เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วกับ OPPO Find N3 Flip สมาร์ตโฟนจอพับสุดหรูที่มาพร้อมสโลแกนพับกับกล้องที่ดีกว่า โดยเป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกที่มีกล้องหลัก 3 ตัว และกล้อง Telephoto Portrait Camera ทำให้ OPPO Find N3 Flip กลายเป็นสมาร์ตโฟนจอพับที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันนี้ อีกทั้งยังได้รับการอัปเกรดบานพับให้มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจ บนดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม
สเปก OPPO Find N3 Flip
- จอแสดงผลด้านนอก AMOLED (720 x 382 พิกเซล) ขนาด 3.26 นิ้ว
- จอแสดงผลหลัก AMOLED (2520 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.8 นิ้ว
- กล้องหลัง 50MP Main + 48MP Ultra-wide + 32MP Telephoto Camera
- กล้องหน้า 32MP Selfie Camera (Sony IMX709 RGBW)
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200
- ความจำ RAM แบบ LPDDR5X + ROM แบบ UFS 4.0
- ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- สแกนนิ้วด้านข้าง (Side-Mounted Fingerprint Scanner)
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, NFC, USB Type-C
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.2 บนพื้นฐาน Android 13
- แบตเตอรี่ 4300mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 44W SUPERVOOC
- ขนาดตัวเครื่องเมื่อกางออก 166.4 x 75.8 x 7.79 มิลลิเมตร
- ขนาดตัวเครื่องเมื่อถูกพับ 85.5 x 75.8 x 16.45 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 198 กรัม
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Cream Gold, Misty Pink และ Sleek Black
แกะกล่อง OPPO Find N3 Flip
OPPO Find N3 Flip ถูกส่งมาในกล่องสีครีมที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา ผ่านลายเส้นที่ตีเป็นกรอบสี่เหลี่ยมสีทองยาวไปถึงด้านข้างมีตัว H อักษรของ Hasselblad รวมถึงชื่อรุ่น Find N3 Flip ที่วางไว้เหนือกรอบเลข 3 ภายในกรอบ และโลโก้ OPPO กับ Hasselblad อยู่ส่วนล่าง และเมื่อเปิดฝากล่องขึ้นมาจะมีกลไกช่วยดันกล่องข้างในให้ยกขึ้นตาม ถือเป็น Gimmick เล็กๆ แต่แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจของ OPPO
OPPO Find N3 Flip ถูกวางไว้บนถาดรอง โดยมีซองห่อหุ้มไว้อย่างดี พร้อมมีลิ้นช่วยให้ดึงตัวเครื่องออกมาจากถาดได้ง่ายๆ
หลังจากยกสมาร์ตโฟนและถาดรองออกไป จะพบกับกล่องแบนๆ ภายในแถมเคสมาให้ 1 อัน พร้อมเอกสารต่างๆ ทั้งคู่มือ Quick Guide และ คู่มือความปลอดภัย รวมถึงเข็มช่วยถอดช่องใส่ซิมการ์ด
ใต้เคสเป็นช่องเก็บสายชาร์จ USB-A to USB-C ข้างกันมีหัวชาร์จ 67W Power Adapter (แต่ OPPO Find N3 Flip รองรับชาร์จเร็วสูงสุด 44W)
ดีไซน์พรีเมียม บานพับใหม่ ทนทานมากขึ้น
OPPO Find N3 Flip ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นก่อน ซึ่งเป็นดีไซน์ฝาพับที่มีสไตล์คลาสสิค โดดเด่นที่จอแสดงผลด้านนอกขนาดใหญ่ ส่วนขอบโค้งมนให้สัมผัสที่ดีเมื่อจับถือใช้งาน ใช้วัสดุคุณภาพสูงมั่นใจได้ในเรื่องของความทนทาน ด้วยกระจกด้านนอก Corning Gorilla Glass Victus และกรอบโลหะ
OPPO Find N3 Flip ผลิตออกมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีทอง Cream Gold ให้ความรู้สึกพรีเมียมสง่างาม, สีชมพู Misty Pink ดูมีเสน่ห์ด้วยโทนสีที่อ่อนโยนของดอกไม้ และ สีดำ Sleek Black ที่เน้นความหรูหราสมกับเป็นสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์
เนื่องจากเป็นสมาร์ตโฟนจอพับได้ เรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือบานพับ OPPO Find N3 Flip ได้รับการปรับปรุงบานพับให้ทนทานมากกว่ารุ่นก่อน เรียกว่าบานพับ Flexion Hinge ซึ่งพัฒนามาถึงเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว ทำให้พับได้แนบสนิทอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีช่องว่าง และยังมีความทนทานมากกว่าเดิม
โดยแกนบานพับทำมาจากวัสดุสแตนเลสเกรดอากาศยาน ผ่านการทดสอบความทนทานต่อการพับมากถึง 600,000 ครั้ง การันตีโดย TÜV Rheinland เทียบได้กับการพับและกางอุปกรณ์ประมาณ 100 ครั้งต่อวัน เป็นเวลากว่า 16 ปี อีกทั้งยังป้องกันน้ำได้ในระดับ IPX4
ดีไซน์ด้านนอกของบานพับก็มีความโดดเด่นมากขึ้น ด้วยดีไซน์ Micro-Carved Flowing Hinge ให้เอฟเฟกต์แสงและเงาที่ปรับเปลี่ยนได้ โดยมีพื้นผิวแวววาวคล้ายอัญมณี
กล้องหลักเป็นอีกจุดที่ดึงดูดสายตา โดยมีดีไซน์วงแหวน Cosmos Ring ล้อมรอบด้วย Starlight Track ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการควบคุมรูรับแสงของเลนส์กล้องระดับมือโปร ที่สำคัญก็คือ OPPO Find N3 Flip เป็นสมาร์ตโฟนจอพับได้รุ่นแรกที่ได้รับกล้องหลัก 3 ตัวระดับเรือธง และมาพร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพจาก Hasselblad แบรนด์กล้องระดับโลกสัญชาติสวีเดน
จอแสดงผลด้านนอก ให้ความคมชัดด้วยแผง AMOLED ความละเอียด 720 x 382 พิกเซล ขนาด 3.26 นิ้ว ได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
ขอบด้านข้างมีปุ่มใหม่เพิ่มเข้ามา เรียกกว่า Alert Slider เป็นปุ่มสไลด์ที่ใช้เปลี่ยนโปรไฟล์เสียงได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างโหมดเงียบ สั่น และเปิดเสียง
อีกข้างมีปุ่มปรับระดับเสียง ติดตั้งอยู่เหนือปุ่มเพาเวอร์ที่ขอบด้านข้าง โดยปุ่มเพาเวอร์ยังซ่อนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วย
ด้านบนมีรูไมโครโฟนตัวที่ 2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้การสนทนาหรือบันทึกเสียงชัดเจนขึ้น และอินฟาเรท ด้านล่างจะพบช่องใส่ซิมการ์ด, ไมโครโฟนตัวหลัก, พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และ ลำโพงตัวหลัก
ด้านหลังจะมีเพียงโลโก้ OPPO
เมื่อกางออก จะเผยให้เห็นจอแสดงผลหลักขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว ซึ่งถูกออกแบบมาให้พับได้ครึ่งหนึ่ง และได้รับการปรับปรุงให้มองไม่เห็นรอยพับแม้ผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน
จอพับได้ จอนอกขนาดใหญ่ใช้งานได้มากขึ้น
จอแสดงผลด้านนอกถือเป็นจุดเด่นของ OPPO Find N2 Flip และได้รับการพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นใน OPPO Find N3 Flip ด้วย User Interface ใหม่ จากเดิมที่เป็นแบบ Widget ในรุ่นใหม่ถูกปรับเปลี่ยนมุมมองให้แสดงไอคอนของแอปพลิเคชันต่างๆ ที่มีให้ใช้งานมากกว่าเดิม เรียกว่า Mini App รองรับแอปยอดนิยมอย่าง YouTube Music, Gmail, Google Maps, Wallet, X (Twitter), WeChat, WhatsApp, Line, TikTok, Grab และอีกมากมาย จึงสามารถโต้ตอบแอปต่างๆ ได้ทันทีบนหน้าจอด้านนอก ไม่ต้องเสียงเวลากางอุปกรณ์
สัตว์เลี้ยง Interactive Pets บนหน้าจอด้านนอก ก็ได้รับการปรับปรุงจากกราฟิก 2D ในรุ่นก่อน ถูกอัปเกรดเป็นรูปแบบ 3D เพิ่มความน่ารักและสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยมีสัตว์เลี้ยงให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น สุนัข, แมว, นก, หนูแฮมสเตอร์, โคอาล่า, แพนด้า, เสื่อ และ กระต่าย
จอแสดงผลด้านนอกของ OPPO Find N3 Flip ยังมีสัดส่วนเป็นแนวตั้ง ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งระบบกล้องระดับเรือธง แตกต่างจากคู่แข่งที่ใช้จอแสดงผลแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส จึงไม่เหลือพื้นที่ให้ติดตั้งกล้องมากนัก
OPPO Find N3 Flip ใช้จอแสดงผลด้านนอกแบบ AMOLED ความละเอียด 720 x 382 พิกเซล ขนาด 3.26 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 250 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้สีสัน 16.7 ล้านสี รองรับขอบเขตสี 70% NTSC / 100% sRGB ความสว่างสูงสุด 900 นิต (ความสว่างทั่วไป 500 นิต) และได้รับการป้องกันด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus
สำหรับจอแสดงผลหลักเป็นแบบ LTPO AMOLED ความละเอียด 2520 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.8 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 403 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ความลึกสี 10-bit (1.07 พันล้านสี) รองรับขอบเขตสี 97% NTSC / 100% DCI-P3 ความสว่างสูงสุด 1600 นิต (ความสว่างทั่วไป 500 นิต) รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ 1Hz – 120Hz และได้รับการป้องกันด้วยกระจก SCHOTT UTG
จอแสดงผลหลักของ OPPO Find N3 Flip ได้รับการพัฒนาให้ช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20% พร้อมเคลือนฟิล์มป้องกันแสงสะท้อน สามารถลดแสงสะท้อนได้เหลือเพียง 1% ซึ่งน้อยกว่าสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นอื่นๆ ถึง 5 เท่า อีกทั้งยังเป็นหน้าจอที่ช่วยปกป้องดวงตาด้วยเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูง 1440Hz
กล้องหลัก 3 ตัว พร้อมกล้อง Telephoto ซูม 2 เท่า
ไม่เพียงแต่มีดีไซน์ที่โดดเด่น OPPO Find N3 Flip ยังเป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกที่มีกล้อง Telephoto ช่วยจับภาพวัตถุด้วยทางยาวโฟกัสแนวตั้งที่สมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ด้านการถ่ายภาพได้ดีไม่แพ้สมาร์ตโฟนเรือธงรูปทรงปกติเลย โดยมาพร้อมกล้องหลัก 3 ตัว ที่ใชเซ็นเซอร์กล้องขนาดใหญ่คุณภาพสูง และยังได้รับเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากแบรนด์กล้องระดับโลก Hasselblad ช่วยยกระดับการถ่ายภาพและวิดีโอ ให้สีสันสวยสมจริงตามสีธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ
- กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56” รูรับแสง f/1.8 เลนส์ 24 มม. ชุดเลนส์ 6P มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra Wide 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX581 ขนาด 1/2” รูรับแสง f/2.2 เลนส์ 14 มม. ชุดเลนส์ 6P มุมมองภาพ 115 องศา
- กล้อง Telephoto 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX709 ขนาด 1/2.74” รูรับแสง f/2.0 เลนส์ 47 มม. ชุดเลนส์ 6P
กล้องหลักของ OPPO Find N3 Flip ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56” ซึ่งใหญ่กว่ากล้องในสมาร์ตโฟนจอพับของคู่แข่งถึง 30% โดยมีขนาดรูรับแสง f/1.8 จึงรองรับการถ่ายภาพได้ดีในทุกสภาพแสง และยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS (Optical Image Stabilization) ทำให้ภาพถ่ายคมชัดโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย
กล้อง Ultra Wide ของ OPPO Find N3 Flip ช่วยถ่ายภาพในมุมมองกว้าง 115 องศา โดยใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX581 ขนาด 1/2” ซึ่งใหญ่กว่ากล้องในสมาร์ตโฟนจอพับของคู่แข่งถึง 100% สามารถเก็บรายละเอียดของเงาได้มากขึ้น ให้ช่วงไดนามิกที่กว้างขึ้น จุดรบกวนน้อยลง และรองรับระบบออโต้โฟกัส สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ถึง 4 เซนติเมตร ในโหมด Macro
OPPO Find N3 Flip เป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกที่มีกล้อง Telephoto สามารถซูมแบบออปติคอลได้ 2 เท่า หรือซูมแบบไฮบริดโดยไม่สูญเสียรายละเอียดได้ถึง 5 เท่า ซูมไกลสุดได้ 20 เท่า และเมื่อใช้ร่วมกับโหมด Portrait จะช่วยให้ภาพถ่ายบุคคลในเวลากลางคืนมีรายละเอียดที่สมดุล ลดจุดรบกวนได้ดี หรือถ่ายภาพในเวลากลางวันก็ให้ภาพถ่ายออกมาสวยงามเป็นธรรมชาติ
โหมดถ่ายภาพกลางคืนก็ทำได้คมชัดในระยะ 0.6x จนถึง 5x และสูงสุด 20x เช่นเดียวกับโหมด Photo ซึ่งโหมดนี้ก็มีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้อีก 4 แบบ รวมถึงโหมด Long Exposure ที่ใช้การพับตัวเครื่องแทนขาตั้งกล้องในการถ่ายภาพแบบกล้องโปรอย่าง ไฟรถที่วิ่งบนถนน น้ำตกที่กำลังไหล หรือการวาดภาพด้วยแสงไฟก็ทำได้ง่ายๆ
เทคโนโลยีกล้องจาก Hasselblad
จากการทำงานร่วมกับ Hasselblad มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ OPPO Find N3 Flip ได้รับเทคโนโลยีกล้องจากแบรนด์กล้องสัญชาติสวีเดน โดยเฉพาะ Hasselblad Natural Colour Calibration ช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันสมจริงเป็นธรรมชาติ พร้อมด้วยเสียงชัตเตอร์และลายน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad
โหมด XPan ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องฟิล์มของ Hasselblad สามารถถ่ายภาพในอัตราส่วน 65:24 ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพจากแบรนด์กล้องระดับโลก มีทั้งแบบภาพสีและขาวดำสุดคลาสสิค
นอกจากนี้ ยังได้รับ Master Style ซึ่งเป็นฟิลเตอร์ระดับมืออาชีพที่สร้างสรรค์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพ มีให้เลือก 3 แบบ Radiance ,Serenity และ Emerald สามารถนำไปใช้กับภาพถ่ายของผู้ใช้งานได้ทันที เพื่อเพิ่มสไตล์ที่โดดเด่น
ถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัก
เนื่องจาก OPPO Find N3 Flip มีกล้องหลักอยู่ติดกับจอแสดงผลด้านนอก ผู้ใช้งานจึงสามารถถ่ายเซลฟี่ได้อยากสะดวกรวดเร็ว โดยไม่ต้องกางอุปกรณ์ เพียงเปิดแอป Camera จาก Mini App จะพบกับโหมด Photo ที่สามารถซูมได้ 3 ระยะ 0.6x, 1x, 2x หรือโหมด Portrait รองรับการซูม 1x, 2x และโหมด Video รองรับการซูม 0.6x, 1x, 2x ทั้ง 3 โหมดมาพร้อมฟีเจอร์ Retouch ช่วยเพิ่มความงามบนใบหน้า แต่ก็สามารถปิดการใช้งานได้
ทั้งนี้ โหมด Video ของกล้องหลัก สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยมีจุดเด่นที่ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้งแบบ OIS และ EIS มีโหมด Slow-motion ความละเอียด Full HD 1080P ที่อัตรา 240 เฟรมต่อวินาที หรือ HD 720P ที่ 480 เฟรมต่อวินาที และโหมด Time-lapse ความละเอียด Full HD 1080P ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที โดยเราสามารถพับหน้าจอเข้ามาแล้วจับถือในสไตล์กล้องวิดีโอได้อีกด้วย
โหมดถ่ายภาพแบบ FlexForm
เนื่องจากดีไซน์มาเป็นสมาร์ตโฟนจอพับได้ ทำให้ OPPO Find N3 Flip รองรับการถ่ายภาพขณะถูกพับ ซึ่งเรียกว่าโหมด FlexForm เพียงเข้าแอปกล้องแล้วพับประมาณ 45 – 110 องศา ตามมุมมองที่ต้องการ โหมด FlexForm ก็จะทำงานทันที โดยแบ่งหน้าจอส่วนบนแสดงตัวอย่างภาพ และส่วนล่างแสดงปุ่มควบคุมกล้อง ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพในมุมสูงหรือต่ำได้โดยไม่ต้องอาศัยขาตั้งกล้อง
โหมด FlexForm ช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลักได้ โดยวาง OPPO Find N3 Flip ขณะอยู่ในโหมด FlexForm หันกล้องหลักมาด้านผู้ใช้งาน แล้วดูตัวอย่างภาพแบบเรียลไทม์ผ่านจอแสดงผลด้านนอก เมื่อต้องการถ่ายภาพให้ใช้คำสั่งท่าทาง (ยื่นฝ่ามือต่อหน้ากล้อง) จากนั้นก็จะได้ภาพถ่าย Portrait ที่สวยงาม
กล้องหน้า 32MP
กล้องหน้าของ OPPO Find N3 Flip ติดตั้งไว้ในหลุมบนหน้าจอหลัก มีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX709 RGBW ขนาด 1/2.74″ เลนส์ 21 มม. รูรับแสง f/2.4 ชุดเลนส์ 5P ให้มุมมองภาพ 90 องศา รองรับระบบออโต้โฟกัส สามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที ซูมได้ 3 ระยะ 0.8x, 1x, 2x
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
ชิปประมวลผล Dimensity 9200
OPPO Find N3 Flip ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200 ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิต 4nm+ รุ่นที่ 2 ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ 64-bit Octa Core ที่มีโปรเซสเซอร์ Arm Cortex-X3 ความเร็วสูงสุด 3.05GHz + Arm Cortex-A715 ความเร็วสูงสุด 2.85GHz (3-core) + Arm Cortex-A510 ความเร็วสูงสุด 1.8GHz (4-core)
MediaTek Dimensity 9200 ถือเป็นชิปสมาร์ตโฟนตัวแรกที่ผสานรวม Arm Cortex X3 แบบ Ultra-core ซึ่งมีอัตราความเร็วมากกว่า 3GHz และเป็นชิปรุ่นแรกที่มี Arm Immortalis GPU พร้อมกับเอนจิน Ray Tracing แบบฮาร์ดแวร์ ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเกมมิ่ง HyperEngine 6.0 และเทคโนโลยีการแสดงผล MiraVision 890 ของ MediaTek ช่วยให้การแสดงกราฟิกเกมมีความสมจริงและลื่นไหล มอบประสบการณ์การเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น
ด้านความจำมีตัวเลือกเดียว RAM 12GB จับคู่กับ ROM 256GB โดยความจำ RAM และ ROM ใช้เทคโนโลยีใหม่ LPDDR5X และ UFS 4.0 ตามลำดับ ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลมีความรวดเร็ว นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับฟีเจอร์ RAM expansion สูงสุด 12GB อีกด้วย ผลทดสอบประสิทธิภาพเครื่องด้วย Antutu Benchmark ทำคะแนนออกมาได้เฉียดล้านเลยทีเดียว
รองรับ 5G + Wi-Fi 7
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200 ช่วยให้ OPPO Find N3 Flip สนับสนุนการเชื่อมต่อ 5G ได้ 2 ซิมพร้อมกัน (Dual SIM Dual 5G) รองรับ 5G ทั้งแบบ Sub-6GHz และ mmWave สามารถสลับระหว่างการเชื่อมต่อ 5G ทั้ง 2 แบบ ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้โมเด็ม 5G R16 ที่รองรับ 4CC-CA Sub-6GHz สามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุด 7Gbps และมีเทคโนโลยี MediaTek 5G UltraSave 3.0 ให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้นสูงสุด 10%
สำหรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็รองรับมาตรฐานใหม่ล่าสุด Wi-Fi 7 ที่ให้อัตราการส่งข้อมูลสูงสุด 6.5Gbps เร็วกว่ามาตรฐานก่อน 2.7 เท่า สนับสนุนการเชื่อมต่อแบบ Dual-band พร้อมกันผ่าน 2×2 2.4GHz + 2×2 5/6GHz ซึ่งจำเป็นต้องใช้เร้าเตอร์ที่รองรับ Wi-Fi 7 อย่างไรก็ตาม OPPO Find N3 Flip สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ในมาตรฐานปัจจุบันได้เช่นกัน
ชาร์จเร็ว 44W SUPERVOOC
OPPO Find N3 Flip รองรับการใช้งานที่ยาวนานด้วยความจุแบตเตอรี่ 4300mAh ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ตโฟนจอพับหลายรุ่นในปัจจุบัน จึงมั่นใจได้ว่าจะให้อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า อีกยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 44W SUPERVOOC สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 ถึงระดับ 58% ในเวลาเพียง 30 นาที ถือว่าชาร์จเร็วที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนที่ใช่ดีไซน์แบบเดียวกัน และยังแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็วมาให้แล้วในกล่อง ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก
สรุปราคาและการจำหน่าย
OPPO Find N3 Flip ถูกสร้างมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ตโฟนระดับเรือธง โดยให้ความสำคัญกับดีไซน์เป็นพิเศษ ซึ่ง OPPO Find N3 Flip ไม่เพียงแต่ให้ความสวยงามหรูหรา แต่ยังมีจุดเด่นที่สามารถพับได้ จึงช่วยให้การพกพามีความสะดวกยิ่งขึ้น และยังให้ความโดดเด่นเมื่อหยิบออกมาใช้งาน
นอกเหนือจากดีไซน์สุดพรีเมียม OPPO Find N3 Flip ยังมีจุดเด่นที่กล้องคุณภาพสูงที่เหนือกว่าคู่แข่งด้วยกล้องหลัก 3 ตัว รวมถึงกล้อง Telephoto ซูม 2 เท่า สำหรับถ่ายภาพพอร์ตเทรต และยังได้รับเทคโนโลยีการถ่ายภาพจากแบรนด์กล้องระดับโลก Hasselblad สมกับสโลแกน “พับกับกล้องที่ดีกว่า”
OPPO Find N3 Flip วางจำหน่ายในราคา 34,990 บาทเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2566 พิเศษสุด!! สำหรับผู้ที่สั่งจองในช่วงเวลาดังกล่าว รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าทั้งสิ้น 18,198 บาท ประกอบไปด้วย
- OPPO Find N3 Flip Portable PU Case มูลค่า 1,199 บาท
- OPPO Enco Air3 มูลค่า 1,999 บาท
- E-VIP Card (1 year) มูลค่า 15,000 บาท
พิเศษ! เมื่อสั่งซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายรับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท พร้อมรับบริการสุดพิเศษ OPPO Premium Service ทั้งบริการรับประกันระหว่างประเทศ ส่งซ่อมเร่งด่วนหรือบริการติดฟิล์มต่างๆ พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.facebook.com/oppothai/
ติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ https://bit.ly/46xNGx0