Dyson แนะนำเครื่องดูดฝุ่นอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุด Dyson V12s Detect Slim Submarine สามารถดูดฝุ่นและถูพื้นได้ในเครื่องเดียว รวมถึงกำจัดฝุ่นพร้อมขจัดคราบของเหลว ไม่ว่าจะบนพื้นเปียกหรือแห้ง โดยมีหัวดูดทำความสะอาดมาให้ถึง 4 แบบ เพื่อการทำความสะอาดแบบครบวงจร ส่วนจะมีความน่าสนใจอย่างไร? ทีมงาน @Flashfly พร้อมรีวิวให้อ่านแล้ว
ดีไซน์ล้ำสมัย
นอกจากความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ของ Dyson ยังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในด้านการออกแบบ จึงไม่น่าแปลกใจที่ Dyson V12s Detect Slim Submarine จะมีดีไซน์ทันสมัยและแตกต่างจากเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปในตลาด โดยมีตัวเครื่องสีทองแดง ปุ่มเพาเวอร์สีแดง ด้านท้ายเป็นตัวกรอง HEPA อยู่ในกรอบสีฟ้า ส่วนกล่องเก็บฝุ่นแบบโปร่งใส ด้ามจับสีเทา โดยมีแบตเตอรี่แบบถอดออกได้อยู่ใต้มือจับ จึงสามารถซื้อแบตเตอรี่สำรองมาสลับเปลี่ยนได้เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการทำความสะอาดในคราวเดียวแบบไม่หยุดพัก
Dyson V12s Detect Slim Submarine มีท่อต่อสีทองแดง สำหรับใช้ดูดฝุ่น ถูพื้น หรือ ทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ ตามซอกที่เอื้อมไม่ถึง แต่ถ้าต้องการทำความสะอาดในรถยนต์ หรือ บนเฟอร์นิเจอร์ สามารถถอดท่อต่อได้เช่นกัน
เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12s Detect Slim Submarine ยังถูกออกแบบมาให้ง่ายในการประกอบแต่ละส่วนรวมถึงถอดออกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นตัวกรอง HEPA ด้านท้ายที่ใช้วิธีหมุนเกลียว กล่องเก็บฝุ่นสามารถเทฝุ่นทิ้งได้ง่ายๆ เพียงดันก้านสีแดงด้านใต้ออก แบตเตอรี่ที่อยู่ใต้มือจับ ก็มีสลักให้กด เพื่อปลดแบตเตอรี่ออกมา
มาถึงจุดเด่นของ Dyson V12s Detect Slim Submarine นั่นคือหัวดูดทำความสะอาดที่แถมมาให้ถึง 4 แบบ ได้แก่ หัวดูดลูกกลิ้งเปียก Submarine, หัวดูดทำความสะอาด Fluffy Optic, หัวดูดทำความสะอาด Motorbar และ หัวดูดเก็บเส้นผม แต่ละแบบมีความสามารถแตกต่างกันไป
ด้านหลังจะมีจอแสดงผลวงกลมบอกถึงประเภทของฝุ่นต่างๆที่ดูดเข้ามาในตัวเครื่อง รวมถึงบอกระยะเวลาการใช้งาน ด้านล่างจะมีปุ่มสลับโหมดการใช้งาน
หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Submarine
หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Submarine ถือเป็นไฮไลท์ของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นล่าสุดจาก Dyson ช่วยให้ Dyson V12s Detect Slim Submarine สามารถขจัดสิ่งสกปรก คราบฝังแน่น และเศษขยะชิ้นเล็กๆ อย่างเศษอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้น้ำหยดลงบนลูกกลิ้งทั้ง 8 จุด ที่อยู่ตลอดแนวลูกกลิ้งอย่างแม่นยำ
หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Submarine ได้รับการออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดด้วยน้ำ สามารถปล่อยน้ำลงบนลูกกลิ้งในปริมาณ 18 มิลลิลิตร ในทุกๆ 1 นาที ทำงานร่วมกับลูกกลิ้งมอเตอร์ไมโครไฟเบอร์ ระบบดูดจับ และระบบคัดแยกสิ่งสกปรก โดยใช้ช่องแรงดันเพื่อให้น้ำหยดทั่วลูกกลิ้งอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ ทำให้หัวดูดลูกกลิ้ง Submarine กำจัดคราบสกปรกบนพื้นได้อย่างสะอาด ไม่ทำให้พื้นชุ่มน้ำมากเกินไป
หัวดูดลูกกลิ้งแบบเปียก Submarine มาพร้อมถังบรรจุน้ำสะอาดขนาด 300 มิลลิลิตร เพียงพอสำหรับการทำความสะอาดบนพื้นที่ 110ตารางเมตร ส่วนถังเก็บน้ำสกปรกมีขนาด 360 มิลลิลิตร โดยแผ่นเพลทด้านในจะแยกน้ำที่ปนเปื้อนกับสิ่งสกปรกออกจากหัวลูกกลิ้งและทิ้งน้ำนั้นลงในถังน้ำเสียที่แยกออกต่างหากเพื่อให้เททิ้งได้ง่าย มั่นใจได้ว่าฝุ่นและเศษขยะจะไม่กลับไปอยู่บนพื้นอีก นอกจากนี้ ลูกกลิ้งไมโครไฟเบอร์ ยังสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่าย
หัวดูดทำความสะอาด Fluffy Optic
หัวดูดทำความสะอาด Fluffy Optic ที่มาพร้อม Dyson V12s Detect Slim Submarine ได้รับการปรับปรุงเทคโนโลยีเลเซอร์ดักจับฝุ่นของ Dyson ให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นฝุ่นได้มากกว่าเดิม 2 เท่า สำหรับการทำความสะอาดในที่มืด
สายตาปกติของมนุษย์ไม่สามารถมองเห็นอนุภาคขนาดเล็กได้ แต่ด้วยแสงเลเซอร์สีเขียวในตำแหน่งปลายหัวดูด Fluffy Optic รุ่นใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้งานมองเห็นฝุ่นขนาดจิ๋วบนพื้นได้มากกว่าเดิม 2 เท่า จึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจดและง่ายดาย
หัวดูดทำความสะอาด Motorbar
หัวดูดทำความสะอาด Motorbar ถือเป็นหัวดูดอเนกประสงค์ของ Dyson อย่างแท้จริง เพราะถูกสร้างมาให้สามารถทำความสะอาดได้ทุกพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นพื้นแข็ง อย่าง กระเบื้อง ปาเกต์ พื้นปูน หรือแม้แต่พื้นพรม ก็ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด โดยมีมอเตอร์ภายในหัวแปรงช่วยดันขนแปรงไนลอนแข็งให้เข้าไปในพรม เพื่อกำจัดฝุ่นที่ฝังลึก และยังช่วยไม่ให้เส้นผมพันกันได้อีกด้วย
หัวดูดเก็บเส้นผม
สำหรับบ้านไหนที่มีสัตว์เลี้ยงขนปุยหรือต้องการทำความสะอาดเส้นผมบนพื้น หัวดูดเก็บเส้นผมของ Dyson ถือเป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยม เพราะได้รับการออกแบบขนแปรงให้ทำมุมอย่างแม่นยำบนแถบแปรงทรงกรวย เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมพันรอบแกนดูด และยังช่วยให้เส้นผมที่ถูกดูดลงมาตามแท่งแปรงอย่างง่ายดาย สามารถม้วนเส้นผมให้หลุดออกไปที่ถังเก็บฝุ่นได้รวดเร็ว
หัวดูดเก็บเส้นผมของ Dyson มีจุดเด่นที่เทคโนโลยีป้องกันการติดพันของเส้นผม ซึ่งสามารถกำจัดฝุ่นและเส้นผมจากฟูกที่นอน เตียงนอนสัตว์เลี้ยง เฟอร์นิเจอร์บุนวม และ บันได ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้มอเตอร์สำหรับทำความสะอาดในพื้นที่ขนาดเล็ก จึงทำความสะอาดในพื้นที่แคบได้อย่างสะดวก
ตัวกรอง HEPA
นอกจากดูดฝุ่น ถูพื้น Dyson V12s Detect Slim Submarine ยังมีระบบการกรอง HEPA ที่ช่วยดักจับพร้อมกักเก็บฝุ่นละอองขนาดจิ๋วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่น เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง โดยใช้ระบบการกรอง HEPA ที่สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.1 ไมครอน ได้ 99.99%
Dyson V12s Detect Slim Submarine ใช้เซ็นเซอร์เพียโซ (Piezo Sensor) ที่ซ่อนอยู่ภายในช่วยวัดขนาดและนับจำนวนอนุภาคฝุ่นที่ถูกดูดเข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างแม่นยำถึง 15,000 ครั้งต่อวินาที เพื่อแสดงขนาดและจำนวนอนุภาคฝุ่นบนหน้าจอ LCD โดยจำแนกชนิดฝุ่นออกเป็น 4 หมวดหมู่หลัก ตามขนาดอนุภาค ช่วยให้ผู้ใช้งานทราบว่าบนพื้นเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกรูปแบบใด อาจจะเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กตั้งแต่ 10 ไมครอน ไปจนถึงฝุ่นละอองขนาดใหญ่กว่า 500 ไมครอน รวมถึงไรฝุ่น ที่มีขนาดประมาณ 180 ไมครอน แน่นนอนว่าฝุ่นเหล่านี้ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12s Detect Slim Submarine มองเห็นได้อย่างแม่นยำ
พลังมอเตอร์
Dyson V12s Detect Slim Submarine เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ทรงพลัง โดยใช้มอเตอร์ Dyson Hyperdymium ที่มีความเร็วในการหมุนสูงสุด 125,000 รอบต่อนาที 150 วัตต์ สร้างแรงดูดถึง 150 วัตต์ ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Root Cyclone ทำให้เกิดแรงดูดที่มีพลังมหาศาลถึง 100,000G จึงสามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ไม่เปลืองแรงทำความสะอาดหลายรอบ นอกจากนี้ ระบบของมอเตอร์ Dyson Hyperdymium ยังสามารถหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าสู่มอเตอร์
อายุการใช้งานแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ Dyson V12s Detect Slim Submarine ให้อายุการใช้งานยาวนานประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งรอบและใช้โหมด Eco แต่ด้วยการออกแบบให้สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ผู้ใช้งานจึงสามารถซื้อแบตเตอรี่สำรองมาสลับเปลี่ยนใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อยืดระยะเวลาในการทำความสะอาดให้ยาวนานขึ้น
สรุปราคาและการจำหน่าย
เห็นหน้าตาล้ำสมัยแบบนี้ Dyson V12s Detect Slim Submarine ไม่ได้มีไว้เป็นของประดับฝาบ้าน เพื่อบ่งบอกว่าเจ้าของบ้านเป็นคนคลั่งเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ถูกสร้างมาให้สามารถทำความสะอาดบ้านได้อย่างลึกล้ำจริงๆ ไม่ว่าจะดูดฝุ่น หรือ ถูพื้น ก็มีแรงดูดที่ทรงพลังจากมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงที่วิศวกรของ Dyson พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องทำซ้ำหลายรอบให้เหนื่อย อีกทังยังมีน้ำหนักเบา คล่องตัวด้วยการทำงานแบบไร้สาย สรุปแล้ว Dyson V12s Detect Slim Submarine ถือเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่มีพลังสูงคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
ทั้งนี้ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson V12s Detect Slim Submarine เริ่มวางจำหน่ายในไทยแล้ว ราคาเริ่มต้น 33,900 บาท สั่งซื้อได้ที่ www.dyson.co.th หรือร้าน Dyson Demo สาขาเมกาบางนา เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ไอคอนสยาม และ สยามพารากอน