่ต้องการเครื่องจะจับภาพเป็นกรอบสี่เหลี่ยมให้ลากมาใส่ใน HUAWEI Notes ได้ ทั้งนี้ Take Snippet เวอร์ชันล่าสุด ได้เพิ่มความสามารถในการคัดลอกทั้งภาพ และข้อความ สามารถค้นหาข้อมูล และคัดเลือกข้อมูลที่ต้องการได้ในเวลาเดียวกัน ดึงข้อความจากรูปภาพ และวิดีโอ แม้แต่ข้อความที่มีมุมเอียง และแบบอักษรที่ไม่ได้มาตรฐาน
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard
HUAWEI MatePad Air อาจเป็นแล็ปท็อปเครื่องใหม่สำหรับใครหลายคนที่กำลังมองหาอุปกรณ์พกพาไว้ทำงานได้ทุกที่ เพียงเชื่อมต่อแท็บเล็ตเข้ากับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard และถ้ามีเม้าส์อีกตัวก็พร้อมทำงานได้ทันที
HUAWEI Smart Magnetic Keyboard สามารถจับคู่กับ HUAWEI MatePad Air ด้วยแม่เหล็ก แต่ละปุ่มมีระยะการเดินทางเพียง 1.5 มิลลิเมตร ช่วยให้กดได้อย่างรวดเร็ว และยังมีปุ่มเสียง AI (ถัดจากปุ่ม Alt ขวามือ) ซึ่งจดจำหลายภาษาสำหรับการพิมพ์แบบแฮนด์ฟรี, ชุดทางลัดมากกว่า 40 แบบ, ปุ่ม Fn เพิ่มเติม และปุ่ม Esc เพื่อการใช้งานแบบแล็ปท็อป
ทั้งนี้ คีย์บอร์ด HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ได้รับการออกแบบมาให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Laptop Form, Split Form และ Studio Form
- Laptop Form – สำหรับการทำงานในรูปแบบ PC ที่คุ้นเคย
- Split Form – เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการแยกคีย์บอร์ดออกจากแท็บเล็ต
- Studio Form – สามรถปรับมุมมองแบบ Stepless ในช่วง 120 ถึง 160 องศา
Multi-Window
นอกจากจะมีขนาดหน้าจอใหญ่ 11.5 นิ้ว HUAWEI MatePad Air ยังแสดงภาพในอัตราส่วน 3:2 ซึ่งเป็นอัตราส่วนทองคำสำหรับประสิทธิภาพการทำงานสูง เทียบได้กับ MateBooks ไม่ว่าจะใช้งานในโหมดแนวนอนหรือแนวตั้ง ก็สามารถทำงานได้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่นการทำงานบนแอป Word และ Excel จอแสดงผลที่มีอัตราส่วนภาพ 3:2 จะสามารถแสดงข้อมูลได้มากกว่า มองเห็นคอลัมน์ได้มากขึ้น รวมไปถึงงานตัดต่อวิดีโอ ก็สามารถจัดการแทร็กเสียงและวิดีโอได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน ทำให้กระบวนการแก้ไขวิดีโอมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ใช้เวลาน้อยลง เมื่อแก้ไขวิดีโอ สามารถดูและทำงานกับแทร็กเสียงและวิดีโอได้มากขึ้นในเวลาเดียวกัน ช่วยเร่งกระบวนการแก้ไขของคุณและอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อัตราส่วนภาพ 3:2 ยังเหมาะสำหรับการใช้งานแบบ Multi-Window สามารถเปิดแอปแบบแยกหน้าต่างได้อย่างเต็มที่ ทำให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะแชทกับเพื่อนพร้อมจดบันทึก หรือ ดูวิดีโอระหว่างพิมพ์เอกสาร
Super Device
HUAWEI MatePad Air สามารถจัดการไฟล์และเอกสารได้อย่างง่ายดายด้วยฟังก์ชัน SuperHub ช่วยลดความยุ่งยากในการถ่ายโอนสื่อระหว่างอุปกรณ์โดยไม่ต้องอาศัยแอปจากนักพัฒนารายอื่น เพียงแค่ย้ายไฟล์ที่ต้องการถ่ายโอนไปยัง SuperHub ก็จะสามารถเข้าถึงได้ทันทีบนอุปกรณ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ในตอนแรกเนื้อหาจะถูกจัดเก็บไว้ในฟังก์ชันชั่วคราวที่เรียกว่า “การ์ด” ซึ่งสามารถโอนไปยังอุปกรณ์ที่ต้องการได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาสลับแอปไปมา
ประสบการณ์ด้านความบันเทิง
ไม่เพียงแต่รองรับการทำงานระดับมืออาชีพ HUAWEI MatePad Air ยังรองรับการใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างดี ไม่ว่าจะชมภาพยนตร์ หรือ เล่นเกม ก็ให้ประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบด้วยจอแสดงผล HUAWEI FullView Display ขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ตั้งแต่ 30Hz ถึงสูงสุด 144Hz จึงแสดงกราฟิกได้อย่างลื่นไหล
ด้วยอัตราการรีเฟรชสูงถึง 144Hz ยังช่วยให้ผู้ใช้ HUAWEI MatePad Air ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมระดับ e-Sport อย่างเกม Genshin Impact ก็ได้รับการปรับปรุงเฟรมเรทจาก 60Hz เป็น 90Hz เพียงเปิดเมนูแบบเลื่อนลงและคลิกที่ Super Frame (Super Frame ช่วยคาดการณ์เฟรมในอนาคตได้จนถึงระดับพิกเซล ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ตารางและการแสดงผลที่มีอัตราเฟรมสูงอย่างเหนือธรรมชาติ)
ด้านเสียง HUAWEI ก็ให้ความสำคัญเช่นกัน โดยติดตั้งลำโพงมาให้ 4 ตัว แบบ 4 ช่องสัญญาณ แยกซ้าย-ขวาฝั่งละ 2 ตัว (เมื่อใช้งานในแนวนอน) และยังมีเทคโนโลยี HUAWEI Histen 8.0 สามารถขยายสนามเสียงเซอร์ราวด์ทำให้เสียงในภาพยนตร์มีความชัดเจน และถูกปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับฉากต่างๆ
กล้องหน้า 8MP + กล้องหลัง 13MP
HUAWEI MatePad Air ได้รับกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายภาพเซลฟี่พอได้ รวมถึงถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที แต่ที่เน้นจริงๆ คือใช้สำหรับประชุมทางการหรือวิดีโอแชท
กล้องหน้าของ HUAWEI MatePad Air ให้มุมมองกว้างพิเศษ มาพร้อมฟีเจอร์ FollowCam ช่วยจัดเฟรมให้ผู้ใช้งานอยู่ตรงกลางเสมอ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวหรือมีบุคคลอื่นเข้ามาร่วมเฟรมด้วย และยังประชุมออนไลน์หรือวิดีโอแชทด้วยคุณภาพเสียงที่ชัดเจน ด้วย ไมโครโฟนในตัว 4 ตัว ที่สามารถจับเสียงผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน AI Noise Cancellation ช่วยแยกแยะความแตกต่างระหว่างเสียงจริงและเสียงอื่นๆ ในแบบเรียลไทม์ จากนั้นจะกรองเสียงรบกวนอื่นๆ ออกไป เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้ยินเฉพาะเสียงที่ตั้งใจจะได้ยินเท่านั้นทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สำหรับกล้องหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 มีระบบออโต้โฟกัส รองรับโหมดถ่ายภาพ Beauty, Photo, Panorama, Time-lapse, Stickers, Documents และ Video สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ด้วยอัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ประสิทธิภาพ
HUAWEI MatePad Air ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธง Qualcomm Snapdragon 888 ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีกระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร ประกอบด้วย CPU แบบ 64-bit Quad Core (Cortex-X1 @2.84GHz 1-core + Cortex-A78 @2.42GHz 3-core + Cortex-A55 @1.8GHz 4-core) พร้อมด้วย GPU – Adreno 660 ด้านความจำได้รับ RAM 8GB โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวให้เลือกระหว่าง 128GB และ 256GB
HUAWEI MatePad Air สนับสนุนมาตรฐานการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 (802.11a/b/g/n/ac/ax) รองรับความเร็วได้สูงสุดที่ 3.6 Gbps ด้วยค่า Latency ที่ต่ำ และความสามารถในการป้องกันการรบกวนสัญญาณของ Wi-Fi 6 จะสามารถดาวน์โหลดแพ็คเกจเกมขนาด 2GB โดยใช้เวลาเพียง 16 วินาที อีกทั้งยังรองรับ 4G LTE จึงมั่นใจได้ว่าผู้ใช้งาน HUAWEI MatePad Air จะสามารถทำงานหรือเล่นเกมออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา
ชาร์จเร็ว 40W SuperCharge
HUAWEI MatePad Air มีความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8300mAh สามารถเล่นวิดีโอความละเอียด Full HD 1080P แบบออฟไลน์ ได้นานสูงสุด 12 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปได้ตลอดทั้งวัน และเมื่อถึงเวลาเติมพลังงาน ก็ไม่ต้องรอนานเกินไป เพราะรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 40W SuperCharge
สรุปราคาและการจำหน่าย
HUAWEI MatePad Air ถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่กำลังมองหาแท็บเล็ตเครื่องใหม่ไว้ใช้งานด้านความบันเทิง และสามารถพกพาไปทำงานในทุกๆ ที่ได้อย่างคล่องตัว ด้วยจุดเด่นที่ดีไซน์บางเบา จอแสดงผลขนาดใหญ่ 11.5 นิ้ว ให้อัตราการรีเฟรชสูง 144Hz รองรับการใช้งานร่วมกับสไตลัส HUAWEI M-Pencil รุ่นที่ 2 และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ช่วยยกระดับให้ HUAWEI MatePad Air กลายเป็นแล็ปท็อป ไม่ว่าจะทำงานด้านกราฟิกหรือเอกสาร
HUAWEI MatePad Air ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รองรับชาร์จเร็ว 40W ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธงของ Qualcomm สนับสนุนการเชื่อมต่อมาตรฐาน Wi-Fi 6 / 4G LTE อีกทั้งยังติดตั้งลำโพง และไมโครโฟนมาให้อย่างละ 4 ตัว จึงตอบสนองความบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่ม รวมไปถึงการประชุมออนไลน์ก็ให้เสียงที่มีคุณภาพ
HUAWEI MatePad Air (8+256GB LTE) วางจำหน่ายในราคา 22,990 บาท โดยลูกค้าสามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 – 12 มกราคม 2567 รับทันที HUAWEI Smart Keyboard มูลค่า 4,990 บาท HUAWEI M-Pencil (รุ่นที่ 2) มูลค่า 4,490 บาท HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท HUAWEI FreeBuds Pro 2 มูลค่า 6,499 บาท และ WeTV VIP 3 เดือน มูลค่า 429 บาท (100 สิทธิ์แรก)