บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย สร้างสีสันช่วงโค้งสุดท้ายของปี ส่งตรง 2 ยนตรกรรมในกลุ่มพรีเมียมอีวีมาจัดแสดงครั้งแรกในไทยและอาเซียนนำโดย MG CYBERSTER สปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง และ IM LS6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Motor Expo 2023 พร้อมทัพยนตรกรรมคุณภาพครบทุกรุ่นทุกรูปแบบด้วยหลากข้อเสนอสุดพิเศษ เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเป็นเจ้าของรถยนต์ เอ็มจี ได้ง่ายขึ้น ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A14 อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566
งาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40 หรือ Thailand International Motor Expo 2023 ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญช่วงปลายปีของ เอ็มจี โดยในปีนี้ เอ็มจี ได้นำนวัตกรรมยานยนต์ที่สะท้อนความก้าวล้ำของเทคโนโลยีและงานดีไซน์แห่งโลกอนาคตมาจัดแสดงเป็นยนตรกรรมไฮไลท์ กับครั้งแรกในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียนของ MG CYBERSTER รถสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกซึ่งสร้างสรรค์ให้มีความลงตัวของงานดีไซน์และสมรรถนะอันทรงพลัง รังสรรค์เป็นโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้าแบบเปิดประทุน 2 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยประตูปีกนก (Scissor Doors) แบบปุ่มสัมผัสเปิด-ปิด ภายในห้องโดยสารให้ลุคสปอร์ตด้วยการใช้สีแดง Wine-red วัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม พร้อมระบบการเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายมอบความความรู้สึกแห่งการขับขี่รถสปอร์ตสไตล์ Convertible โดยรุ่นที่ปรากฏตัวภายในงานเป็นรุ่นพวงมาลัยซ้าย มอเตอร์คู่ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 725 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน3.2 วินาที แบตเตอรี่ความจุ 77 kWh ช่วงล่างด้านหน้าอิสระปีกนกคู่และหลังอิสระมัลติลิงค์ ทั้งนี้ เอ็มจี ได้เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถจองสิทธิ์เป็นเจ้าของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้อีกครั้ง ภายใต้แคมเปญ MG CYBERSTER Prestige Reservation โดยสามารถทำการจองผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น* ที่ bit.ly/MGPrestigeReservation (ไม่รับจองที่ศูนย์บริการทุกสาขา) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 ด้วยเงื่อนไข จอง 10,000 บาท สามารถแลกรับส่วนลดได้ 50,000 บาท
และอีกหนึ่งรุ่นที่สร้างสีสันให้กับบูธของ เอ็มจี ในครั้งนี้ คือ IM LS6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า อีกแบรนด์ภายใต้การร่วมทุนระหว่าง SAIC Motor กับ Alibaba และ Shanghai Zhangjiang Hi-Tech โดดเด่นด้วยงานออกแบบภายนอกตัวรถภายใต้คอนเซ็ปต์ “Gentle Sculpture” ที่พลิ้วไหว และงานออกแบบภายในที่ล้ำสมัย ผนวกกับฟีเจอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Ai Cabin ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่จาก SAIC Motor ตอกย้ำให้เห็นถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ของบริษัทแม่ของ เอ็มจี โดย IM LS6 นี้ มีขนาดมิติตัวถังที่ 4.9 เมตร ฐานล้อกว้าง 2.950 เมตร สมรรถนะของรถคันนี้มาพร้อมกับ มอเตอร์คู่ 579 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุดที่ 800 นิวตันเมตร วิ่งในระยะทาง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.48 วินาที
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “งาน Motor Expo 2023 ครั้งนี้ เอ็มจี มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Evolution is NOW” สะท้อนความแข็งแกร่งในฐานะผู้บุกเบิกและผู้นำที่สร้างแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของสังคมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมถึงความตั้งใจในการยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ครอบคลุมในทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกสไตล์ของการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ในปีนี้ เอ็มจี ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเดินหน้าแผนงานอีวีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (MG EV ECOSYSTEM) ให้ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งการสร้างและเปิดโรงงานแบตเตอรี่อีวี HASCO-CP BATTERY SHOP ที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ Cell-To-Pack ได้มากกว่า 50,000 แพ็คต่อปี และเป็นแบรนด์แรกๆ ที่เดินสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าด้วยกำลังการผลิตสูงสุดที่ 100,000 คันต่อปี กับความตั้งใจเพื่อเป็น “ฮับอีวี” สำหรับผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแก่ผู้บริโภคภายในประเทศรวมทั้งการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ประเดิมด้วยการผลิตและจัดจำหน่ายโมเดลแรกด้วย NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งเป็นรถแฮทช์แบคพลังงานไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ล่าสุดได้รับการการันตีคุณภาพ ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปี 2566 (THAILAND EV OF THE YEAR 2023) โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ซึ่งได้พิจารณาและตัดสินจากคุณสมบัติต่างๆ ของรถยนต์ อาทิ รูปลักษณ์การออกแบบทั้งภายนอกและภายใน สมรรถนะการขับขี่ รวมไปจนถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในตลาด เอ็มจี ยังสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในเรื่องบริการหลังการขายด้วยการขยายพื้นที่คลังอะไหล่เป็น 25,000 ตารางเมตร เพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บอะไหล่รถยนต์เอ็มจีให้เพียงพอและลดระยะเวลารอคอยอะไหล่ให้สั้นลง ด้วยระบบ TRACK & TRACE ช่วยให้ผู้จำหน่ายสามารถติดตามอะไหล่ วางแผนการซ่อมและส่งมอบรถที่พร้อมใช้งานให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ เอ็มจี ยังได้จัดเตรียมข้อเสนอสุดพิเศษให้ผู้สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์คุณภาพแบรนด์ เอ็มจี ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยสามารถเลือกดาวน์เริ่มต้น 8% หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.88% พร้อมฟรี! ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. คุ้มครองนาน 1 ปี ในทุกรุ่นทุกรูปแบบการขับเคลื่อน ทั้งยังมีข้อเสนอสุดคุ้มเพิ่มเติม สำหรับลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2566 และรับรถยนต์กับผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีอย่างเป็นทางการทุกแห่งทั่วประเทศภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ไม่ว่าจะเป็น
กลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
• รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ในทุกรุ่น และพิเศษเฉพาะรุ่น NEW MG MAXUS9 รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
• ฟรี MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้งทุกรุ่น
• NEW MG4 ELECTRIC ราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 769,000 บาท และ NEW MG ZS EV เริ่มต้นที่ 859,000 บาท
• พิเศษสำหรับ NEW MG EP Plus และ NEW MG ES ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี
• สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถไฟฟ้า ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม สามารถชาร์จไฟที่ MG SUPER CHARGE ทั้ง 146 แห่งทั่วประเทศไทย โดยเอ็มจีจ่ายคืนให้เท่ากับที่ยอดเติม 100%
กลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก และรถยนต์เครื่องสันดาปภายใน
• ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
• ราคาพิเศษสำหรับ NEW MG ZS เริ่มต้นที่ 629,000 บาท NEW MG VS HEV เริ่มต้นที่ 739,000 บาท และ NEW MG HS รุ่น D สี SCARLET RED ราคาพิเศษ 899,000 บาท
• พิเศษ กับ Trade in Campaign เปลี่ยนรถยนต์ยี่ห้อใดก็ได้เป็น NEW MG5 คันใหม่ รับส่วนลดเพิ่ม20,000 บาท* ในทุกรุ่นย่อย ยกเว้น MG5 10th Anniversary Special Edition
*หมายเหตุ: เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
พบกับยนตรกรรมคุณภาพครบทุกรุ่นทุกรูปแบบของ เอ็มจี พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษในงาน Motor Expo 2023 ณ บูธ เอ็มจี หมายเลข A14 อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566 รวมทั้งที่โชว์รูมและศูนย์บริการคุณภาพของเอ็มจีกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศ หรือคลิกดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ bit.ly/47GZ5L6