หลังจากที่ Xiaomi เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 13T Series co-engineered with Leica ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Masterpiece in sight’ อย่างเป็นทางการในระดับโลกมาสดๆร้อนๆ วันนี้ก็พร้อมเข้ามาทำตลาดในไทยทันทีพร้อมกัน 2 รุ่นทั้ง Xiaomi 13T และ Xiaomi 13T Pro ที่มาพร้อมกล้อง Leica หน้าจอคุณภาพสูง สเปกแรง และชาร์จเร็วถึง 120W เลยทีเดียว แม้ว่าทั้งคู่จะดูคล้ายกันแต่ก็มีรายละเอียดแตกต่างกันอยู่พอสมควร ส่วนจะแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ทีมงาน @Flashfly พร้อมรีวิวให้อ่านแล้ว
ดีไซน์ระดับไฮเอนด์
Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T แชร์ดีไซน์ร่วมกันทั้งสีสันและวัสดุ มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black โดยสี Alpine Blue ให้ความพรีเมียมด้วยวัสดุหนังวีแกน Xiaomi BioComfort มีผิวสัมผัสนุ่มมือ ขณะที่สี Meadow Green และ Black ใช้วัสดุกระจก นอกจากนี้ Xiaomi 13T Series ทั้ง 2 รุ่น ยังได้รับการออกแบบมาให้ทนน้ำและกันฝุ่นที่ระดับ IP68
Xiaomi 13T Pro ที่อยู่ในมือของทีมงาน @Flashfly เป็นสีเขียว Meadow Green ฝาหลังเป็นวัสดุกระจกพื้นผิวมันเงา ขณะที่ Xiaomi 13T มาในสีฟ้า Alpine Blue ฝาหลังใช้วัสดุหนังวีแกน ช่วยให้ทีมงาน @Flashfly แยกแยะความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่น ได้ง่ายขึ้นระหว่างรีวิว เนื่องจากทั้ง 2 รุ่น มองเห็นความแตกต่างของดีไซน์ภายนอกได้ยากมาก
มุมมองด้านหน้าของทั้งคู่ ไม่มีความแตกต่างกัน มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ส่วนบนถูกเจาะหลุมไว้ตรงกึ่งกลางเพื่อฝังกล้องเซลฟี่ 20 ล้านพิกเซล และได้รับการป้องกันหน้าจอด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
Xiaomi 13T Series ยังมีขนาดตัวเครื่องเท่ากัน โดยมีความยาว 162.2 มิลลิเมตร กว้าง 75.7 มิลลิเมตร ส่วนความบางพบความแตกต่างเล็กน้อยของวัสดุฝาหลัง ตัวเลือก Alpine Blue ซึ่งใช้หนังวีแกน มีความบาง 8.62 มิลลิเมตร ส่วนตัวเลือก Meadow Green และ Black ที่ใช้แผงกระจก มีความบาง 8.49 มิลลิเมตร
ถึงแม้ Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T จะมีมิติตัวเครื่องเท่ากันทั้งความสูง ความกว้าง ความบาง แต่น้ำหนักไม่เท่ากัน Xiaomi 13T Pro มีน้ำหนัก 200 กรัม สำหรับตัวเลือก Alpine Blue และ 206 กรัม สำหรับตัวเลือก Meadow Green และ Black ขณะที่ Xiaomi 13T เบากว่าเล็กน้อย ชั่งได้ 193 กรัมสำหรับตัวเลือก Alpine Blue และ 197 กรัม สำหรับตัวเลือก Meadow Green และ Black
Xiaomi 13T Pro
Xiaomi 13T Pro มีความโดดเด่นที่ระบบกล้องหลังใช้เลนส์ออปติคอลระดับมืออาชีพจาก Leica สามารถถ่ายวิดีโอระดับ 10-bit LOG ถ่ายวิดีโอสูงสุด 8K ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เล่นวิดีโอนานสูงสุด 17 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็ว 120W มาพร้อมจอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ให้อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz ตัวเครื่องป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68
สเปก Xiaomi 13T Pro
- จอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตรารีเฟรช 144Hz
- กล้องหลัง 50MP + 50MP + 12MP Camera จาก Leica
- กล้องหน้า 20MP In-Display Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+
- ความจำ RAM 12GB (LPDDR5X) + ROM 512GB (UFS 4.0)
- ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, NFC
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13
- ได้รับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว Xiaomi 120W HyperCharge
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black
จอแสดงผล CrystalRes รีเฟซ 144Hz สว่าง 2600 นิต
Xiaomi 13T Pro มาพร้อมจอแสดงผล CrystalRes AMOLED ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 446 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 144Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 480Hz ให้ความสว่างทั่วไป 1200 นิต และความสว่างสูงสุด 2600 นิต สำหรับโหมด HBM (High Brightness Mode)
จอแสดงผล CrystalRes ของ Xiaomi 13T Pro ทำงานร่วมกับแอป Xiaomi Gallery เพื่อเปิดใช้งาน Pro HDR Display เมื่อรับชมคอนเท้นต์ HDR ช่วยเพิ่มความสว่างมากขึ้น 5 เท่า และยังรองรับงานตัดต่อวิดีโอที่ให้สีสันแม่นยำ โดยไม่ต้องเสียเวลาถ่ายโอนวิดีโอไปทำงานบนคอมพิวเตอร์ และมีเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูงสุด 2880Hz ช่วยถนอมด้วยตาด้วยการลดอัตราการกระพริบของหน้าจอ
นอกจากนี้ จอแสดงผลของ Xiaomi 13T Pro ยังให้สีสันคมชัดสมจริงด้วยความลึกสี 68 พันล้านสี ครอบคลุมช่วงสี DCI-P3 100% รองรับ Dolby Vision, HDR10+ ช่วยเพิ่มคอนทราสต์ในส่วนมืดและสว่าง และมาพร้อมลำโพงคู่ให้เสียงสเตอริโอ พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ทำให้ Xiaomi 13T Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งภาพและเสียง
กล้องหลัง 50MP เลนส์ออปติคอล Leica
มาถึงระบบกล้องหลัง 3 ตัว ที่ออกแบบร่วมกับ Leica ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นของ Xiaomi 13T Pro ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP มีความยาวโฟกัสเทียบเท่า 24 มม. พร้อมชุดเลนส์ 7P Aspherical Lens ช่วยให้จับแสงได้มากขึ้น ตัวเลนส์ยังผ่านการเคลือบ ALD (Atomic Layer Deposition) หลายชั้น เพื่อเพิ่มอัตราการส่งผ่านแสงและลดการสะท้อนของแสง ช่วยเพิ่มความคมชัดสมจริง เมื่อถ่ายภาพย้อนแสง ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน
- กล้องหลัก 50MP ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28 นิ้ว ความยาวโฟกัส 24 มม. รูรับแสง f/1.9 ชุดเลนส์ 7P ระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Telephoto 50MP ความยาวโฟกัส 50 มม. รูรับแสง f/1.9 ชุดเลนส์ 5P
- กล้อง Ultra-wide 12MP ความยาวโฟกัส 15 มม. รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 5P
แอปกล้องของ Xiaomi 13T Pro รองรับโหมดถ่ายภาพ Pro, Documents, Video, Photo, Portrait, Night, 50MP, Panorama, Short film, Slow motion, Time-lapse และ Long exposure โหมด Pro เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีทักษะการถ่ายภาพเป็นพิเศษ ไปจนถึงช่างภาพระดับมืออาชีพ ที่ไม่ต้องการพกพากล้อง DSLR ให้หนักกระเป๋า เพียงเข้าสู่โหมด Pro ก็สามารถปรับการตั้งค่ากล้องหลังของ Xiaomi 13T Pro ได้อย่างละเอียด
โหมด Photo สามารถซูมได้ตั้งแต่ระยะ 0.6x ไปจนถึง 20x สามารถเปิดฟังก์ชันการถ่ายภาพเพิ่มเติมได้จากปุ่มลูกศรชี้ลง ที่แถบด้านบน ซึ่งจะพบกับการใช้งานแฟลช, ปรับอัตราส่วนภาพถ่าย, สไตล์, HDR, ตาราง, AI, ตั้งเวลาถ่ายภาพอัตโนมัติ, สั่งถ่ายภาพด้วยเสียง, ติดตามโฟกัสอัตโนมัติตามการเคลื่อนไหว, Tilt-shift (ช่วยให้ภาพถ่ายเมืองดูเหมือนแบบจำลองหรือโมเดลขนาดเล็ก) และโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง
เมื่อเลือกสไตล์ในโหมด Photo จะพบกับสไตล์การถ่ายภาพ Leica Vibrant Look และ Leica Authentic Look เอกลักษณ์ของกล้อง Leica ช่วยให้ภาพถ่ายในฉากที่ทั้งส่วนมืดและสว่างสวยงามสมจริงตามแบบฉบับของกล้อง Leica (สามารถเปิดใช้งานสไตล์ได้ทันทีบนไอคอนที่มุมบนขวามือ ถัดจาก HDR)
- Leica Vibrant Look ให้ความสว่างและความอิ่มตัวของสีเพื่อสร้างเงาที่คมชัดและสีสันที่สดใสในขณะที่ยังคงรักษาความแม่นยำไว้
- Leica Authentic Look รักษาความคมชัดได้อย่างดีในระหว่างพื้นที่สว่างและที่มืด และมีความแม่นยำในการรักษา White Balance ในภาพ
โหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้ รวมถึงฟีเจอร์ Beautify และ Filters แต่ที่โดดเด่นก็คือ ฟิลเตอร์จาก Master-lens system ที่มีให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ Documentary 35mm, Swirly bokeh 50mm และ Soft focus 90mm ซึ่งทั้ง 3 แบบ ได้รับการพัฒนามาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานถ่ายภาพ Portrait ให้สวยงามราวกับมืออาชีพ ด้วยเอฟเฟกต์ละลายฉลากหลังโบเก้แตกต่างกันไปตามระยะ
โหมด Video รองรับการซูมตั้งแต่ระยะ 0.6x ไปจนถึง 10x สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 8K ที่อัตรา 24 เฟรมต่อวินาที มีฟีเจอร์ปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้แบบโหมด Portrait รวมถึงฟีเจอร์ Beautify และ Filters ส่วนแถบเครื่องมือด้านบน ยังมีฟีเจอร์ HDR, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว และตั้งค่าอื่นๆ
กล้องหลังของ Xiaomi 13T Pro รองรับการบันทึกวิดีโอ 10-bits LOG 4:2:0 H.265 ด้วย Rec.709 LUT ซึ่งปกติเป็นฟีเจอร์ที่พบได้เฉพาะกล้องของมืออาชีพ แต่ตอนนี้มาอยู่ใน Xiaomi 13T Pro จึงสามารถเลือกใช้สไตล์ LUT ได้อย่างง่ายดาย โดยเลือก LOG ภายใต้โหมด Pro และเลือก Rec.709 LUT นอกจากนี้ ยังสามารถนำเข้า LUT ที่เคยตั้งค่าไว้มาใส่ในสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Xiaomi 13T Pro ยังรองรับการถ่ายภาพแบบ Candid Snapshots ที่อาศัย Xiaomi Imaging Engine ช่วยให้กล้องจับภาพช่วงเวลาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้คมชัดทุกรายละเอียด เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแนวสตรีท และยังมีเทคโนโลยี Xiaomi ProFocus ให้รายละเอียดภาพที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพจากระยะใกล้ ภาพสัตว์เลี้ยง ไปจนถึงภาพผู้คน และสถานที่ต่างๆ พร้อมด้วยลายน้ำใหม่ 4 ตัวเลือกจาก Leica
กล้องหน้า 20MP
Xiaomi 13T Pro ซ่อนกล้องหน้าไว้ในหลุมบนหน้าจอ โดยมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 5P Aspherical Lens รองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ด้วยโหมด Photo ซึ่งมีฟีเจอร์ Beautify สามารถปรับความงามได้ละเอียด รวมถึง Filters สำหรับเปลี่ยนโทนสีหรืออารมณ์ของภาพถ่าย อีกทั้งยังรองรับโหมด Portrait สามารถปรับค่า F เพื่อละลายฉากหลังได้
โหมด Video ของกล้องหน้า มีฟีเจอร์ Bokeh สำหรับละลายฉากหลัง ฟีเจอร์ Beautify สามารถปรับความงามได้อย่างละเอียด รวมถึง Filters เปลี่ยนโทนสีของวิดีโอ สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p และรองรับ HDR ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับวิดีโอในสภาพแสงที่ซับซ้อน
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิป Dimensity 9200+
Xiaomi 13T Pro ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+ ซึ่งได้รับการปรับปรุงมาจาก Dimensity 9200 ที่มีกระบวนการผลิต 4nm รุ่นที่ 2 ของ TSMC ประกอบด้วย CPU แบบ Octa Core (1 + 3 + 4) Arm Cortex-X3 ความเร็วสูงสุด 3.35GHz + Arm Cortex-A715 ความเร็วสูงสุด 3.0GHz + Arm Cortex-A510 ความเร็วสูงสุด 2.0GHz พร้อมด้วย GPU – Arm Immortalis-G715
ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 9200+ ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้ง CPU และ GPU ให้เร็วขึ้น 10% เมื่อเทียบกับชิป Dimensity 9200 อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่ 5000 ตารางมิลลิเมตร
ด้านความจำ ได้รับ RAM LPDDR5X ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM UFS 4.0 ขนาด 512GB สามารถขยาย RAM ได้อีก 6GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงสุด 18GB
ชาร์จเร็ว 120W HyperCharge
Xiaomi 13T Pro ให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวันด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถเล่นวิดีโอได้นานต่อเนื่อง 17 ชั่วโมง โดยมีชิป Surge G1 ของ Xiaomi ช่วยจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และยังมีเทคโนโลยี ISP (Internal ShortagePrecaution), SOA (Safety Operating Area) และ DTPT (DynamicTurbo Power Technology) เพิ่มความปลอดภัยให้กับแบตเตอรี่ตลอดการใช้งานและการชาร์จ
อีกไฮไลท์ของ Xiaomi 13T Pro คือการรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W HyperCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในระยะเวลาเพียง 19 นาที หรือ ชาร์จถึง 36% ในเวลา 5 นาที แต่น่าเสียดายที่ไม่แถมอุปกรณ์ชาร์จ 120W Power Adapter มาให้ในกล่อง ต้องหาซื้อแยกต่างหาก
Xiaomi 13T
Xiaomi 13T ได้รับฟีเจอร์คล้ายกับรุ่น Pro ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ออปติคอลระดับมืออาชีพจาก Leica แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh จอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ให้อัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz ตัวเครื่องป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 แต่ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8200-Ultra รองรับชาร์จเร็ว 67W แบตเตอรี่ให้อายุการใช้งานนานสูงสุด 16 ชั่วโมง และสามารถถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
สเปก Xiaomi 13T
- จอแสดงผล CrystalRes AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว อัตรารีเฟรช 144Hz
- กล้องหลัง 50MP + 50MP + 12MP Camera จาก Leica
- กล้องหน้า 20MP In-Display Selfie Camera
- ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8200-Ultra
- ความจำ RAM 12GB (LPDDR5) + ROM 256GB (UFS 3.1)
- ลำโพงคู่ รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- การเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4, NFC
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13
- ได้รับมาตรฐานป้องกันฝุ่นและน้ำ IP68
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- รองรับชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging
- มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black
จอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว
ไม่ว่าจะเป็นประสบการด้านภาพหรือเสียง Xiaomi 13T ตอบโจทย์ได้ดีไม่ต่างจากรุ่น Pro เพราะใช้สเปกหน้าจอเดียวกัน มาพร้อมจอแสดงผล CrystalRes AMOLED ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว ความหนาแน่นของพิกเซล 446 PPI (พิกเซลต่อนิ้ว) ให้อัตราการรีเฟรชสูงสุด 144Hz อัตราการตอบสนองต่อการสัมผัส หรือ Touch Sampling Rate ที่ 480Hz
จอแสดงผลของ Xiaomi 13T มีความลึกสี 68 พันล้านสี ครอบคลุมช่วงสี DCI-P3 100% รองรับ Dolby Vision, HDR10+ ให้ความสว่างทั่วไป 1200 นิต และความสว่างสูงสุด 2600 นิต สำหรับโหมด HBM (High Brightness Mode) และมีเทคโนโลยีปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ที่ความถี่สูงสุด 2880Hz ช่วยถนอมด้วยตาด้วยการลดอัตราการกระพริบของหน้าจอ ด้านเสียงได้รับลำโพงคู่ให้เสียงสเตอริโอ พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
กล้องหลัง 3 ตัวจาก Leica
อีกจุดเด่นที่ Xiaomi 13T ทำได้ดีไม่ต่างจากรุ่น Pro นั่นคือการใช้โมดูลกล้องชุดเเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัวที่ร่วมออกแบบกับ Leica จึงมั่นใจได้ว่า แม้ไม่ได้ใช้รุ่น Pro แต่ก็สามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอที่มีคุณภาพไม่ต่างกัน
- กล้องหลัก 50MP ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.28 นิ้ว ความยาวโฟกัส 24 มม. รูรับแสง f/1.9 ชุดเลนส์ 7P ระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Telephoto 50MP ความยาวโฟกัส 50 มม. รูรับแสง f/1.9 ชุดเลนส์ 5P
- กล้อง Ultra-wide 12MP ความยาวโฟกัส 15 มม. รูรับแสง f/2.2 ชุดเลนส์ 5P
อย่างไรก็ตาม Xiaomi 13T มีความแตกต่างจากรุ่น Pro เล็กน้อยในโหมด Video เพราะสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที และไม่สนับสนุนการบันทึกวิดีโอ 10-bit LOG
ตัวอย่างภาพถ่าย
ชิป Dimensity 8200-Ultra
Xiaomi 13T ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 8200-Ultra ซึ่งผลิตบนกระบวนการ 4nm ประกอบด้วย CPU แบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 3.1GHz พร้อมด้วย GPU – Arm Mali-G610 ด้านความจำ ได้รับ RAM LPDDR5 ขนาด 12GB จับคู่กับ ROM UFS 3.1 ขนาด 256GB สามารถขยาย RAM ได้อีก 4GB จึงเปรียบเสมือนมี RAM สูงสุด 16GB
ชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging
Xiaomi 13T รองรับการใช้งานที่ยาวนานด้วยความจุแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh เท่ากับรุ่น Pro สามารถเล่นวิดีโอได้นานต่อเนื่อง 16 ชั่วโมง แต่สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ชาร์จเร็วที่น่าพอใจ เพียงชาร์จทิ้งไว้ระหว่างอาบน้ำและทานอาหารในตอนเช้า Xiaomi 13T ก็พร้อมใช้งานตลอดทั้งวันแล้ว
สรุปราคาและการจำหน่าย
Xiaomi 13T Series ถูกสร้างมาให้เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่มีราคาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหนระหว่าง Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T ก็มห้ประสบการณ์การใช้งานไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลที่คมชัดจนจริง ระบบกล้องจาก Leica ที่หาไม่ได้จากสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ดีไซน์พรีเมียม กันน้ำได้ IP68 ความแตกต่างของทั้งคู่อยู่ที่ชิปประมวลผล และความจำ ซึ่งให้ประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไม่มากเท่าไร และการถ่ายวิดีโอของ Xiaomi 13T Pro มีฟีเจอร์เหนือกว่าที่วิดีโอ 8K รองรับการบันทึกวิดีโอ 10-bit LOG ทำให้ Xiaomi 13T Pro เหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์ถ่ายภาพที่พกพาได้สะดวก ขณะที่ Xiaomi 13T ก็มีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพได้อย่างดี
Xiaomi 13T Pro และ Xiaomi 13T มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Alpine Blue, Meadow Green และ Black
- Xiaomi 13T Pro รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 19,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
- Xiaomi 13T Pro รุ่นความจุ 16GB+1TB วางจำหน่ายในราคา 23,990 บาท ที่ Xiaomi Store และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสมาร์ทโฟน Xiaomi 13T Pro ล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 6 ตุลาคม 2566 รับฟรี! Xiaomi Watch S1 และ 120W Adapter รวมมูลค่าของสมนาคุณ 8,589 บาท1 (จำนวนจำกัด 1,000 ชิ้น)
- Xiaomi 13T รุ่นความจุ 12GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสมาร์ทโฟน Xiaomi 13T ล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 6 ตุลาคม 2566 รับฟรี! Xiaomi Watch S1 และ 67W Adapter รวมมูลค่าของสมนาคุณ 8,089 บาท1 (จำนวนจำกัด 1,000 ชิ้น)
โดย Xiaomi 13T Series จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม