จากการชำแหละส่วนประกอบ iPhone 15 โดย Fomalhaut Techno Solutions บริษัทวิจัยในโตเกียว พบว่า iPhone 15 Pro Max มีต้นทุนสูงขึ้น 12% เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Pro Max
iPhone 15 Pro Max ซึ่งมีราคาขายปลีกเริ่มต้น 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 43,790 บาท มีต้นทุนเฉพาะฮาร์ดแวร์ 558 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 20,390 บาท ขณะที่ iPhone รุ่น Pro Max ที่เปิดตัวในปี 2018 – 2021 มีต้นทุน 400 – 450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 14,590 – 16,490 บาท
iPhone ในปีที่ 2022 มีต้นทุนส่วนประกอบเพิ่มขึ้นประมาณ 20% จากปี 2021 และยังคงดำเนินต่อไปในรุ่นล่าสุด Minatake Kashio ซีอีโอของ Fomalhaut Techno Solutions กล่าวว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพไม่ว่าด้วยวิธีการใด ย่อมส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
กล้อง Telephoto ใหม่ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของ iPhone 15 Pro Max ช่วยให้สามารถซูมออปติคัลได้ 5 เท่า โดยมีต้นทุน 30 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,090 บาท เพิ่มขึ้น 3.8 เท่า เมื่อเทียบกับกล้อง Telephoto ของ iPhone 14 Pro Max
กรอบไทเทเนียมของ iPhone 15 Pro Max มีต้นทุน 50 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1,890 บาท สูงขึ้น 43% เมื่อเทียบกับกรอบสแตนเลสใน iPhone 14 Pro Max
ชิป A17 Pro ที่ใช้เป็นขุมพลังใน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max มีต้นทุน 130 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,790 บาท เมื่อเทียบกับชิป A16 Bionic
ที่น่าสนใจก็คือ iPhone 15 Pro Max รุ่นเริ่มต้นที่มีความจุ 256GB กลับมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียง 5% เมื่อเทียบกับความจุ 128GB ของ iPhone 14 Pro Max เนื่องจากชิปหน่วยความจำแฟลช NAND มีราคาถูกลง จากความต้องการที่ลดลง
สำหรับ iPhone 15 Pro มีต้นทุนส่วนประกอบ 523 ดอลลาร์ หรือราว 19,090 บาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Pro, ต้นทุน iPhone 15 Plus อยู่ที่ 442 ดอลลาร์ หรือราว 16,190 บาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Plus และ iPhone 15 มีต้นทุน 423 ดอลลาร์ หรือราว 15,490 บาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับ iPhone 14
ที่มา – Nikkei