Apple ยกระดับ iPhone 15 Plus ขึ้นไปอีกขั้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ด้วยดีไซน์ใหม่ไร้รอยบาก แทนที่ด้วย Dynamic Island พร้อมนำ USB‑C มาสู่ iPhone เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังมีกล้องหลักความละเอียดสูงเทียบเท่ารุ่น Pro นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งทีมงาน @Flashfly พร้อมแล้วที่จะรีวิวให้ชมกัน
สเปก iPhone 15 Plus
- จอแสดงผล Super Retina XDR (OLED) ขนาด 6.7 นิ้ว
- กล้องคู่หลัง 48MP Wide + 12MP Ultra Wide
- กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
- ชิป A16 Bionic (CPU แบบ 6‑core, GPU แบบ 5‑core, Neural Engine แบบ 16‑core)
- ความจุ 128GB, 256GB และ 512GB
- การเชื่อมต่อ 5G (sub‑6 GHz), Gigabit LTE, Wi‑Fi 6, Bluetooth 5.3, Ultra Wideband รุ่นที่ 2, NFC, USB-C
- เซ็นเซอร์ Face ID, Barometer, High dynamic range gyro, High-g accelerometer, Proximity sensor, Dual ambient light sensors
- การหาตำแหน่ง GPS, GLONASS, Galileo, QZSS และ BeiDou
- ป้องกันน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- ขนาดตัวเครื่อง 160.9 x 77.8 x 7.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 201 กรัม
ดีไซน์อะลูมิเนียมสวยงาม ทนทาน
iPhone 15 Plus ได้รับการออกแบบใหม่ ดูหรูหราไม่ต่างจากรุ่น Pro ให้ภาพลักษณ์พรีเมียมด้วยตัวเครื่องอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ พร้อมส่วนขอบมนแบบใหม่ให้สัมผัสที่ดียิ่งขึ้นเมื่อถืออยู่ในมือ โดยผลิตออกมาให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเหลือง, สีเขียว, สีฟ้า, สีดำ และ สีชมพู ซึ่งเป็นสีที่ทีมงาน @Flashfly ได้รับมารีวิว และได้นำเสนอดีไซน์รอบด้านให้ชมกันไปแล้วในบทความแกะกล่อง
iPhone 15 Plus ถือเป็นในสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการแต่งสีกระจกด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมเสริมความแข็งแกร่งด้วยกระบวนการแลกเปลี่ยนไอออนคู่ที่ปรับปรุงใหม่ ก่อนจะขัดเงาด้วยอนุภาคผลึกนาโนและสลักลงบนผิวเพื่อสร้างพื้นผิวด้านที่หรูหรา
ด้านหน้ามาพร้อมจอแสดงผล Super Retina XDR ขนาด 6.7 นิ้ว ให้ความสว่างสูงสุดมากกว่ารุ่นก่อนถึง 2 เท่า อีกทั้งยังได้รับ Dynamic Island แบบเดียวกับรุ่น Pro ทำให้ iPhone รุ่นใหม่ในปีนี้ไม่มีรอยบากอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ ตัวเครื่องด้านหน้ายังได้รับการป้องกันด้วย Ceramic Shield ที่มีความแข็งแกร่ง
iPhone 15 Plus ยังได้รับการปรับปรุงเรื่องการซ่อมแซมให้ง่ายขึ้น และออกแบบมาให้สามารถต้านทานน้ำและฝุ่นที่ระดับ IP68 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529 เรียกได้ว่ามีความทนทานในระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม
จอขนาด 6.7 นิ้ว สว่าง 2000 นิต
iPhone 15 Plus มาพร้อมจอแสดงผล Super Retina XDR ความละเอียด 2796 x 1290 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 458 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) พร้อมเทคโนโลยี OLED ที่รองรับความสว่างสำหรับคอนเทนต์แบบ HDR สูงสุดถึง 1600 นิต และยังสามารถเร่งความสว่างขณะอยู่กลางแจ้งได้ถึง 2000 นิต หรือสว่างเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
จอแสดงผลของ iPhone 15 Plus ยังให้อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000:1 สนับสนุนการแสดงผลแบบ True Tone รองรับขอบเขตสีกว้าง (P3) และไม่มีรอยบากบนหน้าจออีกต่อไปแล้ว เพราะเปลี่ยนมาใช้ Dynamic Island
Dynamic Island
Apple เริ่มนำ Dynamic Island มาใช้ครั้งแรกในปีที่แล้ว แต่จำกัดเฉพาะรุ่น Pro เท่านั้น จนมาถึงปีนี้ Apple ได้ขยาย Dynamic Island มายังรุ่นพื้นฐานด้วย นั่นทำให้ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ไม่มีรอยบากอันเป็นเอกลักษณ์มาตั้งแต่ iPhone X ในปี 2017 และทำให้ดีไซน์ด้านหน้าของ iPhone 15 รุ่นพื้นฐาน ดูเหมือนรุ่น Pro มากยิ่งขึ้น
Dynamic Island เป็นพื้นที่สำหรับโต้ตอบกับการแจ้งเตือน และ กิจกรรมสด (Live Activities) ซึ่งมีจุดเด่นที่สามารถขยายออกและปรับเปลี่ยนได้อย่างไหลลื่น ช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นเส้นทางบนแผนที่ ควบคุมเพล และยังผสานการทำงานกับแอปยอดนิยมมากมาย เพื่อรับการอัปเดตแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นแอปส่งอาหาร รายงานผลการแข่งขันกีฬา วางแผนการเดินทาง และ อีกมากมาย
Face ID
เช่นเดียวกับรุ่น Pro ถึงแม้ iPhone 15 Plus จะทิ้งรอยบากมาเป็น Dynamic Island แต่ยังคงรองรับวิธีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าผ่าน Face ID โดยใช้ระบบกล้อง TrueDepth ที่ซ่อนอยู่ในพื้นที่ Dynamic Island สามารถสแกนใบหน้าเจ้าของ iPhone ในรูปแบบ 3D มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย และสามารถสแกนใบหน้าได้ไม่ว่าจะอยู่ในที่มืดหรือสว่าง
กล้องคู่สุดล้ำกล้องหลัก 48MP
กล้องหลังของ iPhone 15 Plus เป็นอีกฟีเจอร์ที่ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะกล้องหลักที่มีความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล เทียบเท่า Phone 15 Pro จากรุ่นก่อนที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และถึงแม้จะขาดกล้อง Telephoto แบบรุ่น Pro แต่ก็สามารถซูมแบบออปติคัลได้สูงสุด 2 เท่า
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.6 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Sensor-shift OIS
- กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ให้มุมมองภาพ 120 องศา
ด้วยกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพและวิดีโอได้คมชัด เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยเซ็นเซอร์แบบ Quad-pixel และมี Focus Pixels 100% ช่วยให้ออโต้โฟกัสได้รวดเร็ว และเพื่อให้ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บภาพถ่ายความละเอียดสูงรวมถึงแชร์ต่อได้อย่างสะดวก iPhone 15 Plus ก็สามารถถ่ายภาพได้ด้วยค่าเริ่มต้นความละเอียดสูงเป็นพิเศษแบบใหม่ที่ 24 ล้านพิกเซล
ระบบกล้องคู่ของ iPhone 15 Plus ยังเป็นครั้งแรกที่รองรับการซูมแบบออปติคัลได้ถึง 3 ระดับ ได้แก่ 0.5 เท่า, 1 เท่า และ 2 เท่า รวมถึงซูมดิจิทัลได้สูงสุด 10 เท่า
Portrait Mode หรือโหมดภาพถ่ายบุคคลของ iPhone 15 Plus ก็ได้รับการปรับปรุงเป็นโหมดภาพถ่ายบุคคลเจเนอเรชั่นใหม่ ที่ให้รายละเอียดคมชัดมากขึ้น สีสันสดใสกว่าเดิม รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพในสภาวะแสงน้อยให้ดีขึ้น
เช่นเดียวกับ iPhone 15 Pro การถ่ายภาพบุคคลด้วย iPhone 15 Plus สามารถทำได้ทันทีในโหมด Photo ไม่ต้องเสียเวลาสลับไปโหมด Portrait เพราะ iPhone จะเก็บข้อมูลชัดลึกโดยอัตโนมัติเมื่อมีบุคคล สุนัข หรือแมว เข้ามาอยู่ในเฟรมภาพ และหลังจากถ่ายไปแล้ว สามารถเข้าไปเปลี่ยนจุดที่ต้องการโฟกัสได้ในภายหลังจากแอป Photos
โหมด Night ของ iPhone 15 Plus ได้รับการปรับปรุงให้รายละเอียดคมชัด และสีสันสดใสยิ่งกว่าเดิม ในกรณีที่มีแสงสว่างจ้าหรือไม่สม่ำเสมอ Smart HDR 5 จะเข้ามาช่วยถ่ายภาพบุคคล และฉากหลังด้วยการเรนเดอร์โทนสีผิวที่สมจริงยิ่งขึ้น ให้รูปภาพที่มีส่วนไฮไลท์สว่างขึ้น ส่วนมิดโทนที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น และส่วนเงามืดที่ดำสนิทกว่าเดิม
โหมด Video สามารถซูมดิจิทัลได้สูงสุด 6 เท่า รองรับการบันทึกวิดีโอในความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที รวมถึงการถ่ายวิดีโอ HDR แบบ Dolby Vision สูงสุด 4K ที่ 60 เฟรมวินาที และมาพร้อมโหมด Cinematic สำหรับถ่ายวิดีโอ 4K HDR ที่อัตรา 30 เฟรมวินาที นอกจากนี้ ยังรองรับ Action Mode ที่ยกมาจากรุ่นก่อน สำหรับถ่ายวิดีโอขณะกำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วด้วยความละเอียดสูงสุด 2.8K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที
กล้องหน้า 12MP TrueDepth Camera
กล้องหน้าของ iPhone 15 Plus ใช้สเปกเดียวกับ iPhone 15 Pro โดยมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสง f/1.9 มาพร้อมเทคโนโลยี Photonic Engine เพิ่มคุณภาพในการถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย รองรับ Smart HDR 5 และโหมด Portrait ก็ได้รับการปรับปรุงเป็นภาพถ่ายบุคคลเจเนอเรชั่นถัดใหม่พร้อมการควบคุมโฟกัสและระยะชัดลึก ให้รายละเอียดคมชัดมากขึ้น สีสันสดใสกว่าเดิม
โหมด Video ของกล้องหน้า สนับสนุนความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที รวมถึงการบันทึกวิดีโอ HDR ในแบบ Dolby Vision พร้อมด้วยโหมด Cinematic ความละเอียด 4K HDR ที่อัตรา 30 เฟรมวินาที และรองรับวิดีโอแบบ Slo-mo ความละเอียด 1080p ที่ 120 เฟรมวินาที
ตัวอย่างภาพถ่าย iPhone 15 Plus
ชิป A16 Bionic ระดับโปร
iPhone 15 Plus ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดีกว่ารุ่นก่อนด้วยชิป A16 Bionic ที่พบใน iPhone 14 Pro ประกอบด้วย CPU แบบ 6-core มาพร้อมคอร์ประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ ที่ใช้พลังงานน้อยลง 20% และคอร์ประหยัดพลังงานสูง 4 คอร์ สามารถทำงานได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าและจัดการกับงานหนักๆ ได้ง่ายดายโดยที่ยังคงมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับ GPU แบบ 5-core ที่มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำเพิ่มขึ้น 50% เพื่อกราฟิกลื่นไหลระหว่างการสตรีมวิดีโอและเล่นเกม
สำหรับ Neural Engine แบบ 16-core ใหม่นั้นก็สามารถประมวลผลได้เกือบ 17 ล้านล้านรายการต่อวินาที ทำให้การประมวลผลด้านการเรียนรู้ของระบบ หรือ Machine Learning รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยทั้งหมดทำงานภายใต้การปกป้องความเป็นส่วนตัวที่สำคัญ และรองรับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย เช่น การใช้ Secure Enclave
ครั้งแรกกับพอร์ต USB‑C
นอกจากจะลบรอยบากบนหน้าจอ Apple ยังติดสินใจทิ้งพอร์ตเชื่อมต่อ Lightning แล้วเปลี่ยนมาใช้ USB‑C ทำให้ iPhone 15 Series ทุกรุ่น สามารถใช้สายชาร์จ USB‑C เส้นเดียวกับ Mac และ iPad รุ่นใหม่ๆ ได้ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการพกพาอุปกรณ์ของ Apple หลายอย่างในกระเป๋าเดียวกัน
อย่างไรก็ตามพอร์ตเชื่อมต่อ USB‑C ใน iPhone 15 และ iPhone 15 Plus รองรับมาตรฐาน USB 2 ซึ่งมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 480Mbps ไม่ต่างจาก Lightning ที่ใช้ในรุ่นก่อน ยกเว้น iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max ที่ได้รับมาตรฐาน USB 3.0 สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 10Gbps เร็วกว่าเดิม 20 เท่า
Ultra Wideband 2
iPhone 15 Plus ยังได้รับการปรับปรุงชิป Ultra Wideband รุ่นที่ 2 ทำให้ iPhone 15 สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ในระยะที่มากกว่าเดิมถึง 3 เท่า และสามารถใช้ฟีเจอร์ค้นหาตำแหน่งที่ตั้งจริงสำหรับค้นหาเพื่อนๆ เพื่อแชร์และค้นหาตำแหน่งของเพื่อนได้แม้ในสถานที่พลุกพล่าน ซึ่งฟีเจอร์ค้นหาตำแหน่งที่ตั้งจริง (Precision Finding) ได้พัฒนาขึ้นภายใต้การคุ้มครองความเป็นส่วนตัวแบบเดียวกับที่ผู้ใช้มั่นใจจากแอป Find My
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
iPhone 15 Plus ถือเป็น iPhone ที่ให้อายุการใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ โดยรองรับการเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 26 ชั่วโมง หรือ นานสูงสุด 20 ชั่วโมง สำหรับการเล่นวิดีโอผ่านการสตรีม แต่ถ้าฟังเพลงจะอยุ่ได้นานถึง 100 ชั่วโมง
ด้านการชาร์จ iPhone 15 Plus สนับสนุนการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe สูงสุด 15W รวมถึงแท่นชาร์จไร้สายที่ได้รับมาตรฐาน Qi สูงสุด 7.5W และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว สามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยอะแดปเตอร์ขนาด 20W หรือสูงกว่า (อะแดปเตอร์และแท่นชาร์จไร้สาย ต้องหาซื้อแยกต่างหาก)
นอกจากนี้ iPhone 15 Plus ยังรองรับฟีเจอร์ Reverse Charging หรือ ใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นได้ 4.5W ผ่านสาย USB-C เหมาะสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับ AirPods หรือ Apple Watch ที่มีพอร์ต USB-C และรองรับการชาร์จแบบไร้สาย Qi2 ในอนาคต
สรุปราคาและการจำหน่าย
iPhone 15 Plus ได้รับการปรับปรุงรอบด้าน เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Plus โดยเฉพาะดีไซน์ที่มาพร้อม Dynamic Island และพอร์ต USB‑C ทำให้ภาพรวมดูคล้ายกับ iPhone 15 Pro อีกทั้งยังได้รับการปรับปรุงกล้องหลักให้มีความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล รองรับการซูมแบบออปติคัล 2 เท่า และให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยชิปรุ่นเดียวกับ iPhone 14 Pro ทำให้ iPhone 15 Plus เหมาะสำหรับผู้ใช้งาน iPhone รุ่นเก่าที่ต้องการอัปเกรดมาใช้ iPhone รุ่นใหม่ ที่มีประสิทธิภาพสูง ถ่ายภาพได้ยอดเยี่ยม ดีไซน์หรูหรา ให้ความทนทาน และยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ หากไม่ต้องการ iPhone 15 Pro
ทั้งนี้ iPhone 15 Plus พร้อมวางจำหน่ายแล้ว มาใน 5 สีใหม่ที่สวยงามสะดุดตา ได้แก่ สีชมพู, สีเหลือง, สีเขียว, สีฟ้า และ สีดำ
ราคา iPhone 15 Plus
- รุ่น 128GB ราคา 37,900 บาท
- รุ่น 256GB ราคา 41,900 บาท
- รุ่น 512GB ราคา 50,900 บาท
สำหรับ iPhone 15 เหมือนกับ iPhone 15 Plus เกือบทุกประการ แตกต่างที่ขนาดหน้าจอ โดยมีขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 2556 x 1179 พิกเซล ส่งผลให้ขนาดตัวเครื่องเล็กและเบากว่า เหมาะสำหรับคนเน้นพกพาสะดวก แต่ก็ต้องแลกกับขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กลงตามไปด้วย ส่งผลให้ iPhone 15 Plus มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานกว่า
ราคา iPhone 15
- รุ่น 128GB ราคา 32,900 บาท
- รุ่น 256GB ราคา 36,900 บาท
- รุ่น 512GB ราคา 45,900 บาท