HUAWEI ยกระดับสมาร์ทวอทช์ขึ้นไปอีกขั้นด้วย HUAWEI WATCH Ultimate ที่มีโหมดดำน้ำลึกถึง 100 เมตร พร้อมด้วยโหมด Expedition ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่รักกิจกรรมกลางแจ้ง ขณะที่ฟีเจอร์ด้านติดตามสุขภาพยังคงครบครัน แม่นยำเหมือนเดิม และสามารถติดตามการออกกำลังกายมากกว่า 100 โหมด ซึ่งทั้งหมดถูกบรรจุไว้ภายใต้ดีไซน์ที่พรีเมียมและแข็งแกร่ง
สเปก HUAWEI WATCH Ultimate
- จอแสดงผล LTPO AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว
- เซ็นเซอร์ Optical heart rate, Gyroscope, Temperature, Barometer, Depth, Magnetometer
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, NFC
- ลำโพงและไมโครโฟนในตัว
- ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0 ขึ้นไป หรือ iOS 9.0 ขึ้นไป
- มาตรฐานป้องกันน้ำ 10 ATM
- ขนาดตัวเรือน 48.5 x 48.5 x 13 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเรือน ประมาณ 76 กรัม (ไม่รวมสาย)
- ขนาดสาย 140 – 210 มิลลิเมตร
- มี 2 สีให้เลือก ได้แก่ Voyage Blue (Titanium Strap) และ Expedition Black (HNBR Strap)
แกะกล่อง HUAWEI WATCH Ultimate
HUAWEI WATCH Ultimate ผลิตออกมา 2 สี ได้แก่ Voyage Blue และ Expedition Black แต่ละสีมาพร้อมสายที่แตกต่างกัน โดยทีมงาน @Flashfly ได้รับสี Blue มารีวิว ถูกจัดส่งมาในกล่องสีดำ บนฝากล่องระบุชื่อ HUAWEI WATCH Ultimat ไว้ชัดเจน
เปิดฝากล่องขึ้นมา จะเห็นว่า HUAWEI WATCH Ultimate ติดตั้งสายมาให้แล้ว ซึ่งตัวเลือก Voyage Blue จะได้รับสายโลหะ (Titanium Strap) ภายในกล่อง ยังแถมสาย HNBR สีน้ำเงิน มาให้ด้วย รวมถึงแท่นชาร์จไร้สาย นอกจากนี้ เป็นเอกสารต่างๆ ได้แก่ คู่มือ Quick Start Guide, ข้อมูลความปลอดภัย และ ใบรับประกัน
ดีไซน์พรีเมียม
ดีไซน์โดยรวมของ HUAWEI WATCH Ultimate ดูคล้ายกับนาฬิกาข้อมือระดับพรีเมียม โดยเฉพาะสี Voyage Blue ที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว ส่วนใหญ่เป็นสีเงินแบบโลหะ มีเพียงขอบหน้าปัดวงแหวนที่ใช้สีน้ำเงิน ทั้งสี Voyage Blue และ Expedition Black ใช้วัสดุชนิดเดียวกัน ป้องกันรอยหน้าจอด้วยกระจกแซฟไฟร์ ขอบหน้าปัดและตัวเรือนด้านหลังเป็นเซรามิกนาโนคริสตัลไลน์
ตัวเรือนด้านหน้าใช้วัสดุโลหะเหลวที่ทำมาจากเซอร์โคเนียม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในสมาร์ทวอทช์ที่ใช้วัสดุชนิดนี้ โดยมีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการสึกหรอ และการกัดกร่อนมากขึ้น รองรับการใช้งานในสภาพภูมิประเทศที่ท้าทาย ตั้งแต่เนินทรายไปจนยอดเขาสูง เมื่อเทียบกับวัสดุสแตนเลส 316L จะพบว่าตัวเรือนของ HUAWEI WATCH Ultimate แข็งแกร่งกว่า 4.5 เท่า แต่เบากว่า 17.4%
สำหรับตัวเลือก Expedition Black มีสีตัวเรือนที่เข้มกว่า มาพร้อมขอบหน้าปัดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเข็มทิศ 360 องศา จับคู่กับสาย HNBR สีดำ ซึ่งเป็นวัสดุยางสังเคราะห์ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่เน้นลุย ไม่เน้นภาพลักษณ์ที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม ตัวเลือก Voyage Blue ก็แถมสาย HNBR สีน้ำเงิน มาให้ในกล่องเช่นกัน เหมาะสำหรับเปลี่ยนเพื่อสวมใส่ลงไปดำน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถสลับสายได้ง่ายๆ ด้วยมือเปล่า ไม่ต้องใช้เครื่องมือใดๆ ช่วยเปลี่ยนสาย
ที่สำคัญก็คือ ตัวเรือน HUAWEI WATCH Ultimate ได้รับการออกแบบโครงสร้างภายในมาเป็นพิเศษ พร้อมตัวกรองกันน้ำระดับไมครอน เพื่อให้สามารถป้องกันน้ำที่ระดับ 10 ATM จึงสามารถสวมใส่ระหว่างดำน้ำได้อย่างไร้กังวล อีกทั้งยังมีโหมดดำน้ำมาให้ด้วย ซึ่งทำให้ HUAWEI WATCH Ultimate เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรก ที่มีโหมดดำน้ำลึก 100 เมตร
จอแสดงผล LTPO
HUAWEI WATCH Ultimate มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ที่ใช้เทคโนโลยี LTPO (Low-Temperature Polycrystalline Oxide) ซึ่งช่วยในเรื่องประหยัดพลังงาน โดยมีความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ขนาด 1.5 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 311 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) และรองรับการแสดงผลแบบ Always-On-Display (AOD)
HUAWEI WATCH Ultimate สามารถใช้รูปภาพใน Gallery มาตั้งค่าเป็นหน้าปัดนาฬิกาได้ หรือใช้หน้าปัดที่มีให้อยู่แล้ว รวมถึงดาวน์โหลดเพิ่มเติมผ่านแอป HUAWEI Health บนสมาร์ทโฟนที่จับคู่กับสมาร์ทวอทช์ โดยมีหน้าปัดที่ออกแบบมาสำหรับ HUAWEI WATCH Ultimate โดยเฉพาะ เรียกว่า SENSE Explorer Series
โหมด Diving
จุดเด่นของ HUAWEI WATCH Ultimate คือความสามารถในการต้านทานน้ำที่ความลึก 100 เมตร จึงมาพร้อมโหมดดำน้ำ หรือ Diving สำหรับติดตามการดำน้ำได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ Recreational Dive, Freedive, Technical diving และ Scuba dive แต่ละแบบจะมีตัวเลือกให้กำหนดค่าแตกต่างกัน เพื่อช่วยให้ข้อมูลระหว่างดำน้ำ รวมถึงการแจ้งเตือนเกี่ยวกับอากาศที่เหลือในถังดำน้ำ (ต้องเลือกประเภทถังดำน้ำให้ถูกต้องก่อน) ผู้ใช้ยังสามารถเลือกชนิดน้ำที่จะดำลงไปได้ ระหว่างน้ำทะเล กับ น้ำจืด แต่ก็สามารถตั้งค่าได้เองตามความหนาแน่นของน้ำ
โหมด Diving สามารถติดตามการดำน้ำได้อย่างแม่นยำ ทั้งระดับความลึก อุณหภูมิของน้ำ พร้อมติดตามค่า SpO2 และอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าโหมด Diving ของ HUAWEI WATCH Ultimate มีฟีเจอร์ที่ค่อนข้างยืดหยุ่น และครบครันสำหรับนักดำน้ำไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ
โหมด Expedition
โหมด Expedition ถือเป็นอีกไฮไลท์ของ HUAWEI WATCH Ultimate ซึ่งออกแบบมาสำหรับนักสำรวจและนักผจญภัย ไม่ว่าจะอยู่ในป่าเขา ทะเลทราย ก็ไม่ต้องกลัวหลง เพราะมีระบบนำทางและติดตามเส้นทางที่แม่นยำด้วย Dual-Band Five-System GNSS ช่วยให้ผู้สวมใส่ทำเครื่องหมายได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อการนำทางกลับในเส้นทางเดิม
โหมด Expedition ยังติดตามข้อมูลสุขภาพระหว่างผจญภัย ทั้งค่า SpO2 และอัตราการเต้นของหัวใจ อีกทั้งยังรองรับการใช้งานในเวลากลางคืนด้วย Dim Mode ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยให้มองหน้าปัดได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย
โหมด Workout
HUAWEI WATCH Ultimate สามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 100 โหมด ครอบคลุมทุกชนิดกีฬาที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก พร้อมด้วยโหมดติดตามการออกกำลังกายระดับมืออาชีพมากกว่า 20 โหมด ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำทั้งปริมาณแคลอรี่, ระยะทาง, เส้นทาง และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีโหมดกลางแจ้ง สำหรับออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งเทรล เดินป่า ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกา เพื่อรับข้อมูลที่สำคัญตามกิจกรรมนั้นๆ
ติดตามสุขภาพ
HUAWEI WATCH Ultimate มาพร้อมเทคโนโลยี HUAWEI TruSeen 5.0+ ช่วยติดตามค่าออกซิเจนในเลือด SpO2 และ อัตราการเต้นของหัวใจ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะใช้งานในโหมด Diving, Expedition รวมถึงระหว่างออกกำลังกาย และ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร และเมื่อพบความผิดปกติ ช่น ระดับออกซิเจนต่ำกว่าปกติ หรือ อัตราการเต้นของหัวใจสูงเกินไป ก็จะแจ้งเตือนผู้สวมใส่ทันที นอกจากนี้ยังมี HUAWEI TruSleep 3.0 สำหรับติดตามสุขภาพการนอนหลับอย่างละเอียด และมีอัลกอริทึมสำหรับติดตามความเครียด
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
HUAWEI ไม่ได้เปิดเผยความจุแบตเตอรี่ของ HUAWEI WATCH Ultimate แต่ยืนยันว่าเมื่อชาร์จจนเต็ม 100% สามารถให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 14 วัน แต่ถ้าใช้งานอย่างหนัก จะอยู่ได้นาน 8 วัน ซึ่งเพียงพอสำหรับการออกไปสำรวจนอกเมืองได้ 3 – 5 วัน และยังรองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สายที่สะดวก ใช้เวลาชาร์จจนเต็มภายใน 60 นาที
สรุปราคาและการจำหน่าย
HUAWEI WATCH Ultimate เป็นสมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม ที่ไม่เพียงแต่มีภาพลักษณ์ที่หรูหรา แต่ยังสามารถติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ และยังเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกที่รองรับการดำน้ำลึกถึง 100 เมตร และมีโหมด Expedition สามารถกำหนดจุดอ้างอิงเมื่อเข้าไปในป่าลึก ทำให้ผู้สวมใส่ไม่ต้องกลัวหลงเมื่อออกไปสำรวจโลก จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทวอทช์ที่ดีที่สุดของ HUAWEI นอกจากจะใช้งานร่วมกับ Huawei P60 Pro ได้แล้วยังรองรับการใช้งานสมาร์ทโฟน Android ทั่วไปรวมถึง iPhone อีกด้วย
HUAWEI WATCH Ultimate วางจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่นราคาเริ่มต้น 24,990 บาท ดังนี้ HUAWEI WATCH ULTIMATE DESIGN รุ่นทองคำ 18k ราคา 99,990 บาท โดยจะได้รับประกันตัวเครื่องทั่วโลกฟรี 2 ปี ตรวจเช็คสภาพเครื่องฟรี 2 ปีและเปลี่ยนหน้าจอฟรี 1 ปี
ส่วนสีน้ำเงิน Voyage Blue สาย Titanium ราคา 29,990 บาทและ สีดำ Expedition Black สาย HNBR ราคา 24,990 บาท โดยจะได้รับประกันตัวเครื่องในประเทศไทยฟรี 2 ปีและตรวจเช็คสภาพเครื่องฟรี 2 ปี