Apple ปล่อยซอฟต์แวร์ iOS 17.2 เวอร์ชัน Release Candidate ออกมาแล้ว ซึ่งเป็นเวอร์ชันสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้ใช้งานที่เข้าร่วมโปรแกรมทดสอบของ Apple เท่านั้น และเป็นสัญญาณว่า iOS 17.2 เวอร์ชันเต็มกำลังจะถูกปล่อยออกมาให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อัปเดตในสัปดาห์หน้า โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ หลายรายการตามรายงานด้านล่าง
แอป Journal
Journal เป็นแอปใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone ได้ทบทวนและชื่นชมกับช่วงเวลาดีๆ ในชีวิต ซึ่งพบว่าสามารถช่วยให้มีสุขภาวะดีขึ้นได้ การใช้ Machine Learning บนอุปกรณ์ ทำให้สามารถแสดงคำแนะนำที่ปรับตามผู้ใช้ได้ เพื่อช่วยมอบแรงบันดาลใจด้านการจดบันทึก
คำแนะนำต่างๆ สร้างขึ้นอย่างชาญฉลาดจากข้อมูลกิจกรรมที่ทำล่าสุด เช่น รูปภาพ ผู้คน สถานที่ การออกกำลังกาย และอื่นๆ ทำให้เริ่มเขียนบันทึกได้ง่าน และยังสามารถเปิดการแจ้งเตือนแบบตั้งเวลา เพื่อสร้างกิจวัตรในการจดบันทึกได้อีกด้วย
แอป Journal สร้างขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้จึงมีความสามารถในการล็อคแอป ใช้การประมวลผลบนอุปกรณ์ และมีใช้การเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ทำให้ผู้อื่นรวมทั้ง Apple ไม่สามารถเข้าถึงบันทึกของผู้ใช้ได้
เพิ่มแอป Translate ให้กับปุ่ม Action
แอป Translate เป็น 1 ใน 9 ฟังก์ชัน ที่สามารถเปิดใช้งานได้ทันทีจากปุ่ม Action ของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถใช้งานได้ จนกระทั่ง Apple ปล่อย iOS 17.2 ออกมา
หลังจากอัปเดต iOS 17.2 ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่แอป Settings > Action Button แล้วปัดหน้าจอไปจนถึงฟังก็ชัน Translate เพื่อกำหนดปุ่ม Action ให้เรียกใช้งานแอป Translate จากนั้นจะสามารถกดปุ่ม Action เพื่อแปลภาษาจากเสียงพูดได้ โดยต้องไปตั้งค่าภาษาที่ต้องการแปลในแอป Translate
แอป Camera
iOS 17.2 ช่วยให้ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Spatial Video หรือการบันทึกวิดีโอเชิงพื้นที่ ด้วยความละเอียด 1080p ที่ 30 เฟรมต่อวินาที โดยวิดีโอที่ถูกบันทึกในรูปแบบ Spatial Video จะช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ในจุดที่ถ่ายภาพหรือวิดีโออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูวิดีโอที่บันทึกแบบ Spatial Video บน iPhone จะไม่เห็นความแตกต่างจากวิดีโอทั่วไป แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เมื่อเปิดดูผ่าน Apple Vision Pro ที่กำลังจะวางจำหน่ายในต้นปีหน้า และ Apple Vision Pro ก็สามารถบันทึกวิดีโอแบบ Spatial Video ได้เช่นกัน
iOS 17.2 ยังมาพร้อมการปรับปรุงกล้อง Telephoto ของ iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ให้จับโฟกัสได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อถ่ายภาพวัตถุขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกล
แอป Messages
แอป Messages ใน iOS 17.2 มาพร้อมปุ่มลูกศรที่มุมขวาบน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถไปยังข้อความแรกที่ยังไม่ได้อ่านในการสนทนาได้อย่างง่ายดาย และสามารถตอบกลับข้อความในแอป Messages ด้วยสติกเกอร์ Reactions เพียงแตะที่ฟองอากาศของข้อความในแชทค้างไว้ แล้วเลือก Add Sticker อีกทั้งยังมีการปรับปรุงให้สามารถปรับรูปร่างของ Memoji ต่างๆ ได้
แอป Weather
แอป Weather ใน iOS 17.2 ได้รับวิดเจ็ตใหม่ๆ ได้แก่ Details, Daily Forecast, Sunrise/Sunset โดย Details จะให้ข้อมูลทั่วไป เช่น โอกาสที่ฝนจะตก, ดัชนี UV, ความเร็วลม และ คุณภาพอากาศ Daily Forecast นำเสนอสภาพอากาศในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และ Sunrise/Sunset แสดงเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในแต่ละวัน
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ
- สามารถขอให้ Siri เข้าถึงข้อมูลสุขภาพที่บันทึกไว้ในแอป Health
- AirDrop รองรับการแชร์ข้อมูลได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บัตรผ่านขึ้นเครื่อง, บัตรเข้าชมภาพยนตร์ และบัตรผ่านอื่นๆ อีกทั้งยังเพิ่มตัวเลือกในการแชร์ Contact
- Apple Music มีตัวเลือกใหม่ Favorite ซึ่งถูกเพิ่มเข้ามาใน iOS 17.1 สำหรับเพิ่มเพลงที่กำลังฟังเป็นรายการโปรด และใน iOS 17.2 ได้เพิ่มเพลงในรายการโปรด ไว้ใน Music Library โดยถูกกำหนดไว้เป็นค่าเริ่มต้น แต่สามารถเข้าไปเปิดหรือปิดได้ที่แอป Settings > Music
- ตัวกรองใหม่ Listening History ใน Apple Music มีไว้ในกรณีที่มีบุคคลอื่นมาขอฟังเพลงใน iPhone เพื่อป้องกันไม่ให้รายการเพลงที่คนอื่นมาฟัง ส่งผลต่อการแนะนำเพลงในอนาคตของ Apple Music
- วิดเจ็ต Digital Clock ช่วยให้ผู้ใช้งานดูเวลาได้อย่างรวดเร็วบนหน้าจอหลัก และขณะอยู่ในโหมดสแตนด์บาย
- ทำให้ iPhone 13 series และ iPhone 14 series รองรับอุปกรณ์ชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi2
- ฟีเจอร์ Sensitive Content Warning มีผลกับสติกเกอร์ในแอป Messages สามารถตรวจจับสติกเกอร์ที่อาจมีภาพเปลือยและเบลอสติกเกอร์ก่อนที่จะมองเห็น และยังใช้งานได้กับ Contact Posters ในแอป Contacts อีกด้วย จากเดิมที่ใช้ได้ในแอป Phone เท่านั้น
นอกจากฟีเจอร์ใหม่ๆ iOS 17.2 ยังได้รับการแก้ไขข้อบกพร่องที่ทำให้ iPhone ไม่สามารถชาร์จกับแท่นชาร์จไร้สายในรถยนต์บางรุ่น
ที่มา – 9to5Mac